คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 982/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พินัยกรรมฉบับซ้ำ & การขีดฆ่าแก้ไข: สิทธิในการรับมรดกยังคงมีอยู่หากแก้ไขไม่ถูกต้อง
พินัยกรรมที่ทำขึ้นพร้อมกันหลายฉบับ และมีข้อความเหมือนกันทุกฉบับนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นต้นฉบับพินัยกรรมทั้งหมด ผู้มีสิทธิได้ทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้น จะอ้างสิทธิในพินัยกรรมฉบับใดขึ้นขอรับมรดกก็ได้
พินัยกรรมที่มีขีดฆ่าตกเติมหลายแห่ง ไม่มีพยานลงชื่อรับรองลายมือให้ถูกต้องทุกแห่งนั้น จะเสียก็เสียเฉพาะการขีดฆ่าตกเติมที่ทำไม่ถูกต้องเท่านั้น ไม่เสียหมดทั้งฉบับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับมรดก: สิทธิการรับมรดกของบุตรนอกกฎหมายและข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลงคำให้การ
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า.
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลย แต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้ จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลย ดังนี้ วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง.
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่ม เติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตาย,ตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การ เดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 641/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องแย้งและการเปลี่ยนแปลงคำให้การในคดีมรดก: ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม และไม่อนุญาตให้เปลี่ยนแปลงคำให้การขัดแย้งกับเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลแสดงว่านาและสวนพิพาท ซึ่งเป็นของผู้ตายตกเป็นมรดกแก่โจทก์ ผู้เป็นป้า
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นผู้รับมรดก เพราะผู้ตายเป็นบุตรจำเลยแต่มารดาผู้ตายซึ่งเป็นภรรยาจำเลยนั้น ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงขอให้ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าผู้ตายเป็นบุตรจำเลยดังนี้วินิจฉัยว่าฟ้องแย้งเป็นคนละส่วนจากฟ้องเดิม ศาลย่อมไม่รับเป็นฟ้องแย้ง
จำเลยยื่นคำให้การในชั้นแรกว่า นาและสวนพิพาทอันตกเป็นมรดกนั้น เป็นของผู้ตาย ภายหลังยื่นคำให้การเพิ่มเติมว่า นาและสวนพิพาทเป็นของมารดาผู้ตาย จำเลยครอบครองมาตั้งแต่มารดาผู้ตายตาย ดังนี้ ขัดกับคำให้การเดิม ศาลย่อมไม่อนุญาตให้เพิ่มเติมคำให้การเช่นนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนัดพร้อมกับนัดชี้สองสถาน: การยื่นเพิ่มเติมฟ้องหลังนัดพร้อมยังทันตามกฎหมาย
โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องมรดก เมื่อจำเลยยื่นคำให้การแล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นัดพร้อมครั้นถึงกำหนด คู่ความ ขอเลื่อนไปเนื่องจากมีทางตกลงกันได้ จนถึงกำหนดนัดพร้อมกันครั้งที่ 2 คู่ความก็ยังขอเวลาไปเจรจา เพื่อแบ่ง มรดกกันเองก่อน ขอให้ศาลงดคดีไว้ 1 เดือน ศาลก็อนุญาตดังนี้ การนัดทั้ง 2 ครั้งดังกล่าวย่อมถือว่าเป็นการนัด พร้อม ไม่ใช่นัดชี้สองสถาน และการนัดพร้อมทั้ง 2 ครั้งนั้นคู่ความหรือศาลก็หาได้กระทำอย่างหนึ่งอย่างใด อันจะเป็นการเรียกได้ว่า ได้มีการชี้สองสถาน ดังที่บัญญัติไว้ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 183 ไม่ จึงเรียกไม่ได้ว่ามีการชี้ สองสถานแล้ว./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดก: ทรัพย์สินที่จำเลยอ้างเป็นของตน หากศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นมรดก จะแบ่งเฉพาะผู้ที่อุทธรณ์เท่านั้น
ในคดีที่โจทก์หลายคนฟ้องจำเลย ขอให้แบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทรัพย์ของจำเลย ไม่ใช่มรดก เมื่อศาลชั้นต้น ฟังว่าทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยไม่ใช่มรดก จึงพิพากษาไม่ใช่แบ่งนั้น ถ้าโจทก์บางคนอุทธรณ์ขอให้แบ่งส่วนโจทก์บางคนไม่อุทธรณ์ ยินยอมตามคำพิพากษา ดังนี้ถ้าศาลอุทธรรณ์เห็นว่า ทรัพย์พิพาทตกเป็นมรดก อันจะต้องแบ่งให้ทายาทแล้วศาลอุทธรณ์ก็จะพิพากษาให้แบ่งเฉพาะโจทก์ที่อุทธรณ์ขึ้นมา เท่านั้นจะพิพากษาให้โจทก์ที่มิได้อุทธรณืขึ้นมาได้รับส่วนแบ่งด้วย ไม่ได้./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 509/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งมรดกเฉพาะส่วน ทายาทที่ไม่อุทธรณ์ไม่ได้รับส่วนแบ่ง
ในคดีที่โจทก์หลายคนฟ้องจำเลย ขอให้แบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่าเป็นทรัพย์ของจำเลย ไม่ใช่มรดก เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าทรัพย์พิพาทเป็นของจำเลยไม่ใช่มรดกจึงพิพากษาไม่ให้แบ่งนั้นถ้าโจทก์บางคนอุทธรณ์ขอให้แบ่งส่วนโจทก์บางคนไม่อุทธรณ์ ยินยอมตามคำพิพากษาดังนี้ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่าทรัพย์พิพาทตกเป็นมรดก อันจะต้องแบ่งให้ทายาทแล้วศาลอุทธรณ์ก็จะพิพากษาให้แบ่งเฉพาะโจทก์ที่อุทธรณ์ขึ้นมาเท่านั้นจะพิพากษาให้โจทก์ที่มิได้อุทธรณ์ขึ้นมาได้รับส่วนแบ่งด้วย ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแบ่งที่ดินมรดก: ศาลพิพากษาเกินคำขอหรือไม่?
โจทก์ฟ้องขอแบ่งแยกที่ดินตามคำขอท้ายฟ้องก็มีเพียงขอให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินให้โจทก์อย่างเดียวศาลพิพากษาให้แบ่งที่ดินให้แล้วยังได้เลยพิพากษาต่อไปว่า ถ้าคู่ความตกลงแบ่งกันเองไม่ได้ ให้ประมูลระหว่างคู่ความหรือขายทอดตลาดเอาเงินแบ่งกันตามส่วนดังนี้ ย่อมมีอำนาจทำได้ ไม่เป็นการพิพากษาเกินคำขอเพราะเป็นวิธีการที่ศาลจะแบ่งที่ดินให้แก่คู่ความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 403/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทและการฟ้องแย้งการจัดการมรดก: การแสดงสิทธิทายาทที่ไม่ขัดขวางการจัดการมรดก
ทายาทของผู้ตายฟ้องผู้จัดการมรดกของผู้ตายขอให้ศาลแสดงว่าตนเป็นทายาทของผู้ตาย และมีสิทธิรับมรดกของผู้ตายแต่ผู้เดียว นั้น เมื่อปรากฎในคำฟ้องว่า จำเลยไปร้องขอรับมรดกที่ดินมรดกโดยแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่า ผู้ตายไม่มีทายาทอื่น ดังนี้ เป็นเรื่องที่ทายาทขอให้แสดงสิทธิเท่านั้น จึงไม่เป็นการขัดต่อการจัดการมรดกแต่อย่างใด ฉะนั้นแม้ขณะนั้นจำเลยจะเป็นผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาทผู้นั้นก็ยังฟ้องได้ และศาลก็จะพิพากษาเพียงบแสดงว่าโจทก์เป็นทายาทของผู้ตายเท่านั้น ส่วนจะเป็นทายาทแต่คนเดียวหรือไม่นั้น ไม่ชี้ขาดเพราะเป็นการพิพาทกันระหว่างโจทก์ กับจำเลยซึ่งไปอ้างต่อเจ้าพนักงานว่าไม่มีทายาทอื่น นอกจากจำเลยเท่านั้น./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ บุตรนอกกฎหมายและการรับรองเด็กหลังเสียชีวิต: สิทธิในมรดก
หญิงชายได้เสียอยู่กินด้วยกันแต่มิได้จะทะเบียนสมรส การสมรสย่อมไม่สมบูรณ์ จะเรียกว่าเป็นสามีภริยากันไม่ได้
และบุตรที่เกิดจากหญิงนั้นก็มิใช่บุตรอันชอบด้วยกฎหมายของชายนั้น และเมื่อชายนั้นตายเสียในระหว่างหญิง
ตั้งครรภ์ เมื่อบุตรนั้นคลอดออกมา ชายนั้นก็ไม่มีโอกาศจะรับรองเด็กนั้นตาม แ.ม.แพ่งฯมาตรา 1627 ได้ เด็กนั้นจึง
ไม่ใช่บุตรที่บิดาได้รับรองแล้ว จึงย่อมไม่มีสิทธิจะได้รับมรดกจากชายนั้น ในฐานะผู้สืบสันดาน./

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2496

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสืบสันดานของบุตรนอกกฎหมายที่บิดาเสียชีวิตก่อนรับรอง เด็กไม่มีสิทธิรับมรดก
หญิงชายได้เสียอยู่กินด้วยกันแต่มิได้จดทะเบียนสมรสการสมรสย่อมไม่สมบูรณ์ จะเรียกว่าเป็นสามีภริยากันไม่ได้และบุตรที่เกิดจากหญิงนั้นก็มิใช่บุตรอันชอบด้วยกฎหมายของชายนั้นและเมื่อชายนั้นตายเสียในระหว่างหญิงตั้งครรภ์ เมื่อบุตรนั้นคลอดออกมา ชายนั้นก็ไม่มีโอกาสจะรับรองเด็กนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1627 ได้เด็กนั้นจึงไม่ใช่บุตรที่บิดาได้รับรองแล้ว จึงย่อมไม่มีสิทธิจะได้รับมรดกจากชายนั้น ในฐานะผู้สืบสันดาน
of 179