คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อันตราย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 147 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 39/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้เพื่อป้องกันอันตรายต่อตนเองและน้องสาว มิใช่การทำร้ายร่างกายโดยสมัครใจ
ผู้ตายฉุดน้องสาวจำเลยไปจำเลยติดตามไปทัน ผู้ตายเข้าทำร้ายจำเลย จำเลยจึงต้องต่อสู้และได้รับบาดเจ็บถึง 7 แห่ง เหตุที่เกิดขึ้นจึงมิใช่จำเลยหาเหตุสมัครใจเข้าทำร้ายผู้ตาย ในเมื่อมีเหตุที่จำเลยต้องติดตามมาเอาน้องสาวคืน จึงเป็นการจำต้องทำเพื่อป้องกันอันตรายต่อร่างกายและชีวิตพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากผู้ถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ผู้ตายเป็นผู้ก่อเหตุระรานจำเลยโดยแสดงวาจาท้าทายจะทำร้ายพร้อมทั้งมีมีดดาบขยับอยู่ในมือรุกประชิดจำเลยเข้าไปทุกที จำเลยก็ได้แต่ถอยหลังไปทางเรือน เมื่อเป็นการจวนตัวใกล้อันตรายจากผู้ตายเต็มทีเช่นนี้ จำเลยจึงใช้มีดขอฟันผู้ตายไปเพียงทีเดียว ผู้ตายถึงตายเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พกปืนเข้าศาลละเมิดอำนาจศาล แม้ปกปิดไว้ ก็ถือว่าขาดความเคารพและอาจก่อให้เกิดอันตราย
พกปืนบรรจุกระสุนพร้อมเข้าไปในศาล แม้จะอยู่ภายในเสื้อปกปิด ก็แสดงว่าไม่มีการคารวะต่อศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1985/2497

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พกอาวุธเข้าศาลละเมิดอำนาจศาล แม้ปกปิดก็ถือว่าขาดความเคารพและอาจก่ออันตราย
พกปืนบรรจุกระสุนพร้อมเข้าไปในศาล แม้จะอยู่ภายในเสื้อปกปิด ก็แสดงว่าไม่มีการคารวะต่อศาล เป็นการละเมิดอำนาจศาล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 938/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ: การกระทำเพื่อหยุดยั้งอันตรายจากอาวุธของผู้ถูกทำร้าย
ผู้ตายจะเอาปืนยิงจำเลย จำเลยจึงเข้าแย่งปืน ๆได้ลั่นขึ้น 1 นัด แล้วผู้ตายเอาลูกกระสุนบรรจุปืนและจะยิงจำเลยอีก จำเลยจึงแทงเอาปืนหลุดจากมือผู้ตายแล้ว ผู้ตายยังจะแย่งเอาปืนอีก จำเลยจึงต้องแทงผู้ตายอีกหลายที และเอาปืน ยิงผู้ตายล้มลงขาดใจตาย ดังนี้ ไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุ เพราะเมื่อผู้ตายยังพยายามจะแย่งเอาปืนจากจำเลย แล้ว อันตรายก็ยังมีอยู่ จำเลยจะหยุดยั้งเสียไม่ได้เพราะเป็นเวลาฉุกเฉิน การกระทำของจำเลยจึงได้รับการยกเว้น โทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาอันตรายจากอาวุธและบาดแผล
ฟ้องขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249,60 ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงพิพากษายกฟ้องแต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงบาดเจ็บตามมาตรา 254 จำคุก 2 ปี ดังนี้ โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฐานพยายามฆ่าคนตามมาตรา 249,60 ได้ไม่ต้องห้าม
ปืนที่จำเลยใช้ยิงเขาเป็นปืนลูกซองพก ยาวราว 1 คืบกระสุนโตเท่าเมล็ดพริกไทย ยิงในระยะห่าง 5 วาถูกผู้เสียหายกระสุนฝังเนื้อกล้าม หมอได้แคะออกแสดงว่าฝังอยู่ตื้นๆ ผู้เสียหายคนหนึ่งรักษาบาดแผล 10 วันหายอีกคนหนึ่งรักษา 6-7 วันหายประกอบกับโจทก์ไม่ได้สืบว่าปืนนี้ หรือปืนชนิดนี้อย่างนี้มีกำลังแรงมากน้อยเพียงไร สามารถยิงให้ถึงตายได้หรือไม่นั้นควรฟังว่าปืนที่ยิงนั้น ไม่สามารถจะทำให้ผู้ถูกยิงถึงแก่ความตายได้ จำเลยจึงยังไม่ผิดฐานพยายามฆ่าคนตายคงผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวโดยชอบธรรม: เหตุทำร้ายเกิดขึ้นก่อน, จำเลยตกอยู่ในภาวะอันตราย, และการใช้สิทธิป้องกันตัวที่สมควร
จำเลยไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุขึ้นก่อนแต่ผู้ตายเข้าใจว่าจำเลยตีภริยาตนจึงเกิดโทสะชักมีดวิ่งมาทำร้ายจำเลย ถึงกับกระโดดจากสะพานน้ำไปหาจำเลยในเรือแล้วตกลงไปในน้ำด้วยกันผู้ตายโผกอดปล้ำเอามีดทำร้ายจำเลยมีบาดเจ็บถึง 4 แห่ง จนจมน้ำไปด้วยกัน เมื่อต่างโผล่ขึ้นมาแล้วจำเลยจะต้องนึกรู้ว่าตนจะถูกทำร้ายอีกและจำเลยกำลังอ่อนเพลียเพราะต้องจมน้ำ และน้ำตรงนั้นก็ลึกหยั่งไม่ถึงจะหลีกเลี่ยงด้วยวิธีอื่นไม่ได้ จำเลยจึงยิงผู้ตายตาย ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันตัวที่ไม่เกินสมควรแก่เหตุ ควรได้รับยกเว้นโทษตามมาตรา 50

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัว: การใช้กำลังเพื่อปกป้องตนเองจากอันตรายที่ใกล้จะถึง แม้จะเป็นการตอบโต้
ผู้ตายขึ้นไปใช้ไม้ตีจำเลยซึ่งนั่งห้อยเท้าอยู่ริมพื้นเรือน จนคิ้วแตก และยังใช้มีดแทงซ้ำอีก จำเลยกดมือผู้ตายที่ถือมีดไว้กับพื้นเรือน แล้วจำเลยชักมีดของจำเลยแทนผู้ตายถูกกลางหลัง 1 ที ต่อมาผู้ตายก็ถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลที่จำเลยแทง ดังนี้ วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่ควรลงโทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 871/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดัดแปลงปืน: การตอกตราเลขเครื่องหมายใหม่ ไม่ถือเป็นความผิด หากไม่ก่อให้เกิดอันตราย
ข้อเท็จจริงได้ความเพียงตามคำรับของจำเลยว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้มี และใช้ปืนแล้วแต่เลขเครื่องหมายเดิมที่พานท้ายปืนลบเลือนไปจำเลยจึงตอกตราเลขเครื่องหมายเสียใหม่ด้วยตนเองดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ขาดว่าการกระทำของจำเลยอยู่ในลักษณะสามารถที่อาจจะเกิดความเสียหายขึ้นแก่สาธารณะชน หรือแก่ผู้หนึ่งผู้ใดจำเลยจึงยังไม่ผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 223,224 (อ้างฎีกาที่1006/2481)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวต้องสมเหตุสมผล ไม่เกินขอบเขตแห่งอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น
ผู้ตายกับจำเลยเดินมาด้วยกัน ผู้ตายเมาสุราจนเดินโซเซและไม่มีอาวุธอะไร ย่อมเห็นได้ว่าไม่มีความจำเป็นอันใด ที่จำเลยจะต้องทำร้ายผู้ตายเลย แต่จำเลยกลับไปยืนถือมีดคอยทีอยู่อีก เมื่อผู้ตายวิ่งเข้าชกจำเลย จำเลยก็แทงเอา เช่นนี้จะเรียกว่าจำเลยกระทำไปเพื่อป้องกันชีวิต เกียรติยศชื่อเสียงหาได้ไม่
of 15