คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ไม่อุทธรณ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 159 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1247/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีขัดทรัพย์: ศาลสั่งให้ฟ้องดำเนินคดีกับคู่กรณีอื่นก่อน ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
ในกรณีร้องขัดทรัพย์ เมื่อศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ไปจัดการฟ้องคดีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร้องเสียใหม่ และให้รอคดีร้องขัดทรัพย์ไว้รอฟังผลคดีใหม่ คำสั่งเช่นนี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1003/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษีการค้า ห้างหุ้นส่วนสามัญที่จดทะเบียนค้ามีหน้าที่เสียภาษี การไม่อุทธรณ์ทำให้ไม่มีอำนาจฟ้อง
ห้างหุ้นส่วนสามัญไม่ได้จดทะเบียน แต่ได้จดทะเบียนการค้าประเภทขายอสังหาริมทรัพย์ไว้แล้ว มีสถานการค้าที่แน่นอน เป็นหลักฐานประกอบกันแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ประกอบการค้าจึงต้องเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร
เมื่อห้างหุ้นส่วนสามัญดังกล่าวมีหน้าที่ต้องเสียภาษีการค้า จำเลยก็มีอำนาจใช้สิทธิประเมินเรียกเก็บตามประมวลรัษฎากรได้ โจทก์จะอ้างว่าเรียกคืนในฐานลาภมิควรได้ไม่ได้ เพราะการเรียกเก็บของจำเลยมีมูลที่จะอ้างได้ตามกฎหมาย เมื่อโจทก์เห็นว่าไม่มีหน้าที่ต้องเสีย หรือการประเมินเรียกไม่ถูกต้องอย่างไร ก็ชอบที่จะใช้สิทธิอุทธรณ์การประเมินเรียกเก็บนั้นตามบทบัญญัติในประมวลรัษฎากรเสียก่อน แต่โจทก์มิได้อุทธรณ์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
(อ้างฎีกาที่ 1895/2493, 519/2505)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1179/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งงดสืบพยานระหว่างพิจารณาคดี: ไม่อุทธรณ์ได้ทันที ต้องรอคำพิพากษา
การที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยกำหนดประเด็นหน้าที่นำสืบและมีคำสั่งให้งดสืบในประเด็นข้อใด เป็นการสั่งโดยอาศัยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 86 วรรคสอง ก่อนที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี จึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามมาตรา 226(1) จะอุทธรณ์ในทันทีทันใดมิได้ โจทก์ชอบที่จะโต้แย้งคำสั่งไว้ และอุทธรณ์คำสั่งนั้นได้เมื่อศาลพิพากษาหรือชี้ขาดตัดสินคดี กรณีไม่เข้าข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เสียทรัพย์และการยกฟ้องในคดีอาญา แม้จำเลยไม่อุทธรณ์
คดีอาญาซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลย โจทก์ฝ่ายเดียวอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำคุก โดยจำเลยมิได้อุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง ย่อมมีอำนาจพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมเสียสิทธิในการฟ้องจำเลยที่ 1 หลังศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ไม่อาจฎีกาใหม่ได้
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 1 (ตัวแทน) จำเลยที่ 2 (ตัวการ) ร่วมกันและแทนกันใช้เงินค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อไปจากโจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เท่านั้นใช้เงินค่าสินค้าแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยส่วนฟ้งอของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกเสียจำเลยที่ 2 เท่านั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามฟ้องอีกหาได้ไม่ ต้องถือว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 1 เป็นอันยุติลงตามกระบวนความเพียงแค่ศาลชั้นต้นไปแล้ว โจทก์คงฎีกาได้เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและผลของการไม่อุทธรณ์คดีจำเลยที่ 1
โจทก์ฟ้องขอบังคับให้จำเลยที่ 1(ตัวแทน) จำเลยที่ 2(ตัวการ) ร่วมกันและแทนกันใช้เงินค่าสินค้าที่จำเลยที่ 1 ซื้อไปจากโจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 เท่านั้นใช้เงินค่าสินค้าแก่โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ยส่วนฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ให้ยกเสีย จำเลยที่ 2 เท่านั้นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องของโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้จำเลยที่ 1 รับผิดตามฟ้องอีกหาได้ไม่ต้องถือว่าคดีสำหรับจำเลยที่ 1 เป็นอันยุติลงตามกระบวนความเพียงแค่ศาลชั้นต้นไปแล้ว โจทก์คงฎีกาได้เฉพาะที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14/2507

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่อุทธรณ์คัดค้านไม่ถือเป็นยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้องอุทธรณ์ ศาลต้องพิจารณาข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐาน
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ จำเลยไม่แก้อุทธรณ์ จะถือว่าจำเลยยอมรับข้อเท็จจริงตามฟ้องอุทธรณ์ของโจทก์ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 753/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาคดีกู้ยืมเงินที่มีการแก้ไขจำนวนเงินในสัญญา หากไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยประเด็นเดิม
โจทก์ฟ้องจำเลยกู้เงิน 22,500 บาทจำเลยปฏิเสธว่า ไม่ได้กู้ สัญญากู้ปลอม ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกู้จริง 2,500 บาท ส่วนเลข 2 และคำว่า สองหมื่น โจทก์เติมลงไป จึงให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 2,500 บาท โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิด 22,500 บาท จำเลยฎีกาศาลฎีกาฟังว่ามีการตกเติมจำนวนเงินให้มากขึ้นจริง แต่จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้จำเลยรับผิด 2,500 บาท จึงไม่มีประเด็นสำหรับเงินจำนวนนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำสั่งศาลงดสืบพยานไม่ใช่คำสั่งชี้ขาดเบื้องต้น คู่ความไม่อุทธรณ์ได้ทันที
คำสั่งของศาลชั้นต้นในเรื่องให้งดสืบพยานของคู่ความ เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ไม่ใช่คำสั่งพิจารณาปัญหาข้อกฎหมายชี้ขาดเบื้องต้น กรณีจึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะอุทธรณ์คำสั่งได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 707/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดต่างกรรมต่างกระทง ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจยกฟ้องความผิดเดิมที่ไม่อุทธรณ์
เมื่อโจทก์จำเลยไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยคงอุทธรณ์คัดค้านเฉพาะในความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานเท่านั้นถือว่า ความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯลฯ เป็นอันยุติแล้วศาลอุทธรณ์ย่อมไม่มีอำนาจที่จะยกฟ้องโจทก์ในข้อหาตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ เพราะเป็นความผิดต่างกรรมคนละกระทงคนละพระราชบัญญัติกับความผิดที่มีอุทธรณ์ขึ้นมา โจทก์อาจแยกฟ้องกระทงความผิดละสำนวนก็ได้(ประชุมใหญ่ครั้งที่11/2502)
of 16