คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
กระทำผิด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 237 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 998/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต: ไม่ถือเป็นสิ่งของที่ใช้ในการกระทำผิดโดยตรง จึงไม่ริบ
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขายยาได้แต่เฉพาะยาสำเร็จรูปซึ่งไม่ใช่ยาอันตราย จำเลยได้ขายยาซึ่งเป็นยาอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยจำเลยมิได้รับอนุญาตให้ขายยาประเภทก. ความผิดของจำเลยจึงอยู่ที่มิได้รับใบอนุญาตขายยาประเภทดังกล่าวจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ยาของกลางที่ยึดมาจากจำเลยนั้น แม้จะเป็นยาอันตราย แต่ก็เป็นยาชอบด้วยกฎหมายและอาจขายได้ หากจำเลยได้รับใบอนุญาตให้ขายยาจากพนักงานเจ้าหน้าที่เสียก่อน จึงไม่ใช่สิ่งของที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดโดยตรงอันจะพึงต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ศาลจึงไม่ริบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 579/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทบัญญัติกฎหมายจราจรทางบก พ.ศ. 2477 และหลักการใช้กฎหมายที่ใช้บังคับ ณ ขณะกระทำผิด
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 10 ซึ่งใช้ในขณะโจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดบัญญัติว่า "เมื่อรถเดินสวนกันให้หลีกด้านซ้าย และเมื่อขึ้นหน้ารถคันอื่นให้ขึ้นด้านขวา" การที่จำเลยขับรถล้ำกึ่งกลางถนนออกไปประมาณ 10 เซ็นติเมตรขณะที่รถอีกคันหนึ่งแล่นสวนมา ไม่เป็นความผิดตามกฎหมายมาตรานี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 907/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีอาญา: ผู้เสียหายต้องเสียหายโดยตรงจากการกระทำผิด
โจทก์กับนางหน่วงผู้ตายมิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันปลอมลายพิมพ์นิ้วมือนางหน่วงลงในสัญญากู้ แล้วนำสัญญากู้เอกสารสิทธิปลอมไปยื่นฟ้องต่อศาล ไม่ใช่จำเลยสมคบกันปลอมลายพิมพ์นิ้วมือของโจทก์ในสัญญากู้นั้น โจทก์จึงไม่เป็นบุคคลได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้อง การที่โจทก์ถูกยึดทรัพย์เพราะการกระทำของจำเลย โจทก์ก็ชอบที่จะไปดำเนินคดีในทางแพ่งได้ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 (4) จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1390/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่หลังปล้นทรัพย์ถือเป็นความต่อเนื่องของการกระทำผิด
จำเลยปล้นทรัพย์ได้แล้ว ก่อนจะลงเรือนจำเลยบังคับให้เจ้าทรัพย์ไปส่ง พอลงเรือนก็ให้เจ้าทรัพย์ร้องบอกว่า อย่าให้ออกมา ออกมาจะตาย เจ้าทรัพย์จึงร้องว่า พี่น้องเว้ย อย่าพากันออกมาเน้อ พอไปห่างเรือน 1 เส้น จำเลยสองคนยิงปืนขึ้นฟ้าคนละนัดแล้วร้องว่า ใครอย่าเข้ามา เข้ามาต้องตาย แล้วพากันเดินต่อไป ดังนี้ การยิงปืนของจำเลยกับการปล้นทรัพย์ยังไม่ขาดตอนกัน ถือได้ว่ายิงเพื่อความสะดวกในการที่จะพาทรัพย์ที่ปล้นได้ไป และเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรค 4

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการกระทำผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจาร การกระทำของคนขับรถถือเป็นการร่วมกระทำผิด
ขณะจำเลยที่ 1 ลงไปฉุดผู้เสียหายขึ้นรถ จำเลยที่ 2 จอดรถติดเครื่องรอคอยอยู่ในระยะใกล้ๆ จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายแล้ว จำเลยที่ 2 ได้ออกรถขับไปทันที การกระทำตั้งแต่แรกที่จำเลยที่ 1 ฉุดผู้เสียหายมาขึ้นรถตลอดจนพาผู้เสียหายไปหลังจากผู้เสียหายขึ้นรถแล้ว ยังคงถือว่าเป็นการกระทำผิดฐานพาหญิงไปเพื่อการอนาจารอยู่ตลอดเวลา การกระทำของจำเลยที่ 2 ที่ขับรถพาผู้เสียหายกับจำเลยที่ 1 ไปจึงเป็นการกระทำส่วนหนึ่งของการพาผู้เสียหายไป เป็นการร่วมกระทำผิดกันตามมาตรา 83

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 57/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคนไทยกระทำผิดนอกประเทศ: ฟ้องได้โดยไม่ต้องอ้างกฎหมายต่างประเทศ และการพิจารณาข้อโต้แย้งเรื่องการสืบพยาน
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8(ก) วรรค 2(9) นั้น เมื่อจำเลยเป็นคนไทยกระทำผิดฐานชิงทรัพย์นอกประเทศ ผู้เสียหารได้ร้องขอให้ลงโทษแล้ว จำเลยจึงต้องรับโทษในราชอาณาจักร และในคำฟ้องก็ไม่ต้องอ้างกฎหมายอาญาของประเทศที่จำเลยไปกระทำผิด กับโจทก์ไม่จำต้องนำสืบกฎหมายต่างประเทศ
จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ส่งประเด็นไปสืบตำรวจพม่า 3 คน ณ ประเทศพม่าหรือ ณ สถานทูตประเทศพม่า และร้อยตำรวจเอกจำนงเบิกความประกอบยืนยันในคำให้การตำรวจเหล่านั้น ย่อมไม่มีน้ำหนักอะไร นั้น เป็นฎีกาข้อเท็จจริง เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุกไม่เกิน 5 ปี จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369-1370/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการฆ่า: การกระทำร่วมกันและเจตนาในการกระทำผิด
จำเลยที่ 1 เป็นคนใช้ปืนยิงผู้ตาย จำเลยที่ 2,3 มีอาวุธ โดดจากเรือนไปพร้อมจำเลยที่ 1 แสดงว่าจำเลยที่ 2,3 รู้เห็น มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 การที่จำเลยที่ 2,3 มีอาวุธ แสดงว่าจำเลยที่ 2,3 พร้อมที่จะช่วยจำเลยที่ 1 ได้ทันที เมื่อจำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายแล้ว ตอนหนีกลับจำเลยทั้งสามยังหนีกลับมาทางเดียวพร้อมกันอีก จึงนับว่าจำเลยที่ 2,3 ได้ร่วมกันกระทำความผิดด้วยกับจำเลยที่ 1 เป็นตัวการฆ่าผู้ตายด้วยกัน
โทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 กับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 กำหนดไว้เท่ากัน การที่จะใช้กฎหมายใหม่ขึ้นบังคับปรับบทก็ไม่เป็นคุณแก่จำเลยผู้กระทำผิดแต่อย่างใด ศาลจึงต้องใช้กฎหมายลักษณะอาญาปรับบทลงโทษจำเลย
(อ้างฎีกาที่ 1630/2500,1814/2500)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1208/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน, หน่วงเหนี่ยว, ทำร้ายร่างกาย: จำเลยกระทำผิดฐานดังกล่าวแม้ไม่ใช่เจ้าพนักงานจริง
จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าพนักงาน แต่แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานจับกุมควบคุมตัวผู้เสียหายไปและเตะทำร้ายผู้เสียหายมีบาดเจ็บ มีรอยถลอกและเขียวช้ำบริเวณลิ้นปี่ หน้าท้องนูนขึ้นมา เวลากดบริเวณหน้าท้องเจ็บทั่ว ๆ ไปรักษาประมาณ 15 วันหายเป็นความผิดตามมาตรา 145,310 และ 295

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 377/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด แม้จะไม่อยู่ในอำนาจเจ้าพนักงาน
ประมวลกฎหมายอาญาซึ่งบัญญัติเรื่องการริบทรัพย์สินนั้น มิได้บัญญัติให้ริบเฉพาะทรัพย์ที่นำมาอยู่ในอำนาจของศาลหรือเจ้าพนักงานเท่านั้น แต่มุ่งหมายถึงทรัพย์ที่บุคคลได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดเป็นสาระสำคัซญ ฉะนั้น ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดแม้จะไม่มีอยู่ที่เจ้าพนักงานก็ตาม ศาลก็สั่งให้ริบได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1906/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุปกรณ์ใช้ในการกระทำผิดป่าไม้ต้องริบตามกฎหมาย
เรือยนต์และเชือกที่ใช้ลากจูงเรือฉลอมซึ่งบรรทุกไม้ของกลางเคลื่อนที่หรือนำออกจากที่ไปก็ดี เรือฉลอมนั้นเองก็ดี ถือว่าเป็นอุปกรณ์ทีได้ใช้ให้ได้รับผลในการกระทำความผิด คือได้รับผลในการนำไปไว้ในครอบครองให้บริบูรณ์ขึ้นต้องริบ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 4) พ.ศ.2503 มาตรา 18 เพิ่มความเป็นมาตรา 74 ทวิแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484
of 24