คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
มรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1056/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ของผู้ตายให้แก่บุคคลที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้ตายทำงานอยู่องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ ในกรมรถไฟครั้นเมื่อถึงแก่กรรมลง มีสิทธิได้รับเงินหลายประเภทตามระเบียบข้อบังคับขององค์การและทางการวางไว้ บิดาผู้ตายจึงได้ร้องขอรับเงินจำนวนนี้ โดยแสดงว่าตนเป็นบิดา และกำลังร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายอยู่แต่ทางกรมรถไฟกลับจ่ายเงินให้แก่ภริยาผู้ตายซึ่งปรากฏในทะเบียนประวัติว่าเป็นภริยาผู้ตาย แต่ปรากฏว่าภริยาผู้นี้มิได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายตามกฎหมายนั้น เป็นการจ่ายที่ไม่รอบคอบขาดความระมัดระวัง จึงได้ชื่อว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 315 ฉะนั้นบิดาของผู้ตายในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกเงินจำนวนนั้นจากกรมรถไฟอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 870/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทายาทอันดับ 6 และการรับมรดกแทนที่
ย่าของโจทก์เป็นป้าผู้ตายเมื่อผู้ตายไม่มีทายาทในอันดับ 1 ถึง 5และไม่มีผู้รับมรดกแทนที่แล้วย่าของโจทก์ผู้เป็นป้าผู้ตายก็ย่อมเป็นทายาท(อันดับ 6)มีสิทธิได้รับมรดกผู้ตาย และเมื่อย่าของโจทก์และบิดาของโจทก์ตายแล้ว โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1639

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 852/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโต้แย้งสิทธิในที่ดินมรดกและการครอบครอง ย่อมต้องรับคดีเพื่อวินิจฉัยสิทธิ
โจทก์ฟ้องอ้างว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ จำเลยเข้าโต้แย้งสิทธิของโจทก์โดยอ้างว่าบิดายกที่นี้ให้แก่โจทก์จำเลยคนละเท่าๆ กัน จึงขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิครอบครองที่รายนี้มิให้จำเลยเข้าเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นของบิดาโจทก์จำเลยบิดาไม่สละสิทธิหรือยกให้เป็นกรรมสิทธิของผู้ใด คงครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมาจนบัดนี้แล้วบิดาจัดการรังวัดจัดแบ่งที่นี้ให้โจทก์จำเลยคนละเท่าๆ กัน โจทก์ไม่พอใจจึงมาฟ้อง ดังนี้ ถือว่า จำเลยได้โต้แย้งสิทธิของโจทก์แล้วศาลจำต้องรับคดีไว้วินิจฉัยถึงสิทธิตามฟ้องต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 741/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกความเท็จในสัญญาซื้อขายและการกันไม่ให้ทายาทฟ้องแบ่งมรดก
ฟ้องบรรยายมีใจความว่าโจทก์ได้ทำหนังสือสัญญาจะขายนาให้จำเลยโดยโจทก์จำเลยคบคิดกันจะกันไม่ให้ทายาทอื่นฟ้องแบ่งเอานารายนี้จากโจทก์ต่อมาจำเลยกลับฟ้องโจทก์ ให้โอนนาให้จำเลยตามสัญญาที่ทำขึ้นแล้วจำเลยอ้างหนังสือนั้นเป็นพยานและเบิกความเท็จว่าได้จ่ายเงินให้โจทก์หมดแล้วไม่ได้หักไว้ 2,000 บาทตามที่เป็นจริง ดังนี้ยังไม่เป็นฟ้องอันจะเป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 155 หรือ 304

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 602/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกรายเดียว vs. ผู้จัดการมรดกหลายคน
ยายร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของหลาน มีย่าร้องคัดค้านเข้ามา เป็นกรณีพิพาทระหว่างยายกับย่าว่า ใครจะเป็นผู้สมควรจัดการมรดกของหลานนั้น เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาตั้งยายเป็นผู้จัดการคนเดียว แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ตั้งย่าเป็นผู้จัดการร่วมกับยายอีกคนหนึ่งด้วย ดังนี้ ผู้ร้องฎีกาในข้อเท็จจริงขอให้ศาลฎีกาตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการแต่คนเดียวได้ ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องชำระหนี้จากมรดก: ความสมบูรณ์ของฟ้องและการพิสูจน์ข้อตกลง
โจทก์ฟ้องว่า สามีจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์อยู่ 3 รายการ แล้วบรรยายหนี้ทั้ง 3 รายการนั้นแล้วว่า สามีจำเลยกับโจทก์ได้ตกลงกันให้สามีจำเลยจ่ายเงินชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์เสียจำนวนหนึ่งโดยไม่ระบุตัวเจ้าหนี้มาในฟ้องเงินที่เหลือให้รักษาไว้เพื่อมอบแก่โจทก์เมื่อโจทก์ต้องการ แต่ยังไม่ทันได้จัดการจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ของโจทก์และตัวโจทก์สามีจำเลยตายเสียก่อน จำเลยเป็นผู้ครอบครองมรดกไว้แต่ผู้เดียว จึงขอให้จำเลยชำระหนี้รายนี้ ถือว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293-294/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินจากการอยู่กินฉันสามีภริยา และการเป็นเจ้าของทรัพย์สินโดยชอบธรรม
ชายหญิงอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา แต่มิได้จดทะเบียนสมรสจึงนับว่าเป็นผัวเมียกันไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อมารดาของหญิงได้ออกเงินจำนวนหนึ่งให้หญิงไปซื้อนาไว้แปลงหนึ่งใส่ชื่อหญิงนั้นในโฉนดแต่ผู้เดียวส่วนชายมิได้ออกเงินทองลงทุนเข้าหุ้นด้วยดังนี้ ต้องถือว่าที่นานั้นเป็นทรัพย์ส่วนตัวของหญิง เมื่อหญิงตายลง จึงตกเป็นมรดกตกทอดไปยังทายาทของหญิงนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 290/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิรับมรดกของบุตรบุญธรรม: การรับมรดกแทนที่
บุตรบุญธรรมตายก่อนผู้รับบุตรบุญธรรม บุตรของบุตรบุญธรรมย่อมมีสิทธิรับมรดกแทนที่กันได้ตามสิทธิที่กฎหมายให้ไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1639

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าของร่วมมรดกมีสิทธิเรียกร้องแบ่งทรัพย์จากผู้รับพินัยกรรมคนอื่นได้ การโอนสิทธิเรียกร้องมรดกทำได้
ทำพินัยกรรม์ยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลหลายคนเป็นผู้รับ เมื่อเจ้ามรดกตายสิทธิในทรัพย์ย่อมตกได้แก่ผู้รับพินัยกรรม์ บรรดาผู้รับพินัยกรรม์จึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรม์คนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรม์ตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม์ของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้นมิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 288/2494

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม และการโอนสิทธิในมรดก
ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่บุคคลหลายคนเป็นผู้รับเมื่อเจ้ามรดกตายสิทธิในทรัพย์ย่อมตกได้แก่ผู้รับพินัยกรรม
บรรดาผู้รับพินัยกรรมจึงได้ชื่อว่า เป็นเจ้าของร่วมในทรัพย์มรดกฉะนั้นการที่ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งจัดการเรียกร้องทรัพย์มรดกได้มาจากบุคคลอื่นแล้วจะกีดกันเอาไว้แต่ผู้เดียวมิได้ จำต้องแบ่งกันระหว่างผู้รับพินัยกรรมตามส่วน
ผู้รับพินัยกรรมคนหนึ่งทำหนังสือยอมมอบสิทธิการรับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของตน ซึ่งตกอยู่กับผู้รับมรดกอีกคนหนึ่งให้แก่ผู้รับพินัยกรรมอีกคนหนึ่ง นั้น มิใช่เป็นการสละมรดก และการโอนเช่นนี้ถือว่าใช้ได้ ผู้รับโอนย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกมรดกส่วนที่โอนนั้นจากผู้ยึดถือทรัพย์มรดกนั้นอยู่ได้
of 179