คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กฎหมาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,377 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสที่ตกเป็นโมฆะเนื่องจากคู่สมรสมีอยู่แล้ว แม้มีการหย่าภายหลังก็ไม่อาจแก้ไขได้
บิดาโจทก์จดทะเบียนสมรสกับจำเลยในระหว่างที่ยังเป็นสามีที่ชอบด้วยกฎหมายของมารดาโจทก์ แม้ต่อมาบิดาโจทก์จะจดทะเบียนหย่าขาดจากกันก็ตาม การสมรสระหว่างบิดาโจทก์และจำเลยย่อมตกเป็นโมฆะ โจทก์ซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้เสียย่อมจะกล่าวอ้างขึ้นได้ และโมฆะกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้ การหย่ากันระหว่างบิดามารดาโจทก์ในภายหลังก็ไม่มีผลย้อนหลังไปถึงการสมรสระหว่างบิดาโจทก์กับจำเลย ซึ่งตกเป็นโมฆะไปก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 482/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานภาษีในการยึดทรัพย์และสิทธิในการเฉลี่ยทรัพย์ตามกฎหมาย
ประมวลรัษฎากรมาตรา 12 เป็นกฎหมายพิเศษให้อำนาจแก่เจ้าพนักงานที่จะเรียกเก็บภาษีอากรค้างโดยสั่งยึดและขายทอดตลาดทรัพย์สินได้เอง ไม่จำต้องนำคดีขึ้นฟ้องร้องต่อศาล ถือได้ว่าเป็นสิทธิอื่นๆซึ่งบุคคลภายนอกอาจร้องขอให้บังคับเหนือทรัพย์สินนั้นได้ตามกฎหมายซึ่งบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่กระทบกระทั่งถึงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287. เจ้าพนักงานซึ่งเป็นเจ้าหนี้ค่าภาษีการค้าและภาษีเทศบาลจึงมีสิทธิขอเข้าเฉลี่ยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 ได้ แม้จะมิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2682/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือตามกฎหมาย การตกลงเบื้องต้นยังไม่ถือเป็นสัญญา
จำเลยยื่นหนังสือเสนอขอซื้อเครื่องในสุกรชำแหละจากโจทก์โดยยินยอมทำสัญญาและวางเงินประกัน โจทก์มีหนังสือตอบสนองว่าผู้อำนวยการของโจทก์ได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วเห็นควรจำหน่ายให้จำเลยตามราคาที่เสนอขอซื้อ ให้ไปทำสัญญาซื้อขายและวางเงินประกัน ดังนี้ตามหนังสือเสนอสนองของโจทก์จำเลยดังกล่าว โจทก์จำเลยต่างก็มีเจตนาว่าสัญญาอันมุ่งจะทำต่อกันนั้นจะต้องทำเป็นหนังสือเสียก่อน ฉะนั้น กรณีของโจทก์จำเลยจึงยังมิได้มีสัญญาต่อกัน เพราะยังไม่ได้ทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 366วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องร้องบังคับให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายฐานผิดสัญญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2462/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีและการพิจารณาใหม่: เหตุผลอันสมควร, การยื่นคำขอ, และการนับระยะเวลาตามกฎหมาย
โจทก์ขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นมิได้สั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ หากพิพากษายกฟ้องโดยถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบสนับสนุนข้ออ้างของตน อันเป็นการพิพากษาให้โจทก์แพ้คดีในประเด็นที่พิพาท โจทก์มีคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา207 ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 กำหนดให้ยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลย มิใช่ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ทราบคำพิพากษาหรือคำสั่ง โจทก์ยื่นคำขอให้พิจารณาคดีใหม่ก่อนที่จะส่งคำบังคับตามคำพิพากษาให้แก่โจทก์ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208
แม้โจทก์ทนายโจทก์จะทราบวันเวลาที่ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์แล้วไม่มาศาล และไม่นำพยานมาศาลตามนัด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบก็ดี แต่ก่อนวันนัดโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นไปเผชิญสืบที่พิพาท และขอให้เลื่อนนัดสืบพยานโจทก์ไปก่อน ศาลชั้นต้นมิได้มีคำสั่งว่าไม่มีเหตุที่จะไปเผชิญสืบที่พิพาทหรือไม่อนุญาตให้เลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ไป หากมีคำสั่งแต่ว่า สำเนาให้จำเลยจะสั่งในวันนัด โจทก์และทนายโจทก์อาจเข้าใจว่าในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลชั้นต้นคงจะเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ไปและให้มีการเผชิญสืบที่พิพาทตามที่โจทก์ขอ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์และทนายโจทก์จึงไม่มาศาล และไม่นำพยานโจทก์มาศาล การขาดนัดพิจารณาของโจทก์มิได้เป็นไปโดยจงใจหรือไม่มีเหตุอันควรสมควรให้พิจารณาคดีใหม่ตามที่โจทก์ขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนรับรองบุตรและการเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความที่ขัดต่อกฎหมาย
บิดาของเด็กเท่านั้นที่จะจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรได้ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 เมื่อจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรแล้วก็จะถอนมิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1531 และเมื่อมีการจดทะเบียนดังกล่าวแล้วจะฟ้องขอให้ถอนการจดทะเบียนได้ก็ด้วยเหตุที่ว่าผู้ขอให้จดทะเบียนมิใช่บิดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1528 เท่านั้น
จำเลยยอมให้เงินโจทก์ 20,000 บาท เป็นค่าตอบแทนให้แก่โจทก์ในการที่โจทก์ยินยอมจะไปเพิกถอนการจดทะเบียนรับรองบุตร ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงที่ยุติว่าจำเลยมิใช่บิดาแท้จริงของเด็กนั้น สัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมของศาลจึงขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1528 ซึ่งเป็นบทกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2414/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจดทะเบียนรับรองบุตรจำกัดเฉพาะบิดา การเพิกถอนต้องมีเหตุผลตามกฎหมาย สัญญาประนีประนอมยอมความขัดต่อกฎหมาย
บิดาของเด็กเท่านั้นที่จะจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรได้ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1527 เมื่อจดทะเบียนเด็กเป็นบุตรแล้วก็จะถอนมิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1531 และเมื่อมีการจดทะเบียนดังกล่าวแล้วจะฟ้องขอให้ถอนการจดทะเบียนได้ก็ด้วยเหตุที่ว่าผู้ขอให้จดทะเบียนมิใช่บิดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1528 เท่านั้น
จำเลยยอมให้เงินโจทก์ 20,000 บาทเป็นค่าตอบแทนให้แก่โจทก์ในการที่โจทก์ยินยอมจะไปเพิกถอนการจดทะเบียนรับรองบุตรซึ่งไม่มีข้อเท็จจริงที่ยุติว่าจำเลยมิใช่บิดาแท้จริงของเด็กนั้น สัญญาประนีประนอมยอมความและคำพิพากษาตามยอมของศาลจึงขัดกับประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1528 ซึ่งเป็นบทกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 215/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่น การคบชู้ และพฤติกรรมภริยา ไม่เป็นเหตุให้หย่าตามกฎหมาย
ภริยาด่าสามีว่า 'ครูหมา โคตรพ่อโคตรแม่มึงเป็นหมากูจะมาเอาชีวิตมึง' เป็นเพียงดูหมิ่น ไม่ถือเป็นหมิ่นประมาทสามีและบุพการีอย่างร้ายแรง
ภริยาชอบเล่นการพนันสลากกินแบ่ง กินรวบ ไพ่ผสมสิบ ออกจากบ้านไปค้างที่อื่นครั้งละหลายๆ วัน ไปคบชายแปลกหน้าพากันไปในที่ต่างๆ ไม่เป็นจงใจละทิ้งเกิน 1 ปี หรือมีชู้ ภริยาไล่แทงแต่สามีหนีทันไม่ใช่ทำร้ายบาดเจ็บ ไม่เป็นเหตุหย่า
สามีภริยาตกลงหย่ากันต่อหน้าพยานหลายคน ไม่มีผลเป็นการหย่าตาม มาตรา 1498

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1990/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์สินจากการบังคับคดี: ผู้ร้องต้องยื่นคำขอภายในกำหนดตามกฎหมาย แม้เป็นเจ้าหนี้รายใหม่
จำเลยผิดนัดไม่ชำระเงินตามคำพิพากษาตามยอม โจทก์จึงขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดียึดทรัพย์จำเลย และในวันที่ 20 มิถุนายน2518 โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลอายัดเงินของห้างหุ้นส่วนจำกัด น.ซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นเงินค่าก่อสร้างจำนวน 52,600 บาท ซึ่งจะได้รับจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ศาลชั้นต้นออกหมายอายัดในวันที่โจทก์ยื่นคำร้องและสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเงินต่อศาลภายในกำหนด 10 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่งวันที่ 3 กรกฎาคม 2518 ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเงิน 52,600 บาทมาให้ตามหมายอายัด หนังสือนำส่งเงินมาถึงศาลชั้นต้นในวันที่ 4 กรกฎาคม 2518 ต่อมาวันที่ 14 กรกฎาคม 2518 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงิน 52,600 บาท ดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ดังนี้ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยเงินที่พิพาทหลังจากวันที่ศาลชั้นต้นได้รับเงินไว้แล้วถึง 9 หรือ 10 วันล่วงพ้นกำหนดเวลาตามความในตอนต้นของมาตรา 290 วรรคสี่แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว
การที่ผู้ร้องเพิ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2518 ซึ่งเป็นเวลาภายหลังจากวันที่ศาลชั้นต้นได้รับเงินที่อายัดไว้แล้ว นั้นย่อมถือไม่ได้ว่าเป็น " กรณีใด" ดังที่บัญญัติไว้ในตอนท้ายของมาตรา 290วรรคสี่ ตรงกันข้ามกลับจะแสดงว่าในวันที่ศาลชั้นต้นสั่งให้อายัดเงินที่พิพาทก็ดี หรือวันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเงินมาให้ศาลก็ดี ผู้ร้องยังหาได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งมีสิทธิที่จะยื่นคำขอเฉลี่ยเงินจำนวนพิพาทไม่ คำว่า"กรณีใดๆ" ในตอนท้ายของมาตรา 290 วรรคสี่นั้นเป็นเพียงข้อยกเว้นของตอนต้นเท่านั้น เมื่อกรณีใดต้องด้วยข้อความในตอนต้นโดยตรงแล้ว ก็ย่อมจะนำข้อยกเว้นมาใช้แก่กรณีนั้นอีกไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 19/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ งดบังคับคดีรอผลคดีอาญา: เหตุผลไม่เพียงพอตามกฎหมาย
ศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้ให้โจทก์แล้วต่อมาจำเลยยื่นคำร้องว่า บัดนี้ พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการฟ้องร้องโจทก์ในข้อหาเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราทำหลักฐานเท็จและหลีกเลี่ยงภาษีอากรแล้ว ขอให้สั่งงดการบังคับคดีไว้ รอฟังผลคดีอาญาดังนี้ ข้ออ้างของจำเลยไม่เข้ากรณีที่จะร้องขอให้งดการบังคับคดีได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 293 ทั้งไม่มีเหตุสมควรให้งดการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1743-1744/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมรสและการเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายในกรณีไม่มีกฎหมายจดทะเบียน
คนจีนแต่งงานกันในประเทศจีน ซึ่งในขณะนั้นไม่มีกฎหมายให้จดทะเบียนสมรส เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดจากสามีภริยานี้เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย
of 238