คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยาเสพติด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7241/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแบ่งบรรจุยาเสพติดเข้าข่ายความผิดฐานผลิตหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยต้องมีลักษณะเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม
คำว่า "ผลิต" ที่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 บัญญัติ ให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุด้วยนั้น ต้องหมายถึงการกระทำอันมีลักษณะที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ในทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวนเพียง 80 เม็ด ใส่หลอดกาแฟ ซึ่งเป็นเพียงวัตถุห่อหุ้มโดยไม่มีการกระทำใด ๆ แก่สภาพของเมทแอมเฟตามีนนั้นและทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยทั้งสองแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6926/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย: การร่วมกระทำผิดและพยานหลักฐาน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฯ มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และวรรคสาม (2), 66 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบ ป.อ. มาตรา 80, 91 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำคุก 16 ปี และปรับ 85,000 บาท ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตาม ป.อ. มาตรา 78 รวมจำคุก 18 ปี 6 เดือน และปรับ 85,000 บาท ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฯ มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากันให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเพียงบทเดียวตาม ป.อ. มาตรา 90 จำคุก 4 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยกการที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้นในส่วนความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนนั้นเป็นการแก้ไขเล็กน้อย คดีจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกจำเลยสถานหนักนั้น เป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6801/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อการรับฟังว่าจำเลยจำหน่ายยาเสพติด ศาลยกประโยชน์แห่งความสงสัย
โจทก์มีจ่าสิบตำรวจ จ. สิบตำรวจ ม. และสิบตำรวจ ค. ซึ่งเป็นผู้จับกุมจำเลยมาเบิกความเป็นพยาน แต่พยานโจทก์ทั้งสามปากมิได้รู้เห็นเหตุการณ์ในขณะที่มีการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนระหว่างสายลับกับจำเลย เหตุที่ทราบว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2 เม็ด ในราคาเม็ดละ 70 บาท เพราะสายลับเป็นผู้แจ้งคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสามดังกล่าวจึงเป็นพยานบอกเล่า ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้แม้จะพบธนบัตรฉบับละ 20 บาท จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธนบัตรที่ใช้ล่อซื้ออยู่ในกระเป๋ากางเกงที่จำเลยถอดไว้ในตะกร้าเสื้อผ้า ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับฟังว่าจำเลยรับธนบัตรดังกล่าวไว้ เนื่องจากการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนเพราะสายลับอาจมอบธนบัตรดังกล่าวให้จำเลยหรือจำเลยได้มาด้วยเหตุอื่นก็ได้
คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นเพียงพยานบอกเล่าที่อาจนำมาฟังประกอบพยานอื่นของโจทก์เท่านั้น ไม่มีน้ำหนักรับฟังโดยลำพังเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นศาล โจทก์จึงต้องนำพยานหลักฐานมาสืบให้มีน้ำหนักมั่นคงเพื่อให้เห็นว่าจำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้สายลับจริง แต่โจทก์กลับไม่มีพยานดังกล่าวมาสืบโดยคงมีเพียงผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนเท่านั้น พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมาจึงมีเหตุสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 227 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5290/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดและอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต: พยานหลักฐานเชื่อมโยงจำเลยกับของกลาง
เมทแอมเฟตามีนของกลางมีปริมาณมากบรรจุเป็นมัดเก็บซ่อนในกล่องทึบอยู่ในสถานที่มิดชิดซ่อนเร้นยากที่จะตรวจค้นพบได้โดยง่าย แม้ว่าเมทแอมเฟตามีนของกลางบางส่วนจะแยกซุกซ่อนอยู่ที่กองขยะริมรั้วหลังบ้านด้านนอก และบางส่วนซุกซ่อนอยู่กับลูกระเบิดที่ข้างเล้าไก่จากบ้านเกิดเหตุถึงประมาณ 10 เมตร และ 7 ถึง 8 เมตร ตามลำดับ แต่รอบสวนด้านหลังบ้านเกิดเหตุมีรั้วอีกชั้นหนึ่ง แสดงว่าสถานที่ซุกซ่อนของกลางมีรั้วล้อมรอบยากที่บุคคลภายนอกจะเข้ามารู้เห็นหรือเข้ามาซุกซ่อนของกลางเหล่านั้นไว้ได้ เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจค้นพบเมทแอมเฟตามีนของกลาง จำเลยแจ้งว่าเป็นของนาย น. สามีจำเลย ซึ่งหากจำเลยไม่ทราบแน่ชัดอยู่ก่อนแล้ว ก็ไม่น่าที่จะระบุเช่นนั้น เพราะคงไม่มีใครที่จะกล่าวหาซัดทอดสามีของตนเป็นคนร้ายกระทำความผิดร้ายแรงมีโทษสถานหนักเช่นคดีนี้ได้ หากไม่เป็นความจริง ที่จำเลยอ้างว่าจำเลยไม่รู้เห็นมีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิดกับนาย น. ด้วย จึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้
เมื่อผลการตรวจพิสูจน์ตามรายงานการตรวจพิสูจน์ระบุว่า ลูกระเบิดของกลางเป็นลูกระเบิดขว้างสังหารอันเป็นเครื่องกระสุนปืน และเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ แต่อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้การได้เนื่องจากชนวนเสื่อมสภาพ อันแสดงว่าสิ่งที่ใช้ประกอบต่างๆ ของลูกระเบิดยังมีอยู่ครบถ้วน ดังนั้น ลูกระเบิดของกลางจึงเป็นเครื่องกระสุนปืนและเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4762/2552

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำหน่ายยาเสพติด: ศาลฎีกาพิพากษาแก้โทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามกฎหมายใหม่ และไม่ริบรถยนต์
ข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า จำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำนวน 200 เม็ด แต่ในคำฟ้องของโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวมีน้ำหนักและปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้เท่าใด แม้ตามรายงานการตรวจพิสูจน์จะระบุสารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีนของกลางทั้งหมดที่ส่งไปตรวจพิสูจน์ แต่ไม่ปรากฏว่าเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยจำหน่ายมีสารบริสุทธิ์เท่าใด รายงานการตรวจพิสูจน์ดังกล่าว ไม่อาจนำมารับฟังเป็นผลร้ายเพื่อลงโทษจำเลยในการกระทำความผิดดังกล่าวให้หนักขึ้นได้ ต้องถือว่าเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยจำหน่ายไม่ปรากฏปริมาณสารบริสุทธิ์ของเมทแอมเฟตามีน การกระทำของจำเลยในข้อหาจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 200 เม็ด จึงต้องด้วยบทกำหนดโทษตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ที่แก้ใหม่ ซึ่งแตกต่างจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายเดิมมาตรา 66 วรรคหนึ่ง กรณีโทษจำคุกในความผิดฐานนี้ต้องถือว่ากฎหมายที่แก้ไขใหม่เป็นคุณมากกว่า จึงต้องใช้กฎหมายใหม่ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำความผิดบังคับแก่จำเลยในความผิดดังกล่าวตาม ป.อ. มาตรา 3 แม้โจทก์และจำเลยจะไม่ได้ฎีกามาก็ตาม แต่ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นอ้างและแก้ไขโดยปรับปรุงบทกฎหมายให้ถูกต้อง รวมทั้งแก้ไขโทษเสียใหม่ให้เหมาะสมสอดคล้องกับบทกฎหมายที่แก้ไขใหม่ได้ด้วยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 255

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำคุกจากความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากให้ความร่วมมือขยายผลจับกุม
จำเลยที่ 2 มีเมทแอมเฟตามีนของกลางจำนวน 2,000 เม็ด น้ำหนัก 179.39 กรัม คำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้ 51.148 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันต้องด้วยบทกำหนดโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 66 วรรคสาม แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถล่อซื้อจับกุมจำเลยที่ 2 พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีนของกลางแล้ว จำเลยที่ 2 ให้การว่ารับเมทแอมแฟตามีนของกลางมาจาก ว. หรือ ม. และร่วมมือกับเจ้าพนักงานตำรวจจนสามารถขยายผลจับกุม ว. พร้อมด้วยเมทแอมเฟตามีนของกลางอีกจำนวน 70 เม็ด นับว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้กระทำความผิดที่ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ หรือพนักงานสอบสวนเห็นสมควรลงโทษจำเลยที่ 2 น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8103/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานะสารวัตรกำนันกับการเพิ่มโทษจำหน่ายยาเสพติด: ไม่ถือเป็นเจ้าพนักงาน
จำเลยมีตำแหน่งเป็นสารวัตรกำนัน ซึ่ง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ฯ มาตรา 44 บัญญัติว่า "ในตำบล 1 มีสารวัตรสำหรับเป็นผู้ช่วยและรับใช้สอยของกำนัน 2 คน ผู้ที่จะเป็นสารวัตรนี้แล้วแต่กำนันจะขอร้องให้ผู้ใดเป็น แต่ต้องได้รับความเห็นชอบของผู้ว่าราชการเมืองด้วยจึงเป็นได้ และกำนันมีอำนาจเปลี่ยนสารวัตรได้" ดังนั้น สารวัตรกำนันจึงมีหน้าที่เป็นเพียงผู้ช่วยและรับใช้สอยของกำนันเท่านั้น แม้จะได้รับเงินตอบแทนจากทางราชการเป็นรายเดือนและมีสิทธิขอบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ แต่สารวัตรกำนันก็มิได้เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยตามที่โจทก์ฎีกาอันเป็นการเพิ่มโทษให้หนักขึ้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การล่อซื้อยาเสพติดโดยสายลับชอบด้วยกฎหมาย และพยานหลักฐานเพียงพอต่อการพิพากษา
การใช้สายลับล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนเป็นเพียงการกระทำเท่าที่จำเป็นและสมควรในการแสวงหาพยานหลักฐานในการกระทำความผิดของจำเลยตามอำนาจใน ป.วิ.อ. มาตรา 2 (10) ชอบที่เจ้าพนักงานตำรวจจะกระทำได้เพื่อให้ได้โอกาสจับกุมจำเลยพร้อมด้วยพยานหลักฐาน อันเป็นเพียงวิธีการพิสูจน์ความผิดของจำเลย ไม่เป็นการแสวงหาพยานหลักฐานโดยมิชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7872/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย และการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนคดี ยาเสพติด
เหตุที่เจ้าพนักงานตำรวจไปจับจำเลยและพบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่บริเวณบ้านของจำเลยก็เพราะเจ้าพนักงานตำรวจจับ ส. ได้พร้อมเมทแอมเฟตามีน 20 เม็ด ส. ให้การว่าซื้อเมทแอมเฟตามีนมาจากจำเลย และจำเลยยังมีเมทแอมเฟตามีนอยู่ที่บ้าน เจ้าพนักงานตำรวจจึงไปจับจำเลยและพบเมทแอมเฟตามีน เมื่อเมทแอมเฟตามีนอยู่ภายในบริเวณบ้านของจำเลย และถูกฝังอยู่ใต้ดินในลักษณะมิดชิด ทั้งพยานโจทก์ก็ยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้ขุดดินนำกล่องบรรจุเมทแอมเฟตามีนขึ้นมา จึงเชื่อว่าจำเลยเป็นผู้ฝังไว้ พยานหลักฐานโจทก์จึงฟังได้มั่นคงว่า จำเลยกระทำความผิดจริง อย่างไรก็ตาม จำเลยให้การด้วยว่า นำเมทแอมเฟตามีนมาจาก ม. เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานตำรวจไปจับ ม. และยึดได้เมทแอมเฟตามีนจำนวนมากถึง 20,200 เม็ดนับได้ว่าจำเลยให้ข้อมูลสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2 ศาลย่อมมีอำนาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำของกฎหมายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7471/2551

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย: พยานหลักฐานและการสันนิษฐานทางกฎหมาย
ในความผิดฐานตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตนั้นแม้โจทก์มิได้ระบุมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ไว้ในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องและได้ระบุมาตรา 23 อันเป็นบทกำหนดโทษของมาตรา 11 ไว้ในคำขอท้ายฟ้องแล้ว คำฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานนี้จึงชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 (6) เมื่อคำว่า "สถานีวิทยุคมนาคม" ตามมาตรา 4 หมายความว่า ที่ส่งวิทยุคมนาคม ที่รับวิทยุคมนาคม หรือที่ส่งและรับวิทยุคมนาคม และคำว่า "วิทยุคมนาคม" หมายความว่า การส่งหรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตัวหนังสือ ภาพ และเสียงหรือการอื่นใดซึ่งสามารถเข้าใจความหมายได้ด้วยคลื่นแฮรตเซียน เมื่อเครื่องวิทยุคมนาคมที่จำเลยติดตั้งไว้สามารถรับฟังข้อความจากผู้ใช้วิทยุสื่อสารได้ การกระทำของจำเลยก็เป็นความผิดตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 แล้ว การต้องใช้คลื่นความถี่เท่าใด เป็นข้อกำหนดสำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมในการใช้คลื่นความถี่ให้ถูกต้อง หาจำต้องเป็นการตั้งสถานีเครื่องรับส่งในระยะความถี่ไม่น้อยกว่า 25 วัตต์ หรือมีขีดความสามารถรับส่งได้ในระยะทางไม่น้อยกว่า 25 กิโลเมตร หรือต้องเป็นการติดต่อหรือประกาศแจ้งออกไปสู่บุคคล องค์กร หรือต่อประชาชนในการประกาศข่าวสาร ส่ง หรือรับข่าวสารข้อความใด ๆ ได้ชัดเจนไม่
การที่จำเลยสั่งให้นาย ต. นำเมทแอมเฟตามีน 40 เม็ด ไปมอบให้นาง ม. และนาย ต. ยอมทำตามคำสั่งของจำเลย ความสัมพันธ์ระหว่างจำเลยกับนาย ต. มีลักษณะเป็นตัวการตัวแทน จึงเป็นการส่งมอบระหว่างผู้กระทำผิดด้วยกันเอง หาใช่เป็นการให้อันจะถือว่าเป็นการจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 ไม่ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน
of 148