คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ละเมิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,780 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3856/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางละเมิดจากการประมาทเลินเล่อของพนักงานรถไฟและการประมาทของผู้ตายในการข้ามทางรถไฟ
จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานขับรถจักรขับรถไฟไปจอดที่สถานีแล้วนำหัวรถจักรไปรับตู้รถสินค้ามาต่อกับตู้รถโดยสารเพื่อเดินทางต่อไปได้ถอยหัวรถจักรเข้าต่อรับเอาตู้รถสินค้าในขณะที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานสับเปลี่ยนคอยให้สัญญาณแก่จำเลยที่ 1 โดยไม่มีพนักงานผู้ช่วยมาคอยควบคุมดูแลความปลอดภัยอยู่ท้ายขบวนรถ เป็นเหตุให้ตู้รถสินค้าที่อยู่ท้ายขบวนถอยหลังไปชนผู้ตายขณะกำลังเดินผ่านข้ามรางรถไฟ ดังนี้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความประมาทเลินเล่อ จำเลยที่ 2 และการรถไฟแห่งประเทศไทยจำเลยที่ 3ต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำละเมิดดังกล่าวแต่ผู้ตายคุ้นเคยกับการเดินผ่านข้ามทางรถไฟในบริเวณดังกล่าว เดินผ่านรางรถไฟมาพร้อมกับคนอื่นหลายคนมีผู้ตายประสบอุบัติเหตุเพียงคนเดียว แสดงว่าผู้ตายไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอ เดินผ่านข้ามรางห่างตู้รถสินค้าในระยะกระชั้นชิด ต้องถือว่าผู้ตายมีส่วนประมาทเช่นเดียวกัน เมื่อความเสียหายเกิดขึ้นจากการกระทำของจำเลยที่ 2 แต่ผู้ตายก็มีส่วนก่อ ให้เกิดความเสียหาย ดังนี้ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ร่วมรับผิด ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่จำเลยครึ่งหนึ่งของค่าเสียหายทั้งหมด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: การรับประกันภัยค้ำจุนและการไม่รับผิดในผลละเมิดของนายจ้างที่ไม่เกี่ยวข้อง
จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัด น.ห้าง ฯ ดังกล่าวได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อรถนั้นไปในขณะเกิดเหตุ ห้าง ฯ มิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ ห้าง ฯ หาต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯ ในลักษณะประกันภัยค้ำจุนจึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยรถยนต์: ความรับผิดของผู้รับประกันภัยในกรณีที่ผู้เช่าซื้อรถทำละเมิด และบทบาทของประกันภัยค้ำจุน
จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัด น.ห้าง ฯ ดังกล่าวได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อรถนั้นไปในขณะเกิดเหตุ ห้าง ฯ มิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 1ทำละเมิดต่อโจทก์ ห้าง ฯ หาต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯ ในลักษณะประกันภัยค้ำจุน จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์คันที่เกิดละเมิด และบริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยกับผู้ให้เช่าซื้อ ไม่ต้องรับผิดในผลละเมิด
จำเลยที่3รับประกันภัยรถยนต์ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ห้างฯดังกล่าวได้ให้จำเลยที่2เช่าซื้อรถนั้นไปในขณะเกิดเหตุห้างฯมิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่1ที่จำเลยที่1ทำละเมิดต่อโจทก์ห้างฯหาต้องร่วมกับจำเลยที่1รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่จำเลยที่3ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯในลักษณะประกันภัยค้ำจุนจึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 382/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของผู้อยู่ในเหตุการณ์ละเมิด และการแบ่งค่าเสียหายตามส่วนของโจทก์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยซึ่งเป็นคนขับรถฝ่ายหนึ่งกับนายจ้างร่วมรับผิดฐานละเมิด แม้เหตุที่รถชนกันจะเกิดจากความประมาทร่วมของคนขับรถทั้งสองฝ่าย เมื่อโจทก์มิได้มีส่วนร่วมในความประมาทด้วยโดยเพียงนั่งมาในรถยนต์สามล้อเท่านั้น ผู้ทำละเมิดทุกคนต้องร่วมกันรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดนั้นต่อโจทก์เต็มจำนวน มิใช่รับผิดเพียงกึ่งหนึ่ง การที่ผู้ทำละเมิดแต่ละคนจะรับผิดมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องระหว่างผู้ทำละเมิด
ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าอุปการะเลี้ยงดูให้โจทก์ทั้งสามจำนวนเดียว โดยมิได้แยกเป็นของแต่ละคนทั้งที่โจทก์ทั้งสามขอค่าอุปการะเลี้ยงดูมาแต่ละคนไม่เท่ากัน ศาลฎีกามีอำนาจกำหนดให้มากน้อยตามส่วนของแต่ละคนที่ขอมาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยจงใจสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่นเป็นการละเมิด แม้กระทำในที่ดินของตน
การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้นเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์จำเลยมีตึกแถวอยู่ติดกันและมีท่อระบายน้ำโสโครกฝังอยู่ด้านหลังของตึกแถวเป็นแนวเดียวกัน 1 ท่อ เพื่อระบายน้ำร่วมกันไปสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ โจทก์จำเลยมีเรื่องพิพาทกันมาก่อนแล้วจำเลยนำแผ่นเหล็กเจาะรูเล็ก ๆ ปิดกั้นทางระบายน้ำที่จะระบายมาจากบ้านโจทก์ จนเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านโจทก์เป็นการกระทำที่จงใจจะให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ถึงแม้จะกระทำในที่ดินของตนเองก็เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นอันเป็นการกระทำโดยละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421
โจทก์ร้องขอให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาในกรณีฉุกเฉินให้จำเลยรื้อถอนแผ่นเหล็กดังกล่าวออก เมื่อศาลอนุญาตแล้วโจทก์ก็เอาแผ่นเหล็กที่จำเลยนำไปปิดกั้นออก การกระทำของโจทก์ดังกล่าวได้รับความคุ้มครองตามคำสั่งศาลอันชอบด้วยกฎหมาย ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำโดยละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการปิดกั้นทางระบายน้ำ แม้ในที่ดินตนเอง, การคุ้มครองตามคำสั่งศาล
โจทก์และจำเลยเป็นผู้ครอบครองตึกแถวคนละห้องเรียงอยู่ในแถวเดียวกันมีท่อระบายน้ำโสโครกตลอดแนวด้านหลังตึกแถวหนึ่งท่อจำเลยนำแผ่นเหล็กเจาะรูเล็กๆปิดกั้นท่อระบายน้ำเป็นเหตุให้น้ำโสโครกท่วมขังบ้านโจทก์แม้จะกระทำในที่ดินของจำเลยเองก็เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นเป็นละเมิดต่อโจทก์ ส่วนการที่โจทก์ฟ้องและขอใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาจนศาลสั่งให้จำเลยรื้อถอนแผ่นเหล็กดังกล่าวและโจทก์ได้ให้คนงานเข้ารื้อถอนแผ่นเหล็กนั้นออกเป็นเหตุให้ขยะไหลมาอุดตันท่อระบายน้ำตรงห้องจำเลยทำให้น้ำท่วมขังบ้านจำเลยนั้นเป็นการกระทำโดยได้รับความคุ้มครองตามคำสั่งของศาลอันชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นละเมิดต่อจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 37/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้สิทธิโดยจงใจสร้างความเสียหายแก่ผู้อื่นเป็นการละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 421
การใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นนั้นเป็นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย โจทก์จำเลยมีตึกแถวอยู่ติดกันและมีท่อระบายน้ำโสโครกฝังอยู่ด้านหลังของตึกแถวเป็นแนวเดียวกัน1ท่อเพื่อระบายน้ำร่วมกันไปสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะโจทก์จำเลยมีเรื่องพิพาทกันมาก่อนแล้วจำเลยนำแผ่นเหล็กเจาะรูเล็กๆปิดกั้นทางระบายน้ำที่จะระบายมาจากบ้านโจทก์จนเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านโจทก์เป็นการกระทำที่จงใจจะให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ถึงแม้จะกระทำในที่ดินของตนเองก็เป็นการใช้สิทธิซึ่งมีแต่จะให้เกิดเสียหายแก่บุคคลอื่นอันเป็นการกระทำโดยละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา421 โจทก์ร้องขอให้ใช้วิธีการชั่วคราวก่อนพิพากษาในกรณีฉุกเฉินให้จำเลยรื้อถอนแผ่นเหล็กดังกล่าวออกเมื่อศาลอนุญาตแล้วโจทก์ก็เอาแผ่นเหล็กที่จำเลยนำไปปิดกั้นออกการกระทำของโจทก์ดังกล่าวได้รับความคุ้มครองตามคำสั่งศาลอันชอบด้วยกฎหมายถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำโดยละเมิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3698/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดต่อละเมิดของลูกจ้างในทางการจ้าง แม้จำเลยที่ 2 ซื้อสลากโดยเปิดเผย ก็ไม่ถือว่าทุจริต
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 มีใจความว่าทำละเมิดโดยลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ในทางการที่จ้างได้ลักเอาสลากกินแบ่งที่โจทก์ส่งไปรษณียภัณฑ์ไป ขอให้จำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ แม้มิได้ระบุหมายเลขสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัลไว้และมิได้ระบุว่าฉบับใดหายไป ก็เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งของซึ่งโจทก์อาจนำสืบในชั้นพิจารณาได้ ไม่จำต้องกล่าวมาในฟ้อง จึงหาเป็นฟ้องเคลือบคลุมไม่
ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ผู้มีหน้าที่ในการจัดส่งไปรษณียภัณฑ์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 เป็นผู้ลักสลากกินแบ่งของโจทก์ที่สอดมาในซองจดหมายไปรษณียภัณฑ์ลงทะเบียนของโจทก์ไปอันเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 1 ผู้เป็นนายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับลูกจ้างในผลแห่งละเมิดซึ่งลูกจ้างได้กระทำไปในทางการที่จ้าง ส่วนที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าไม่ควรต้องรับผิดหรือรับผิดใช้ค่าเสียหายก็ไม่เกิน 160 บาทตามไปรษณียนิเทศ พุทธศักราช 2520 ข้อ 539 นั้น ข้อบังคับดังกล่าวเป็นกรณีที่จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในกรณีไปรษณียภัณฑ์สูญหายไปเพราะความผิดในการขนส่งจะนำมาใช้บังคับในกรณีละเมิดหาได้ไม่
จำเลยที่ 2 มีอาชีพขายสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่ที่ซุ้มริมถนนราชดำเนินและรับซื้อสลากกินแบ่งที่มีผู้นำมาขาย ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้รู้จักกับผู้ที่นำสลากมาขายทั้งปรากฏว่าได้รับซื้อไว้โดยเปิดเผยกับได้นำสลากดังกล่าวไปขึ้นเงินต่อสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วยตนเองโดยเปิดเผยจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 รับซื้อสลากไว้โดยทุจริตตามที่โจทก์ฟ้อง ถึงแม้จำเลยที่ 2 จะมิได้ซื้อจากท้องตลาดก็ตาม ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยทำละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3599/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยสนับสนุนให้โจทก์ลงทุนก่อนขออนุญาต ทำให้โจทก์เสียหายจากการสร้างซุ้มที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ถือเป็นการละเมิด
จำเลยทราบอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีอำนาจอนุญาตให้โจทก์สร้างซุ้มขายของบริเวณที่จอดรถของโรงแรมที่จำเลยเช่าดำเนินกิจการอยู่ แต่จำเลยกลับขอร้องและสนับสนุนให้โจทก์ลงทุนตระเตรียมการก่อสร้างซุ้มขายของดังกล่าวไปก่อนขออนุญาตเจ้าของโรงแรมในที่สุดไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เพราะเจ้าของโรงแรมมีข้อตกลงกับกรุงเทพมหานครให้ใช้บริเวณที่จะสร้างซุ้มขายของเป็นที่จอดรถอย่างเดียว จึงเป็นเหตุให้โจทก์เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์และต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์สำหรับค่าเสียหายที่โจทก์ต้องจ้างที่ปรึกษาและทุ่มเทเวลาเพื่องานนี้ส่วนค่าขาดประโยชน์ที่โจทก์จะได้รับหากได้สร้างซุ้มพิพาท และค่าเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติคุณนั้นเป็นค่าเสียหายที่ไกลกว่าเหตุ
of 278