พบผลลัพธ์ทั้งหมด 129 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 343/2478
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงิน แม้ไม่มีคำว่า “กู้ยืม” ก็ฟังได้ หากมีรายละเอียดการรับเงินและดอกเบี้ย
เอกสารมีข้อความว่าได้รับเงินไปดังจำนวนที่ระบุไว้และกำหนดดอกเบี้ยด้วยแม้ไม่มีข้อความว่ากู้ยืมก็ฟังเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมได้ วิธีพิจารณาความแพ่ง ลักษณพะยาน พะยานเอกสารสืบแก้ไขในเอกสารซึ่งจำเลยเซ็นชื่อไว้มีข้อความว่าจำเลยเป็นผู้รับเงิน จำเลยจะนำสืบว่าตนไม่ได้รับเงินความจริงคนอื่นเป็นผู้รับเงินนั้นไม่ได้ เพราะเป็นการสืบแก้ไขเอกสารในหนังสือกู้ไม่มีข้อความเกี่ยวแก่การเป็นหุ้นส่วน ผู้กู้-จะสืบว่ารับเงินในฐานะเป็นหุ้นส่วนกันไม่ได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.9 ปัญหาซึ่งไม่ได้ยกขึ้นกล่าวในชั้นศาลล่าง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 146/2477
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงิน: หลักฐานการกู้ยืมจากเอกสารหลายฉบับรวมกันได้
อย่างไรเรียกว่ายึมเมื่อข้อความในเอกสารบ่งไปในทางยืมและมีการทวงกันในภายในหลังตอ้งฟังว่าเป็นการยืมพะยาน เอกสารหลายฉะบับมีข้อความเกี่ยวข้องติดต่อระวางกันเองรวมฟังเป็นหลักฐานได้ หลักฐานการกู้ยืม หนังสือที่มีไปขอยืมเงิน เซ็กสั่งจ่ายเงินและการเซ็นรับเงินไปรวมกันฟังได้ว่าเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535/2475
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทุจริตสำคัญกว่า: ปฏิเสธภายหลังเป็นผิดสัญญา ไม่ใช่ฉ้อโกง
ไปขอรับเงินค่าไถ่กระบือจากเจ้าทรัพย์ ครั้นเจ้าทรัพย์ไปทวงถามกลับปฏิเสธว่ามิได้รับเงินไปดังนี้ คดีเข้าลักษณผิดสัญญา หาใช่ผิดอาชญาฐานฉ้อโกงไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกู้ยืมเงินและสิ่งของ: หลักฐานการกู้ยืมที่สำคัญ
สัญญา กู้เงิน กู้เงินเกิน 50 บาท ต้องมีเอกสารให้เขายืมสิ่งของแลเงินไปทำทุนเข้า มาตรา 653 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชำระหนี้กู้ยืม: จำเลยมีสิทธิพิสูจน์การใช้เงิน แม้สัญญากู้จะระบุจำนวนเงินที่ต้องชำระ
ไม่บัญญัติถึงการชำระหนี้กู้ยืม วิธีพิจารณาแพ่ง หน้าที่จำเลยนำสืบว่าใช้เงินแล้ว ค่าธรรมเนียมเมื่อศาลสั่งย้อนสำนวนไปให้ตัดสินใหม่ เงินค่าธรรมเนียมให้รวมใช้ในคราวหลัง พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.4 แก้มาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 804/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด: รถยนต์ เงิน และโทรศัพท์
พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยฟังได้ว่า จำเลยใช้รถจักรยานยนต์ของกลางเป็นยานพาหนะไปรับเมทแอมเฟตามีนจากชายไม่ทราบชื่อตามที่ ส. ว่าจ้างเพื่อนำไปส่งลูกค้าของ ส. โดยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ติดต่อกับ ส. และได้รับเงินค่าจ้างก่อน 5,000 บาท จากนั้นจำเลยใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ติดต่อกับโทรศัพท์ของ ส. และ อ.ให้นำเงินมาให้จำเลยเพิ่มเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดังนี้ รถจักรยานยนต์ของกลางจึงเป็นยานพาหนะที่จำเลยได้ใช้ในการขนส่งลำเลียงเมทแอมเฟตามีน เงินของกลางจึงเป็นเงินที่จำเลยได้จากการรับจ้างขนเมทแอมเฟตามีน และโทรศัพท์เคลื่อนที่จึงเป็นเครื่องมือสื่อสารที่จำเลยใช้ในการติดต่อกับ ส. และ อ. ในการรับและส่งเมทแอมเฟตามีนของกลาง รถจักรยานยนต์ เงินและโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางจึงเป็นเครื่องมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะ ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ อันพึงต้องริบตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3859/2557
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเงินของตัวแทน และอำนาจศาลในการแก้ไขฐานความผิดเดิม
จำเลยที่ 1 มีหน้าที่นำน้ำมันของโจทก์ร่วมไปขายและรับเงินค่าขายน้ำมันจากลูกค้า ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้รับมอบเงินดังกล่าวไว้ในครอบครองในฐานะตัวแทนโจทก์ร่วมและมีหน้าที่ส่งมอบเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ร่วม เมื่อจำเลยที่ 1 เบียดบังเอาไปบางส่วน จึงเป็นการยักยอกเงินค่าขายน้ำมันของโจทก์ร่วม เป็นความผิดฐานยักยอก แม้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง ก็ไม่ถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้องในสาระสำคัญและจำเลยที่ 1 ไม่ได้หลงต่อสู้ ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ตามที่พิจารณาได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสาม ประกอบมาตรา 215, 225 ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1230/2556
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดตาม พ.ร.บ.เลือกตั้ง: การเตรียมเงินและบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจในการลงคะแนน
การที่เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยก่อนวันเลือกตั้งเพียง 1 วัน พร้อมยึดธนบัตรฉบับละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 933,000 บาท และบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งกับรายชื่อหัวคะแนนบรรจุในห่อใหญ่ 9 ห่อ ซึ่งมีบัญชีรายชื่อภายในแต่ละห่อมีห่อย่อย 37 ห่อ แต่ละห่อย่อยมีซองจดหมายบรรจุธนบัตร 2 ซอง แต่ละซองระบุเลขรหัสและชื่อบุคคลกำกับไว้อยู่ภายในกระเป๋าผ้าร่ม แม้ไม่ปรากฏว่าผู้ที่ไปพบบรรดาหัวคะแนนและแกนนำชาวบ้านเพื่อให้สนับสนุนโดยหาคนมาช่วยลงคะแนนให้ อ. ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหมายเลข 9 มีการให้สิ่งตอบแทนแก่คนเหล่านั้นแล้ว แต่ขณะจำเลยถูกเจ้าพนักงานตำรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้ มีการจัดทำธนบัตรของกลางไว้พร้อมโดยแยกเป็นห่อและเป็นซองย่อยพร้อมที่จะนำไปแจกจ่ายให้แก่หัวคะแนนหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งตามบัญชีรายชื่อในตำบลขุนยวมและตำบลเมืองปอน โดยลักษณะของการกระทำดังกล่าวถือว่าจำเลยจัดเตรียมเพื่อจะให้ธนบัตรของกลาง ซึ่งเป็นทรัพย์สินเพื่อจูงใจให้บรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครในเขตเลือกตั้งนั้น หรือผู้สมัครอื่นหรือพรรคการเมืองใดหรือให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด แม้จำเลยจะยังไม่ได้แจกจ่ายหรือให้ธนบัตรนั้นแก่บรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหลาย จำเลยก็กระทำความผิดสำเร็จตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2541 มาตรา 44 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 22267/2555
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกทรัพย์โดยจำเลยครอบครองเงินร่วมกับโจทก์ และการร้องทุกข์ที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย
กฎหมายมิได้กำหนดรูปแบบของการร้องทุกข์ว่าต้องดำเนินการอย่างไร การที่โจทก์ร่วมแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า ประสงค์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลย และพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำโจทก์ร่วมไว้ จึงถือว่าเป็นการร้องทุกข์แล้ว แม้พนักงานสอบสวนไม่ได้บันทึกการมอบคดีความผิดอันยอมความไว้ก็ตาม พนักงานสอบสวนก็มีอำนาจสอบสวนและโจทก์มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ร่วมมอบเงินให้จำเลยไว้ใช้จ่ายร่วมกันในครอบครัว การที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ร่วมเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถเปิดบัญชีได้ จำเลยจึงเปิดบัญชีและฝากเงินในชื่อของจำเลยเพียงคนเดียว ถือได้ว่าจำเลยครอบครองเงินที่โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เมื่อโจทก์ร่วมบอกให้จำเลยคืนเงินแต่จำเลยไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเบียดบังยักยอกเอาเงินซึ่งโจทก์ร่วมเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปเป็นของตนโดยทุจริต จำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้นไม่ แต่เมื่อโจทก์ร่วมและจำเลยเป็นเจ้าของร่วมกันในเงินดังกล่าว โจทก์ร่วมจึงมีสิทธิเพียงกึ่งหนึ่งในเงินจำนวนดังกล่าวเท่านั้น
โจทก์ร่วมมอบเงินให้จำเลยไว้ใช้จ่ายร่วมกันในครอบครัว การที่จำเลยอ้างว่าโจทก์ร่วมเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถเปิดบัญชีได้ จำเลยจึงเปิดบัญชีและฝากเงินในชื่อของจำเลยเพียงคนเดียว ถือได้ว่าจำเลยครอบครองเงินที่โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย เมื่อโจทก์ร่วมบอกให้จำเลยคืนเงินแต่จำเลยไม่ยอมคืนให้แก่โจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเบียดบังยักยอกเอาเงินซึ่งโจทก์ร่วมเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปเป็นของตนโดยทุจริต จำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอก หาใช่เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้นไม่ แต่เมื่อโจทก์ร่วมและจำเลยเป็นเจ้าของร่วมกันในเงินดังกล่าว โจทก์ร่วมจึงมีสิทธิเพียงกึ่งหนึ่งในเงินจำนวนดังกล่าวเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3879/2551
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนโรงงานรับเงินแล้วไม่แบ่งให้หุ้นส่วน ไม่เป็นความผิดฐานยักยอก เป็นเรื่องแพ่ง
เงินที่จำเลยรับมาในฐานะเป็นผู้บริหารกิจการประกอบกิจการโรงงาน ทั้งจำเลยเป็นหุ้นส่วนกับโจทก์ร่วมประกอบกิจการนั้น โจทก์ร่วมจะมีสิทธิได้เงินดังกล่าวหรือไม่ เพียงใด ก็ต้องอาศัยสัญญาหุ้นส่วนที่มีต่อกันเท่านั้น การที่จำเลยไม่ส่งเงินดังกล่าวให้โจทก์ร่วมก็เป็นเรื่องที่โจทก์ร่วมจะเรียกร้องเอาแก่จำเลยในทางแพ่ง จึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอกตาม ป.อ.มาตรา 352 วรรคแรก