พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399-1400/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของผู้ที่อยู่กินฉันท์สามีภริยาโดยไม่จดทะเบียน และการโอนสิทธิให้บุคคลภายนอกโดยสุจริต
เป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่กินฉันท์สามีภริยากันกว่า 10 กว่าปี และมีบุตรด้วยกันหลายคน เมื่อชายตายหญิงเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิรับมรดกของชาย จึงได้ขอรับมรดกที่ดินมีโฉนดของผู้ตาย เมื่อไม่มีทายาทคนใดมาคัดค้านจนหญิงได้รับโฉนดมาและโอนขายให้แก่บุคคลภายนอก ๆ ได้เสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริตแล้ว บุคคลภายนอกย่อมได้กรรมสิทธิตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 1299 วรรคท้าย ทายาทจะขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเสียไม่ได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399-1400/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิรับมรดกของผู้คบหากันฉันสามีภริยา - การโอนสิทธิให้บุคคลภายนอกโดยสุจริต
เป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่กินฉันสามีภริยากันกว่า10 กว่าปี และมีบุตรด้วยกันหลายคน เมื่อชายตายหญิงเชื่อโดยสุจริตว่าตนมีสิทธิรับมรดกของชาย จึงได้ขอรับมรดกที่ดินมีโฉนดของผู้ตาย เมื่อไม่มีทายาทคนใดมาคัดค้านจนหญิงได้รับโฉนดมาและโอนขายให้แก่บุคคลภายนอก บุคคลภายนอกได้เสียค่าตอบแทนโดยสุจริตและได้จดทะเบียนโดยสุจริตแล้ว บุคคลภายนอกย่อมได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1299 วรรคท้าย ทายาทจะขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายเสียไม่ได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
ส่วนที่ดินที่ยังมิได้รับโอนมาทายาทย่อมขอให้เพิกถอนประกาศขอรับมรดกของหญิงนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2496 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดความเป็นผู้ปกครองทรัพย์เมื่อผู้รับมรดกบรรลุนิติภาวะ
ทำพินัยกรรมตั้งผู้ปกครองทรัพย์ ให้ผู้รับมรดกตามพินัยกรรม์ซึ่งยังเป็นผู้เยาว์อยู่นั้น เมื่อต่อมาปรากฎว่าผู้รับมรดกตามพินัยกรรม มีอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว การเป็นผู้ปกครองทรัพย์ตามพินัยกรรมก็สิ้นสุดลงไปตาม ป.ม.แพ่ง ฯมาตรา 1687 วรรค 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2496
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกเกิน 1 ปีและอายุความมรดก: สิทธิของผู้ซื้อจากทายาท
ทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายมาแต่ผู้เดียวเกิน1 ปี โดยทายาทอื่นมิได้เรียกร้องมรดกนั้นเสียภายในกำหนด 1 ปีทรัพย์มรดกนั้นย่อมตกเป็นของทายาทผู้ครอบครองและเมื่อทายาทผู้ครอบครองขายทรัพย์นั้นไปแก่บุคคลภายนอกบุคคลภายนอกก็ย่อมจะใช้สิทธิของทายาทผู้นั้นยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้ทายาทอื่นได้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในหนี้จากการรับมรดก/ถือหุ้นแทน: จำเลยไม่ผูกพันหนี้หากไม่ใช่ผู้รับมรดก/ผู้ถือหุ้นโดยชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรับผิดในหนี้เงินกู้ที่สามีจำเลยกู้เงินโจทก์ไว้ในฐานะที่จำเลยเป็นภริยาผู้รับมรดกของสามี หรือในฐานะที่สามีลงชื่อจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นในบริการอันหนึ่งแทนสามี เมื่อทางพิจารณาฟังว่าจำเลยไม่ใช่ภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย จำเลยจึงไม่ใช่ผู้รับมรดกของผู้ตาย ฉะนั้นย่อมไม่มีความผูกพันอันใดจะต้องรับใช้หนี้ของผู้ตายตามฟ้อง แม้จำเลยจะรับทรัพย์สินของผู้ตายไว้ก็ตาม โดยนัยเดียวกัน แม้จำเลยจะมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทนผู้ตาย ก็ไม่ทำให้จำเลยต้องรับผิดในหนี้รายนี้ดุจกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องแบ่งมรดกเมื่อไม่มีผู้ครอบครอง และอายุความไม่ขาด
เจ้ามรดกตายโดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมายมรดก และเมื่อไม่มีทายาทคนใดได้ครอบครองมรดก ก็ต้องถือว่าทายาททุกคนมีสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกร่วมกันตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1745 และมีสิทธิฟ้องขอแบ่งมรดกจากัน แม้จะเป็นเวลาภายหลัง เจ้ามรดกตายเกิน 1 ปี ก็ได้ คดีไม่ขาดอายุความมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 942/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการแบ่งมรดกของทายาทโดยไม่มีพินัยกรรม แม้เวลาผ่านพ้นไปกว่า 1 ปี ก็ยังมีสิทธิฟ้องร้องได้
เจ้ามรดกตายโดยมิได้ทำพินัยกรรมไว้ มรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมายมรดก และเมื่อไม่มีทายาทคนใดได้ครอบครองมรดก ก็ต้องถือว่าทายาททุกคนมีสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดกร่วมกันตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1745 และมีสิทธิฟ้องขอแบ่งมรดกจากกัน แม้จะเป็นเวลาภายหลังเจ้ามรดกตายเกิน 1 ปี ก็ได้ คดีไม่ขาดอายุความมรดก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 919/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่ถอนการขายฝากตกทอดแก่ทายาททันทีเมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรม ไม่ต้องรอรับโอนมรดก
เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมสิทธิในทางทรัพย์สินของผู้ตายย่อมตกทอดได้แก่ทายาททันที ฉะนั้นทายาทจึงมีสิทธิที่จะไถ่ถอนทรัพย์สินที่ผู้ตายขายฝากไว้ได้ โดยไม่ต้องรอให้รับโอนมรดกก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 862/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อตั้งตรัสต์ต้องมีเจตนาชัดเจนยกทรัพย์และผูกมัดการใช้ประโยชน์ให้ชัดเจน มิฉะนั้นถือเป็นทรัพย์มรดก
กรณีจะเป็นตรัสต์นั้น ต้องมีข้อความให้เห็นได้ว่า ยกกรรมสิทธิในทรัพย์ให้ แต่ผูกมัดไว้ว่า ผู้รับกรรมสิทธินั้จะต้องใช้ทรัพย์นั้นให้เป็นประโยชน์แก่บุคคลใด ๆ อันกำหนดตัวได้แน่นอนหรือเพื่อสาธารณะกุศลอันแน่นอน
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้น เป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้าง ๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหน และบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อให้ตั้งตรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้ว ไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมไป
การสั่งให้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างเป็นกองกลาง เพื่อให้บุตรหลานมีสิทธิได้อยู่อาศัยและเก็บกิน ซึ่งผลประโยชน์ไปจนตลอดชีวิต เมื่อบุตรหลานคนใดไม่มีทุนรอน ก็ให้เงินทำทุนพอสมควร โดยตั้งให้ทายาทคนหนึ่งเป็นผู้ปกครองทรัพย์ กับมีหน้าที่เก็บเงิน ทำบุญวัดและบ้านนั้น เป็นคำสั่งที่ใช้คำกว้าง ๆ ไม่แน่นอนมิได้กำหนดให้ชัดว่าทำบุญอะไร วัดไหน และบ้านแห่งใด ดังนี้ จึงไม่ใช่เป็นกรณีก่อให้ตั้งตรัสต์ และต้องถือว่าข้อกำหนดในพินัยกรรมดังกล่าวแล้ว ไม่มีผล ทรัพย์มรดกจึงตกทอดไปยังทายาทโดยธรรมไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 665/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สินสมรสจากมรดกและการแบ่งสินสมรสเมื่อสามีเสียชีวิต
ภริยาได้รับทรัพย์มรดกจากบิดามารดาของตนมาในระหว่างที่อยู่กินเป็นสามีภริยากับสามี ย่อมถือว่าทรัพย์มรดกที่ได้มานั้น เป็นสินสมรสระหว่างตนกับสามี เมื่อเอาทรัพย์นั้นไปขายได้เงินมา แล้วซื้อที่ดินและบ้านเรือน ก็ย่อมถือว่าที่ดินและบ้านเรือนนั้นเป็นสินสมรสอยุ่นั่นเอง
การแบ่งสินสมรสระหว่างสามีภริยาเมื่อก่อนใช้ป.ม.แพ่งฯบรรพ 5 นั้น ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่มีสินเดิมด้วยกัน ก็ให้แบ่งสินสมรสเป็น 3 ส่วน ให้ชายได้ 2 ส่วน หญิงได้ 1 ส่วน
และในกรณีที่ชายถึงแก่กรรมส่วนของชายย่อมตกเป็นมรดกตกได้แก่บุตรและภรรยาคนละส่วนเท่า ๆกัน ถ้ามีภรรยา 2 คน ก็คงได้รับส่วนแบ่งร่วมกันเพียงส่วนเดียว และในส่วนเดียวนี้ ยังแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ภริยาหลวงได้ 2 ส่วน ภริยาน้อยได้1 ส่วน
การแบ่งสินสมรสระหว่างสามีภริยาเมื่อก่อนใช้ป.ม.แพ่งฯบรรพ 5 นั้น ถ้าทั้งสองฝ่ายไม่มีสินเดิมด้วยกัน ก็ให้แบ่งสินสมรสเป็น 3 ส่วน ให้ชายได้ 2 ส่วน หญิงได้ 1 ส่วน
และในกรณีที่ชายถึงแก่กรรมส่วนของชายย่อมตกเป็นมรดกตกได้แก่บุตรและภรรยาคนละส่วนเท่า ๆกัน ถ้ามีภรรยา 2 คน ก็คงได้รับส่วนแบ่งร่วมกันเพียงส่วนเดียว และในส่วนเดียวนี้ ยังแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ภริยาหลวงได้ 2 ส่วน ภริยาน้อยได้1 ส่วน