คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจหน้าที่

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 231 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 762/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลือกตั้งสมาคม: การเลือกสถานที่และผู้มีอำนาจออกหนังสือแจ้งการประชุม
การที่จำเลยที่ 1 กับพวกไม่ได้จัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นในที่ทำการของสมาคมเป็นเพราะมีเหตุจำเป็นเนื่องจากคณะกรรมการสมาคมชุดอื่นเป็นฝ่ายครอบครองอาคารที่ทำการของสมาคมอยู่ หากเข้าไปจัดในสถานที่นั้นอาจมีเรื่องวิวาทบาดหมางเกิดขึ้นได้ ห้องประชุมของสมาคมก็เล็กไม่เหมาะสำหรับใช้เป็นที่ประชุมใหญ่ซึ่งมีจำนวนสมาชิกมาก ทั้งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติก็แจ้งว่า สถานที่ใดซึ่งสมาคมเช่าไว้ก็ใช้เป็นสถานที่สำหรับทำการเลือกตั้งได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ตั้งของสมาคมเสมอไปเห็นได้ว่าข้อบังคับของสมาคมในข้อนี้ไม่ใช่เป็นข้อบังคับอันเด็ดขาด หากมีความจำเป็นหรือเพื่อความเหมาะสมก็อาจใช้สถานที่อื่นเป็นที่ทำการเลือกตั้งได้ ทั้งไม่ปรากฏว่าโจทก์และสมาชิกอื่นได้รับความเสียหาย จึงยังถือไม่ได้ว่าการเลือกตั้งไม่ชอบเพราะเหตุที่ไม่ได้จัดให้มีขึ้นในที่ทำการของสมาคม
ตามระเบียบของสมาคมระบุให้การออกหนังสือแจ้งวันนัดประชุมใหญ่แก่สมาชิกเป็นหน้าที่ของกรรมการและเลขานุการ แต่เลขานุการติดธุระ จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นอุปนายกของสมาคมจึงทำการแทน และจำเลยที่ 1 ลงนามในหนังสือดังกล่าวในฐานะรักษาการแทนเลขานุการสมาคม จึงถือได้ว่าการออกหนังสือดังกล่าวเป็นการออกโดยเลขานุการของสมาคมตามข้อบังคับของสมาคม การเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมได้ดำเนินการไปโดยชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 300/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่จ่ายสินบนนำจับเป็นของอธิบดีกรมศุลกากร ไม่ใช่จำเลยในคดีนี้
จำเลยทั้งสองไม่มีอำนาจหรือหน้าที่ในการจ่ายเงินสินบนนำจับแต่อย่างใดผู้ที่มีหน้าที่ในการจ่ายสินบนนำจับคืออธิบดีกรมศุลกากรตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469มาตรา 102 ตรีแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่ 12) พ.ศ.2497 มาตรา 9 และในการขอรับเงินสินบนนำจับนั้น จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิจะขอรับ เป็นเรื่องผู้แจ้งความนำจับที่จะขอรับโดยเจ้าหน้าที่ผู้รับแจ้งความลงชื่อรับรองว่าผู้ขอเป็นผู้แจ้งความนำจับ ปรากฏตามระเบียบศุลกากรโจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเอาเงินสินบนนำจับจากจำเลยทั้งสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2294/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะเจ้าพนักงานของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์และการแจ้งความเท็จ
คณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ได้รับการแต่งตั้งโดยอำนาจของกฎหมายให้ปฏิบัติราชการของกรมแรงงานตามที่กฎหมายกำหนดอำนาจและหน้าที่ไว้ทั้งฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้างจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทแรงงานของคณะกรรมการดังกล่าวมิฉะนั้นมีความผิดและมีโทษทางอาญาคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์จึงเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1677-1678/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่ผู้จัดการธนาคารสาขา ไม่ถือเป็นผู้มีอำนาจให้บำเหน็จ/ลงโทษ จึงมีสิทธิเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานได้
การสอบสวนวินัยของคณะกรรมการสอบสวนวินัยของ ธนาคารออมสิน มิใช่เป็นการประชุมที่ทางราชการกำหนด การที่สหภาพแรงงานธนาคารออมสินโจทก์ส่งผู้แทนเข้าสังเกตการณ์การสอบสวนดังกล่าว จึงมิใช่เป็นการไปร่วมประชุมตามที่ทางราชการกำหนดตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา 102ผู้แทนโจทก์ที่เข้าสังเกตการณ์จึงไม่มีสิทธิลาโดยไม่ถือเป็นวันลา ลูกจ้างซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการให้บำเหน็จหรือการลงโทษที่ต้องห้ามมิให้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 มาตรา95 วรรคสองนั้น หมายถึงผู้มีอำนาจในการให้บำเหน็จความชอบหรือเป็นผู้มีอำนาจลงโทษลูกจ้างโดยตรง มิใช่เป็นเพียงผู้รายงานขอบำเหน็จความชอบหรือเสนอขอให้ลงโทษหรือกล่าวโทษพนักงานผู้กระทำผิดวินัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987-990/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตความรับผิดของนายจ้างต่อการกระทำของลูกจ้างที่นอกเหนือจากอำนาจหน้าที่
แม้จำเลยที่ 1 เป็นผู้ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายและถูกศาลพิพากษาลงโทษทางอาญาแต่เมื่อพยานหลักฐานของจำเลยที่ 2 มีน้ำหนักให้เชื่อว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่ขับรถ แต่นำรถคันเกิดเหตุของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นนายจ้างไปใช้โดยพลการ จึงมิใช่เป็นการกระทำของ ลูกจ้างในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องร่วมรับผิด กับจำเลยที่ 1 ต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 566/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรมตำรวจมีหน้าที่รับผิดตามสัญญาเช่าซื้อที่ดินที่กองสวัสดิการในสังกัดทำแทน แม้จะอ้างว่าเกินอำนาจ
กองสวัสดิการ กรมตำรวจ ด้วยการรู้เห็นยินยอมของกรมตำรวจเคยจัดสรรที่ดินให้ประชาชนโดยทั่วๆ ไปเช่าซื้อ เมื่อ ผู้เช่าซื้อชำระราคาครบถ้วนแล้วก็ทำการโอนกรรมสิทธิ์ให้ สำหรับที่ดินรายพิพาทนี้ ก่อนที่จะนำออกจัดสรรได้ประกาศโฆษณาให้ประชาชนได้ทราบโดยเปิดเผย โจทก์เชื่อ โดยสุจริตว่ากองสวัสดิการมีอำนาจหน้าที่ในการจัดสรรที่ดิน ให้เช่าซื้อได้ จึงได้ทำสัญญาเช่าซื้อที่ดินพิพาทกับ กองสวัสดิการ และได้ชำระเงินโดยครบถ้วน แต่ทาง กองสวัสดิการไม่สามารถโอนที่พิพาทให้แก่โจทก์ได้เพราะ เจ้าหน้าที่ทุจริต กรมตำรวจจึงได้มีคำสั่งให้รีบดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่โจทก์และผู้เช่าซื้อที่ชำระราคาที่ดินครบถ้วน ดังนี้ต่อมากรมตำรวจจะปฏิเสธความรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อโดยอ้างว่าไม่รู้และยินยอมให้กองสวัสดิการเชิดตัวเองออกแทนกรมตำรวจในการทำสัญญาเช่าซื้อหาได้ไม่
กรมตำรวจรู้และยินยอมให้กองสวัสดิการซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดทำสัญญาเช่าซื้อกับโจทก์แทน และได้รับ ผลประโยชน์ตอบแทนด้วย ดังนี้จะปฏิเสธความรับผิดชดใช้ ค่าเสียหายแก่โจทก์เพราะเหตุกองสวัสดิการผิดสัญญา โดยอ้าง ว่าเป็นเรื่องนอกวัตถุประสงค์และนอกเหนืออำนาจหน้าที่ ของกรมตำรวจหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2711/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่ออกบัตรประชาชนและเกณฑ์ทหาร: การฟ้องจำเลยที่ไม่มีอำนาจและพ้นตำแหน่ง
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้มีสัญชาติไทยได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยที่ 1 ที่ 2ซึ่งดำรงตำแหน่งนายอำเภอ น. และสัสดีอำเภอ น. ตามลำดับ เพื่อขอบัตรประจำตัวประชาชนและขอลงชื่อโจทก์ในบัญชีทหารกองเกิน จำเลยทั้งสองอ้างว่าโจทก์มิใช่ผู้มีสัญชาติไทยและไม่จัดการให้ ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสัญชาติไทย ให้จำเลยออกบัตรประจำตัวประชาชนให้โจทก์ ลงชื่อโจทก์ในบัญชีทหารกองเกินและออกใบสำคัญทหารกองเกินให้โจทก์ ดังนี้ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานตรวจบัตร ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2519 ออกตามความในพระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชนและกฎกระทรวง ฉบับที่ 40 ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร กำหนดให้อำนาจหน้าที่ในการออกบัตรประจำตัวประชาชน อำนาจในการลงชื่อในบัญชีทหารกองเกินกับออกใบสำคัญทหารกองเกินเป็นของนายอำเภอท้องที่ หาใช่สัสดีอำเภอไม่จำเลยที่ 2 จึงไม่มีอำนาจหน้าที่กระทำการตามที่โจทก์ขอในฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1 ได้ความว่าโจทก์ฟ้องภายหลังจากที่จำเลยที่ 1 พ้นตำแหน่งนายอำเภอ น. แล้ว และโจทก์มิได้ฟ้องนายอำเภอ น. แต่ฟ้องจำเลยที่ 1 เป็นส่วนตัว เมื่อขณะฟ้องจำเลยที่ 1 ไม่อาจปฏิบัติตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ศาลจึงมิอาจพิพากษาบังคับจำเลยทั้งสองหรือนายอำเภอ น. ซึ่งมิได้ถูกฟ้องคำขอที่ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้มีสัญชาติไทยเพื่อที่จะบังคับให้จำเลยทั้งสองออกบัตรประจำตัวประชาชนและออกใบสำคัญทหารกองเกินให้ จึงตกไปอยู่ในตัว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 324/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้าราชการสมุห์บัญชีมีอำนาจตรวจสอบภาษีอากร แม้ไม่รายงานอนุมัติก่อน ย่อมใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเมื่อเรียกเงินจากผู้ไม่มีบัญชี
จำเลยเป็นข้าราชการมีตำแหน่งเป็นสมุห์บัญชี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 2 คำว่า "อำเภอ" หมายความว่านายอำเภอหรือสมุห์บัญชีอำเภอและหมายความรวมถึงผู้ทำการแทนจำเลยมีอำนาจหน้าที่ตามประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรมีคำสั่งให้สมุห์บัญชีอำเภอมีอำนาจทำการตรวจสอบภาษีอากรโดยให้รายงานขออนุมัติสรรพากรจังหวัดก่อนทำการตรวจสอบฉะนั้นจำเลยจึงมีอำนาจในการตรวจสอบภาษีอากรโดยอาศัยคำสั่งอธิบดีกรมสรรพากรประกอบกับประมวลรัษฎากร การรายงานขออนุมัติเป็นเพียงระเบียบปฏิบัติภายใน การที่จำเลยไม่รายงานขออนุมัติหาใช่ว่าจำเลยจะไม่มีอำนาจตรวจสอบภาษีอากรไม่ การที่จำเลยไปเรียกตรวจสอบบัญชีภาษีเงินได้และภาษีการค้าจากผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายมิได้จัดทำบัญชีไว้ จำเลยก็ขู่เข็ญข่มขืนใจเรียกเอาเงินจากผู้เสียหาย ดังนี้ถือได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2650/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อยกเว้นค่าล่วงเวลาสำหรับลูกจ้างผู้มีอำนาจหน้าที่ทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ลูกจ้างมีอำนาจหน้าที่ทำการแทนนายจ้างโดยสมบูรณ์ในการจ้างคนงาน ไม่ว่าเป็นตัวคนที่ว่างงาน ค่าแรง ตลอดจนกรณีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการจ้างนั้น จึงเป็นกรณีที่ระบุตามข้อ 36 (1) แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานฯ ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา หาต้องพิจารณาว่าในการทำงานของลูกจ้าง ลูกจ้างจะต้องอยู่ภายใต้บังคับของนายจ้างหรือผู้แทนของนายจ้างหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2633/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจหน้าที่เทศบาลในการรับถนนและระวังแนวเขตที่ดิน: นายกเทศมนตรีไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายอาญา
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 53 เทศบาลไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องรับถนนที่มีผู้ยกให้และผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่มีอำนาจสั่งให้เทศบาลรับถนนที่มีผู้ยกให้ดังกล่าวนอกจากมีอำนาจควบคุมดูแลเทศบาลให้ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่โดยถูกต้องตามกฎหมายดังบัญญัติไว้ในมาตรา 71 เท่านั้น ฉะนั้น ถึงแม้จำเลยซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดที่สั่งให้จำเลยรับถนนที่โจทก์กับผู้มีชื่อยกให้ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา165
ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 50(2),53 เทศบาลมีหน้าที่จัดให้มีการบำรุงรักษาทางบก ทางน้ำ หาได้บัญญัติให้เทศบาล หรือจำเลยมีหน้าที่ต้องระวังแนวเขตและลงชื่อรับทราบแนวเขตตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 70ไม่ ฉะนั้นแม้จำเลยจะไม่ยอมลงชื่อรับรองแนวเขตทางสาธารณะ การกระทำของจำเลยก็ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
of 24