พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,459 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1202/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำในคดีขับไล่: แม้ศาลฎีกาวางหลักใหม่ ก็ไม่อาจฟ้องซ้ำได้หากคดีเดิมถึงที่สุดแล้ว
โจทก์เคยฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากห้องเช่าของโจทก์ ศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว โจทก์จะมาฟ้องในมูลกรณีเดียวกันนั้นโดยอ้างว่าศาลฎีกาได้ พิพากษาวางหลักในเรื่องว่าสถานที่อย่างไรจึงเป็นเคหะอีกไม่ได้ เป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การเรียกร้องค่าเสียหายซ้ำซ้อนหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทำทำนบให้ดีตามสภาพเดิม หรือให้ใช้ราคาแล้ว โจทก์ควรจะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานขาดประโยชน์เพราะน้ำไม่เข้านา ทำนาไม่ได้ หรือได้ผลน้อยเสียในคดีเรื่องนั้น เมื่อโจทก์แยกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นอีกสำนวนหนึ่ง ดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในคดีละเมิด: การเรียกร้องค่าเสียหายที่ควรฟ้องรวมกันในคดีเดิม
โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้จำเลยทำทำนบให้ดีตามสภาพเดิม หรือให้ใช้ราคาแล้ว โจทก์ควรจะฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานขาดประโยชน์เพราะน้ำไม่เข้านา ทำนาไม่ได้ หรือได้ผลน้อยเสียในคดีเรื่องนั้น เมื่อโจทก์แยกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นอีกสำนวนหนึ่งดังนี้ เป็นการฟ้องซ้ำ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและสิทธิในมรดก: ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินตามสิทธิที่ปรากฏในคำพิพากษาเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งขอให้ห้ามจำเลยอย่าให้เข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท ศาลพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง คดีถึงที่สุด โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทแปลงนั้น ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีเป็นคนละประเด็น
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมฤดกอีก 3 คน สิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น.
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมฤดกอีก 3 คน สิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ-สิทธิในที่ดินมรดก: ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินตามสิทธิที่ปรากฏในคำพิพากษาเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งขอให้ห้ามจำเลยอย่าให้เข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท ศาลพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง คดีถึงที่สุด โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทแปลงนั้นดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะคดีเป็นคนละประเด็น
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมรดกอีก 3 คนสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ์ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมรดกอีก 3 คนสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ์ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำความผิดเดิม: โจทก์ฟ้องคดีซ้ำหลังจากศาลพิพากษาคดีเดิมเสร็จเด็ดขาดแล้ว ถือเป็นการฟ้องซ้ำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ ศาลได้พิพากษายกฟ้อง โดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงฟ้องจำเลยหาว่า ปลอมหนังสืออันเป็นความผิดเรื่องเดียวกันในคดีก่อน ศาลสอบถามโจทก์ถึงข้อที่จำเลยคัดค้านเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไม่ชัดแจ้ง โจทก์กลับยืนยันว่า ได้บรรยายฟ้องเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว เท่ากับโจทก์ยืนยันขอให้วินิจฉัยคดีว่า จำเลยจะมีความผิดตามคำกล่าวในฟ้องของโจทก์หรือไม่ ศาลก็ได้วินิจฉัยข้อหาตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นความผิดของจำเลยที่ได้ฟ้องจำเลยแล้วมาฟ้องอีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 744/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำความผิดเดิม: ศาลยกฟ้องเมื่อโจทก์ยืนยันฟ้องตามเดิม แม้ฟ้องใหม่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมหนังสือ ศาลได้พิพากษายกฟ้องโดยเห็นว่าฟ้องเคลือบคลุม โจทก์จึงฟ้องจำเลยหาว่าปลอมหนังสือ อันเป็นความผิดเรื่องเดียวกับในคดีก่อน ศาลสอบถามโจทก์ถึงข้อที่จำเลยคัดค้านเรื่องฟ้องเคลือบคลุมไม่ชัดแจ้ง โจทก์กลับยืนยันว่า ได้บรรยายฟ้องเพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วเท่ากับโจทก์ยืนยันขอให้วินิจฉัยคดีว่าจำเลยจะมีความผิดตามคำกล่าวในฟ้องของโจทก์หรือไม่ ศาลก็ได้วินิจฉัยข้อหาตามที่โจทก์กล่าวในฟ้องเสร็จเด็ดขาดไปแล้ว โจทก์จะรื้อฟื้นความผิดของจำเลยที่ได้ฟ้องจำเลยแล้วมาฟ้องอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดเดิม แม้บทลงโทษต่างกัน ศาลยกฟ้องตามหลักกฎหมายอาญามาตรา 39(4)
จำเลยนำเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งและร้องเรียนต่อปลัดอำเภอว่า ฮ. กับพวกปล้นทรัพย์ ปลัดอำเภอจึงจับ ฮ.กับพวกควบคุมไว้ โจทก์ได้ฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว ดังนี้ โจทก์จะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้ ฮ. กับพวกเสื่อมเสียอิสสระภาพไม่ได้เพราะการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท โจทก์ได้เลือกฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามบทใดบทหนึ่งเสร็จไปแล้ว ต้องวินิจฉัยว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดของจำเลย ซึ่งโจทก์ได้เลือกฟ้องนั้นแล้ว ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 39 (4).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 743/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องซ้ำในความผิดเดิม แม้จะใช้บทกฎหมายอื่น โจทก์เลือกฟ้องบทใดแล้วถือเป็นที่สุด
จำเลยนำเอาความที่รู้อยู่ว่าเป็นเท็จไปแจ้งและร้องเรียนต่อปลัดอำเภอว่า ฮ. กับพวกปล้นทรัพย์ปลัดอำเภอจึงจับฮ. กับพวกควบคุมไว้ โจทก์ได้ฟ้องขอให้ลงโทษฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษไปแล้ว ดังนี้โจทก์จะมาฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำให้ ฮ. กับพวกเสื่อมเสียอิสรภาพไม่ได้ เพราะการกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบท โจทก์ได้เลือกฟ้องขอให้ศาลลงโทษจำเลยตามบทใดบทหนึ่งเสร็จไปแล้ว ต้องวินิจฉัยว่าได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดของจำเลยซึ่งโจทก์ได้เลือกฟ้องนั้นแล้วตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 610/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตกลงยืดเวลาบังคับคดีมิใช่การยอมออกตามกฎหมาย จึงไม่ถือเป็นการฟ้องซ้ำ
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากที่เช่าจำเลยขอทุเลาการบังคับคดีศาลอุทธรณ์ได้ยกคำร้องขอทุเลาการบังคับ และนัดสอบถามจำเลยเรื่องให้ออกจากที่เช่า โจทก์จำเลยได้ยื่นคำแถลงต่อศาลร่วมกันว่า โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อกัน คือจำเลยยอมออกจากห้องพิพาทภายใน 3 เดือน ถ้าพ้นกำหนดนี้แล้วจำเลยยังไม่ออกจากห้องพิพาทจำเลยถือว่าได้ส่งคืนห้องให้แก่โจทก์แล้ว และยอมให้โจทก์ใช้สิทธิเข้าอยู่ในห้องนี้ได้ทันที และโจทก์ขอให้งดสอบถาม ดังนี้คำแถลงของโจทก์จำเลยเป็นแต่เพียงตกลงกันยืดเวลาในการบังคับคดีไปเท่านั้นมิใช่เป็นการยอมออกตามพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขันโจทก์จะนำมาฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยใหม่หาได้ไม่