พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,003 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1746/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาทำสัญญาซื้อขายที่ดิน: การกระทำของคู่สัญญาหลังหมดกำหนด มิถือเป็นการผิดสัญญา
กำหนดเวลาทำสัญญาซื้อขายใน 7 วัน นับแต่วันในสัญญาจองที่ดิน แต่หลังจากนั้นผู้ขายยังขอย้ายผู้ซื้อเข้าอยู่บ้านอื่นและให้ผู้ซื้อทำใบมอบอำนาจรับโอนและจำนองที่ดินอีก ไม่เป็นการถือวันที่กำหนดตามสัญญาจองเป็นสำคัญ ผู้ขายถือเป็นเหตุเลิกสัญญาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายคอมพิวเตอร์มีเงื่อนไข: สิทธิบอกเลิกสัญญาเมื่อไม่สามารถส่งมอบสินค้าตามสัญญา และสิทธิเรียกร้องค่าใช้ทรัพย์
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ขายทำงานได้ระบบเดียว อีก 6 ระบบทำงานไม่ได้ตามสัญญา ผู้ซื้อเลิกสัญญาได้ศาลให้คืนเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ซื้อไม่ต้องใช้ราคา แต่ให้ใช้ค่าใช้ทรัพย์ที่ใช้ได้ 1 ระบบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์รถยนต์โอนเมื่อซื้อขาย แม้ยังไม่โอนทะเบียน สัญญาซื้อขายมีเงื่อนไข กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระเงินและโอนทะเบียนครบถ้วน
ซื้อขายรถยนต์ แม้ไม่โอนทะเบียนเป็นชื่อผู้ซื้อกรรมสิทธิ์ก็โอนไปเป็นของผู้ซื้อตาม มาตรา 458 ผู้ซื้อขายต่อไปโดยมีข้อสัญญาว่า ชำระราคาครบจึงจะโอนทะเบียนรถให้ และให้ถือการโอนชื่อในทะเบียนเป็นเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้ เป็นสัญญาซื้อขายมีเงื่อนไขตามมาตรา459 กรรมสิทธิ์ยังไม่โอนจนกว่าจะชำระราคาครบและโอนทะเบียนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1315/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าปรับตามสัญญาซื้อขาย: ไม่ใช่การฟ้องเรื่องการส่งมอบทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเบี้ยปรับตามสัญญาในกรณีที่จำเลยผิดสัญญาไม่ส่งมอบเครื่องรับส่งวิทยุตามที่ตกลงซื้อขายกัน เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าในสัญญา หาใช่เป็นการฟ้องให้รับผิดในการส่งมอบทรัพย์ขาดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวนซึ่งมีอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 467 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1315/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องเรียกค่าปรับจากสัญญาซื้อขาย: ไม่ใช่การฟ้องเรื่องการส่งมอบทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเบี้ยปรับตามสัญญาในกรณีที่จำเลยผิดสัญญา ไม่ส่งมอบเครื่องรับส่งวิทยุตามที่ตกลงซื้อขายกัน เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหาย ที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้าในสัญญา หาใช่เป็นการฟ้องให้รับผิดในการส่งมอบทรัพย์ขาดตกบกพร่องหรือล้ำจำนวน ซึ่งมีอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 467 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีซื้อขายตามสัญญาซื้อขายตามเงื่อนไขประกวดราคา ไม่ใช่การขายตามคำพรรณา
โจทก์ทำสัญญาซื้อเครื่องรับส่งวิทยุ วีเอชเอฟ/เอฟเอ็มแบบกระเป๋าหิ้วยี่ห้อเทเลคอมแบบพี 161 จำนวน 21 ชุด จากบริษัทจำเลยมีรายละเอียดดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 ตามสัญญาซื้อขายข้อ 2 มีความว่า "สิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้ผู้ขายจะยอมขายให้ตามราคาดังกล่าวในข้อ 1 และรับรองว่าจะส่งสิ่งของให้เหมือนตามแคตตาลอคและรายละเอียดท้ายสัญญาทุกประการ ฯลฯ" และข้อ 3 มีว่า "ลักษณะของสิ่งของที่ซื้อขายตามสัญญานี้นอกจากให้เหมือนตามรายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกดังกล่าวในข้อ 2 ผู้ขายยอมรับรองอีกว่าเมื่อตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ประการหนึ่งประการใดต้องให้เหมือนตามรายการละเอียดทุกประการ" และก่อนทำสัญญาซื้อขายฝ่ายโจทก์จัดให้มีการประกวดราคาระบุแต่ชนิดเครื่องรับส่งวิทยุ วีเอชเอฟ/เอฟเอ็ม แบบกระเป๋าหิ้วจำนวน 21 ชุด ต่อเมื่อบริษัทจำเลยประมูลได้แล้วจึงได้ทำสัญญาซื้อขายหมาย จ.1 ขึ้น และได้กำหนดรายการสิ่งของที่ตกลงจะซื้อขายและแค๊ตตาล๊อกแนบไว้ท้ายสัญญา การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้เป็นการซื้อขายตามเงื่อนไขเรียกประกวดราคาของโจทก์ ไม่ใช่บริษัทจำเลยพรรณนาถึงเครื่องรับส่งวิทยุที่เสนอขายให้โจทก์แล้วโจทก์ยอมรับซื้อ นอกจากนี้การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุรายนี้บริษัทจำเลยยังกำหนดให้โจทก์ตรวจทดลองคุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ให้เหมือนตามรายการละเอียดและชนิดของๆ ที่จะซื้อนั้นก่อนโดยบริษัทจำเลยให้โอกาสโจทก์ตรวจสอบทดลองคุณสมบัติของเครื่องรับส่งวิทยุตามประกาศประกวดราคาของโจทก์ก่อนการส่งมอบว่าตรงตามรายละเอียดและชนิดของเครื่องรับส่งวิทยุที่โจทก์ซื้อหรือไม่ รายการละเอียดและแค๊ตตาล๊อกที่แนบไว้ในสัญญาจึงเป็นรายละเอียดประกอบสัญญาซื้อขายเท่านั้น การซื้อขายเครื่องรับส่งวิทยุดังกล่าวจึงเป็นการซื้อขายธรรมดาหาใช่เป็นการขายตามคำพรรณาไม่ ซึ่งไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำเครื่องรับส่งวิทยุมาส่งมอบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2512 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 23 กันยายน 2517 ยังไม่เกินสิบปีนับแต่วันส่งมอบ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2521)
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้นำเครื่องรับส่งวิทยุมาส่งมอบเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2512 นับถึงวันฟ้องคือวันที่ 23 กันยายน 2517 ยังไม่เกินสิบปีนับแต่วันส่งมอบ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 8/2521)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 930/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความสัญญาซื้อขาย: สิทธิริบเงินประกันเมื่อไม่ส่งมอบสินค้า vs. ค่าปรับเมื่อส่งของไม่ครบ
สัญญาข้อ 7 ว่า ถ้าละเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาให้ริบเงินที่วางไว้ข้อ 8 ถ้าส่งมอบของไม่ถูกต้องภายในกำหนดให้ปรับร้อยละ 5 ของราคาของที่ยังไม่ได้ส่งเป็นรายเดือนจนกว่าจะส่งครบและถูกต้องข้อ 9นอกจากข้อ 8 ถ้าไม่ปฏิบัติตามสัญญาเป็นเหตุให้ผู้ซื้อเสียหาย ผู้ขายรับผิดโดยสิ้นเชิง ดังนี้ตีความว่า ข้อ 7 เป็นกรณีไม่ปฏิบัติตามสัญญาเลย ข้อ 8 ส่งของแล้วแต่ไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง ข้อ 9 หมายความถึงเสียหายพิเศษนอกจากนี้ เมื่อผู้ขายไม่ส่งของเลย ผู้ซื้อริบเงินตามข้อ 7ได้ แต่จะปรับตามข้อ 8 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 900/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้: เงินมัดจำ, L/C, และความผิดของผู้ซื้อ
โจทก์จำเลยทำสัญญาซื้อขายไม้มีกำหนดการซื้อขายเป็นเวลา1 ปี และมีข้อสัญญาเกี่ยวกับจำนวนไม้อย่างต่ำที่จะต้องซื้อขายกันต่อเดือน เมื่อจำเลยผู้ขายได้รับเงินมัดจำค่าซื้อไม้จากโจทก์ 200,000 บาทเงินจำนวนนี้ย่อมเป็นเงินมัดจำตามสัญญาซื้อขายที่มีกำหนดเวลาซื้อขายกัน 1 ปี ไม่ใช่เงินมัดจำสำหรับการซื้อขายไม้จำนวนใดจำนวนหนึ่งหรือของเดือนใดเดือนหนึ่ง ดังนั้น แม้จะได้ความว่า ไม้จำนวน 5 หีบที่ ตัวแทนโจทก์ได้คัดเลือกให้จำเลยเพื่อส่งไปให้โจทก์ยังต่างประเทศจะมีราคาประมาณ 200,000 บาท โจทก์ก็จะนำเงินมัดจำดังกล่าวมาหักเอาชำระราคาไม้ที่จะส่งออกไม่ได้ เพราะการซื้อขายยังไม่เสร็จสิ้น ยังจะต้องมีการซื้อขายตามสัญญาอีกจนกว่าจะครบ 1 ปี หากนำเงินมัดจำดังกล่าวมาหักชำระราคาไม้รายพิพาทแล้ว ก็จะไม่มีเงินมัดจำเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายต่อไปอีก
เมื่อได้ความว่าตามประเพณีการค้าการส่งสินค้าไปต่างประเทศผู้ซื้อจะต้องเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตมาให้ผู้ขายเท่าราคาสินค้าที่ส่งออกอันเป็นวิธีการเกี่ยวกับการชำระเงินค่าสินค้า และปรากฏว่าเป็นความผิดของโจทก์เองที่เปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตมาให้จำเลยไม่พอกับราคาไม้ที่ส่งออก จึงส่งไม้ออกไปให้โจทก์ไม่ได้ เช่นนี้จะว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาหาได้ไม่โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกเงินมัดจำดังกล่าวคืน
เมื่อได้ความว่าตามประเพณีการค้าการส่งสินค้าไปต่างประเทศผู้ซื้อจะต้องเปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตมาให้ผู้ขายเท่าราคาสินค้าที่ส่งออกอันเป็นวิธีการเกี่ยวกับการชำระเงินค่าสินค้า และปรากฏว่าเป็นความผิดของโจทก์เองที่เปิดเล็ตเตอร์ออฟเครดิตมาให้จำเลยไม่พอกับราคาไม้ที่ส่งออก จึงส่งไม้ออกไปให้โจทก์ไม่ได้ เช่นนี้จะว่าจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาหาได้ไม่โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกเงินมัดจำดังกล่าวคืน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาออกเช็ค - สัญญาซื้อขายระงับ - ไม่เป็นความผิดอาญา
จำเลยออกเช็คชำระค่าซื้อโรงงานและเครื่องมือให้ ต. ต่อมาต. สลักหลังเช็คดังกล่าวให้โจทก์แล้ว ต. ผิดสัญญาไม่โอนโรงงานให้จำเลย จำเลยบอกเลิกสัญญา และขอเช็คคืน ต. บอกว่าฉีกทิ้งแล้วและลงชื่อรับรองว่าฉีกทิ้งแล้วไว้ให้ โจทก์นำเช็คไปเข้าบัญชีเรียกเก็บเงินจากธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่าย ดังนี้ เมื่อจำเลยบอกเลิกสัญญากับ ต. แล้ว สัญญาจึงเป็นอันระงับไปและคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คให้แก่ ต. และจำเลยเชื่อต่อไปว่าจะไม่มีผู้ใดนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคาร จำเลยจึงไม่จำต้องนำเงินเข้าบัญชีในธนาคารให้มีจำนวนพอจ่ายตามเช็ค การกระทำของจำเลยไม่มีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คไม่เป็นความผิดทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 847/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายลิฟท์ต่างประเทศ: การปรับราคาตามอัตราแลกเปลี่ยนและความรับผิดของผู้ขาย
จำเลยได้ทำหนังสือสัญญาซื้อลิฟท์จากโจทก์ในราคา 1,420,000บาท โดยมีข้อตกลงว่าราคานี้ขึ้นอยู่กับค่าภาษีและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เป็นอยู่ในวันที่เสนอราคานี้และขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เป็นอยู่ในขณะทำสัญญา ถ้ามีการตีราคาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศใหม่ ราคาของวัสดุที่นำเข้าก็จะต้องปรับใหม่ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เป็นอยู่ในวันที่นำเอกสารต่าง ๆ ไปขึ้นเงินกับธนาคารเมื่อจำเลยต้องการจะซื้อลิฟท์ของโจทก์ที่สั่งมาจากอเมริกา ซึ่งใช้เงินดอลล่าร์แต่โจทก์สั่งลิฟท์จากโรงงานประเทศฝรั่งเศสและเยอรมันที่เป็นสาขาของโจทก์และใช้เงินฟรังค์และดอยซ์มาร์คตามลำดับเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินดังกล่าวเพิ่มขึ้นระหว่างการส่งและติดตั้งลิฟท์ ทำให้ค่าของเงินดอลล่าร์และเงินบาทลดลง ก็เป็นความผิดของโจทก์เอง จำเลยหาต้องรับผิดชำระราคาลิฟท์ที่เพิ่มขึ้นตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินฟรังค์และดอยซ์มาร์คตามฟ้องโจทก์ไม่