พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,913 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3142/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงินได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์ก่อนล้มละลาย ไม่เป็นทรัพย์สินที่ต้องนำมาจ่ายเลี้ยงชีพ
จำเลยจำนองที่ดินไว้กับธนาคารกรุงเทพ จำกัด เป็นเงิน300,000 บาท ต่อมาศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวได้เงิน 430,000 บาท เกินหนี้ที่จำนอง 130,000 บาท เงินจำนวนดังกล่าวนี้เป็นเงินที่ได้มาจากการขายทอดตลาดทรัพย์ซึ่งจำเลยมีมาก่อนล้มละลาย แม้จะขายทอดตลาดและได้เงินจำนวนนี้มาในระหว่างที่จำเลยถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายเงินจำนวนนี้ก็มิใช่เงินที่จำเลยได้มาระหว่างล้มละลาย จำเลยจึงไม่มีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เอาเงินจำนวนดังกล่าวมาจ่ายเลี้ยงชีพจำเลยและครอบครัวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 67(1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1911/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกร้องหนี้จากบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นลูกหนี้โดยตรงของผู้ล้มละลาย
ลูกหนี้ผู้ล้มละลายได้กู้เงินจากโจทก์แล้วนำไปให้สมาชิกของลูกหนี้กู้แล้วสมาชิกเอาเงินที่กู้ยืมมาจากลูกหนี้เอาไปให้ ล. กู้ยืมต่อ ล. จึงมิใช่ลูกหนี้ของลูกหนี้ผู้ล้มละลายเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจเรียกร้องให้ ล. ชำระเงินดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องประนอมหนี้หลังกำหนดเวลาตามกฎหมายล้มละลาย ศาลต้องพิพากษาล้มละลายตามกฎหมาย
จำเลยมิได้ยื่นคำขอประนอมหนี้ เป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จึงได้ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก และเจ้าหนี้ ได้ลงมติขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานมติในการประชุมดังกล่าวในศาลทราบตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 61 ซึ่งตาม พระราชบัญญัติดังกล่าวบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลจะงดพิพากษาหรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้น การที่จำเลยมายื่นคำร้องขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 45 แล้ว ศาลจะสั่งงดอ่านคำพิพากษาโดยให้จำเลยไปดำเนินการขอประนอมหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ ต้องยกคำร้องของ จำเลยและพิพากษาให้จำเลยล้มละลายตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 61
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1821/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นคำร้องประนอมหนี้หลังกำหนดเวลาตามกฎหมายล้มละลาย ศาลต้องพิพากษาล้มละลายตามมาตรา 61
จำเลยมิได้ยื่นคำขอประนอมหนี้เป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในเวลาตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำหนด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงได้ประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรก และเจ้าหนี้ได้ลงมติขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์รายงานมติในการประชุมดังกล่าวให้ศาลทราบตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 61 ซึ่งตามพระราชบัญญัติดังกล่าวบังคับให้ศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ล้มละลาย ศาลจะงดพิพากษาหรือพิพากษาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้น การที่จำเลยมายื่นคำร้องขอประนอมหนี้ก่อนล้มละลายเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 45 แล้ว ศาลจะสั่งงดอ่านคำพิพากษาโดยให้จำเลยไปดำเนินการขอประนอมหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ ต้องยกคำร้องของจำเลยและพิพากษาให้จำเลยล้มละลายตามความที่บัญญัติไว้ในมาตรา 61
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้เดิมหากเพิกถอนเพราะไม่สุจริต
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 92 บัญญัติถึงวิธีการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไว้โดยเฉพาะแล้ว การที่ศาลเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้ เพราะเหตุเจ้าหนี้ได้กระทำโดยไม่สุจริตตาม มาตรา 114 นั้นเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรา 92 ดังกล่าว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ที่ถูกเพิกถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: เพิกถอนการชำระหนี้เพราะไม่สุจริต ไม่ได้รับสิทธิขอรับชำระหนี้เพิ่มเติม
พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 92 บัญญัติถึงวิธีการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายไว้โดยเฉพาะแล้ว การที่ศาลเพิกถอนการชำระหนี้ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้เพราะเหตุเจ้าหนี้ได้กระทำโดยไม่สุจริตตามมาตรา 114 นั้นเป็นกรณีที่ไม่ต้องด้วยมาตรา 92 ดังกล่าว เจ้าหนี้จึงไม่มีสิทธิขอรับชำระหนี้ที่ถูกเพิกถอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้จากการจ้างทำของขาดอายุความเป็นเหตุไม่ควรให้ล้มละลาย แม้จำเลยมิได้ยกข้อต่อสู้
จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ทำการโฆษณาสินค้าและภาพยนตร์ซึ่งเป็นการจ้างทำของ หนี้รายนี้จึงมีอายุความให้ฟ้องร้องได้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) เมื่อนับจากวันที่หนี้รายนี้เกิดขึ้นถึงวันที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเนื่องจากค้างชำระสินจ้างดังกล่าวเป็นเวลาเกินสองปีแล้ว หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจึงขาดอายุความ
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญเพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94 (1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญเพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94 (1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าว ศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 71/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความหนี้จากการจ้างทำของในคดีล้มละลาย ศาลพิจารณาเหตุไม่สมควรให้ล้มละลายได้ แม้จำเลยไม่ได้ยกข้อต่อสู้
จำเลยว่าจ้างโจทก์ให้ทำการโฆษณาสินค้าและภาพยนตร์ซึ่งเป็นการจ้างทำของ หนี้รายนี้จึงมีอายุความให้ฟ้องร้องได้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา165(1) เมื่อนับจากวันที่หนี้รายนี้เกิดขึ้นถึงวันที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายเนื่องจากค้างชำระสินจ้างดังกล่าวเป็นเวลาเกินสองปีแล้ว หนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องจึงขาดอายุความ
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น. การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญ เพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94(1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าวศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คดีล้มละลายจำเลยไม่จำต้องให้การสู้คดีเช่นคดีแพ่งสามัญจึงไม่มีประเด็นอย่างใดเกิดขึ้น. การพิจารณาคดีล้มละลายผิดแผกแตกต่างกับการพิจารณาคดีแพ่งสามัญ เพราะพระราชบัญญัติล้มละลายเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนมีผลในทางตัดสิทธิและเสรีภาพของผู้ที่ถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ศาลจึงต้องพิจารณาเอาความจริงตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ว่าคดีมีเหตุที่ควรหรือไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายหรือไม่ฉะนั้น แม้จำเลยจะมิได้ยกข้อต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เมื่อทางพิจารณาได้ความว่าหนี้ตามฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ จึงเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามมาตรา 94(1) ถือได้ว่าเป็นเหตุที่ไม่ควรให้ลูกหนี้ล้มละลายตามมาตรา 14 ดังกล่าวศาลย่อมพิพากษายกฟ้องโจทก์เสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 659/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าหนี้ในการรับชำระหนี้หลังศาลกลับคำพิพากษาคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ที่ยื่นคำขอไว้แล้วไม่ต้องยื่นใหม่
เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้แล้วต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีที่มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ ศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้พิทักษ์ทรัพย์ตามศาลชั้นต้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการต่อไปจากเดิมได้ ไม่ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามประกาศของ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ใหม่ ซึ่งเพียงแต่เจ้าหนี้ที่ยังไม่ได้ยื่นคำขอรับชำระไว้เดิมยื่นคำขอเข้ามาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 658/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: การยื่นคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องเป็นไปตามกำหนดเวลา และเหตุผลที่อ้างไม่เป็นเหตุสุดวิสัย
คัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่สั่งไม่ให้ถอนการยึดทรัพย์ต้องร้องต่อศาลภายใน 14 วันตาม พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 158 เหตุที่ผู้ร้องอ้างว่าเสียเวลาศึกษาสำนวนความซึ่งใช้พยานหลักฐานหลายชุด และผู้รับมอบอำนาจเข้าใจผิด ไม่เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะขยายระยะเวลา