คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ขนส่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 215 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดี และอำนาจฟ้องของบริษัทที่รับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์เพื่อประกอบการขนส่ง
โจทก์ที่ 2 ได้นำรถคันเกิดเหตุเข้ามาวิ่งร่วมในสัมปทานของบริษัทโจทก์ที่ 3 โดยโจทก์ที่ 2 ได้จดทะเบียนโอนรถเป็นของบริษัทโจทก์ที่ 3 ด้วย เพื่อจะได้วิ่งในเส้นทางสัมปทานได้ โจทก์ที่ 2 ที่ 3 จึงเป็นผู้ครอบครองรถคันดังกล่าวและดำเนินการร่วมกัน โจทก์ที่ 3 จึงมีอำนาจฟ้อง
จำเลยร่วมเพียงผู้เดียวที่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้แต่เมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 และจำเลยร่วมร่วมกันรับผิด ใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 3 แล้วจำเลยร่วมไม่อุทธรณ์ ประเด็นเรื่องอายุความสำหรับจำเลยร่วมย่อมยุติ เมื่อจำเลยที่ 3 อุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นมาวินิจฉัยอีกว่า คดีสำหรับจำเลยร่วมขาดอายุความแล้ว จำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์นั้นเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2945/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้มีใบอนุญาตขนส่งส่วนบุคคล ใช้รถผิดประเภท ไม่ถือเป็นประกอบการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต
จำเลยได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งส่วนบุคคลแต่นำไปใช้ประกอบการขนส่งประจำทางจำเลยจึงมีความผิดฐานใช้รถผิดประเภทจากที่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522มาตรา 27,128 แต่ไม่มีความผิดฐานประกอบการขนส่งโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ.2522 มาตรา 23,126

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องจำเลยที่เป็นสาขาของบริษัทต่างประเทศ, ส่วนได้เสียในประกันภัย, และข้อจำกัดความรับผิดในการขนส่ง
โจทก์ใส่ชื่อจำเลยในตอนต้นของคำฟ้องว่า"สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ" ตามชื่อที่จดทะเบียนพาณิชย์ไว้ แต่ในคำบรรยายฟ้องได้กล่าวให้ทราบชัดแล้วว่าโจทก์ฟ้องบริษัท ด. กับบริษัท อ. ซึ่งเป็นนิติบุคคล อยู่ในประเทศเดนมาร์ก. และมีสำนักงานสาขาสำหรับดำเนินธุรกิจซึ่งบริษัททั้งสองทำร่วมกันในประเทศไทยโดยใช้ชื่อว่า "สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ " เป็นจำเลยดังนี้ แม้ "สายเดินเรือเมอสก์ สาขากรุงเทพฯ " จะมิได้เป็นนิติบุคคล ก็ไม่เป็นเหตุให้ไม่อาจถูกฟ้องเป็นจำเลย ได้
บริษัท ย. เป็นผู้สั่งสินค้าเข้ามาจากประเทศฟิลิปปินส์และได้เอาประกันภัยไว้กับโจทก์ แม้ตามใบตราส่งจะระบุให้ธนาคารเป็นผู้รับสินค้า แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าหากวินาศภัยมีขึ้นแก่สินค้าที่เอาประกันภัยนั้น บริษัท ย. จะไม่ต้องรับผิดชอบต่อธนาคารประการใดเลยแล้ว ก็ต้องถือว่าบริษัท ย. เป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยไว้
ข้อความจำกัดความรับผิดในใบตราส่งที่พิมพ์เพิ่มเติมขึ้นจากแบบพิมพ์เดิมโดยไม่ปรากฏการรับรู้จากผู้ส่งหรือผู้ตราส่ง จะฟังว่าผู้ส่งหรือผู้ตราส่งตกลงด้วยในข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยซึ่งเป็นผู้ขนส่งหาได้ไม่ และเมื่อไม่อาจใช้ยันผู้ส่งหรือผู้ตราส่ง ก็ย่อมใช้ยันผู้รับตราส่ง ซึ่งได้รับสิทธิของผู้ส่งมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 627 ตลอดจนผู้รับช่วงสิทธิของผู้รับตราส่งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 105/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของนายจ้างและผู้รับประกันภัยในเหตุละเมิดจากการขนส่งสินค้า
จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งนำเข้าร่วมรับขนส่งกับห้างหุ้นส่วนผู้เอาประกันภัยค้ำจุนกับจำเลยร่วม จำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ฐานเป็นนายจ้าง ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 ห้างหุ้นส่วนผู้เอาประกันภัยไม่ได้เข้ามาในคดี แต่จำเลยร่วม ผู้รับประกันภัยถูกหมายเรียกเข้าเป็นจำเลยร่วมในคดีแล้ว มีผลเสมือนจำเลยร่วมถูกฟ้อง และโจทก์ฟ้องจำเลยร่วมได้โดยตรง ตาม มาตรา 887

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งหลายทอด กรณีสินค้าสูญหาย - มาตรา 618
จำเลยที่ 1 ดำเนินกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลโดยเรือเดินทะเลของจำเลยที่ 1 มารับตู้ลำเลียงอันบรรจุสินค้าแล้ว ณ ท่าเรือสัตหีบแต่องค์การ ร.ส.พ. จำเลยที่ 2 เป็นผู้ผูกขาดการขนส่งสินค้าเข้าไปในบริเวณท่าเรือตลอดจนการให้บริการด้านการท่าเรือ จำเลยที่ 1 จึงจ้างจำเลยที่ 2 ให้จัดรถทำการลากจูงตู้ลำเลียงของจำเลยที่ 1 ไปบรรทุกสินค้าและลากจูงไปยังท่าเรือสัตหีบแต่การตกลงรับขนส่งของทั้งในช่วงทางบกและทางทะเลจำเลยที่ 1 เป็นผู้รับติดต่อและตกลงกับเจ้าของสินค้าผู้ส่งแสดงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ขนส่งสินค้ารายพิพาทจากกรุงเทพมหานครผ่านท่าเรือสัตหีบไปให้แก่บริษัท ท. ที่ท่าเรือฮ่องกงดังนี้ จำเลยที่ 1เป็นผู้ขนส่งในช่วงทางบกด้วย
การรับขนส่งสินค้าซึ่งแบ่งการขนส่งออกได้เป็นทอด ๆ การจ้างให้ผู้อื่นทำการขนส่งแทนในทอดใดทอดหนึ่งโดยให้ผู้นั้นไปรับค่าจ้างจากผู้จ้างได้โดยตรงนั้นไม่ทำให้ผู้รับขนพ้นความรับผิดสำหรับการขนส่งทอดนั้น ๆ ไปได้ตาม มาตรา 617 และ มาตรา 618
แม้จะฟังว่าสินค้าถูกคนร้ายลักไปในระหว่างที่พนักงานของจำเลยที่ 2 ลากจูงตู้ลำเลียงจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้รับจ้างขนส่งก็ยังต้องรับผิดในการที่สินค้าสูญหายตามมาตรา 617 และ มาตรา 618 อยู่นั่นเอง
การควบคุมดูแลรักษาสินค้าซึ่งบรรจุอยู่ในตู้ลำเลียงไม่จำเป็นต้องมีกุญแจหรือเครื่องมืออื่นใดในเมื่อจำเลยที่ 2 วางใจว่าการปิดประตูตู้แล้วผนึกด้วยตราของจำเลยที่ 1 และตราของเจ้าหน้าที่ศุลกากรนั้นเป็นการเพียงพอจำเลยที่ 2 จึงเป็นผู้ขนส่งคนหนึ่งด้วยในการขนส่งสินค้ารายนี้
ตาม มาตรา 618 นั้น มิได้บัญญัติว่าต้องเป็นการร่วมกันทำการขนส่งดังนั้นการที่จะถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ร่วมทำการขนส่งกับจำเลยที่ 1 หรือไม่ จึงไม่เป็นปัญหา
จำเลยที่ 1 รับจ้างขนสินค้ารายพิพาทจากคลังสินค้าของผู้ส่งไปยังท่าเรือสัตหีบแล้วขนส่งโดยทางเรือทะเลไปให้ผู้รับตราส่ง ณ ท่าเรือฮ่องกงได้จ้างจำเลยที่ 2 ลากจูงตู้ลำเลียงซึ่งบรรจุสินค้าแล้ว จากคลังสินค้าของผู้ส่งไปยังท่าเรือสัตหีบ ต่อแต่นั้นจำเลยที่ 1 จึงใช้เรือเดินทะเลของตนขนส่งตู้ลำเลียงดังกล่าวไปยังท่าเรือปลายทางอีกทอดหนึ่ง ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าของนั้นได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอดตามความใน มาตรา 618 แล้ว
แม้ไม่ได้ความชัดว่าสินค้าหายไปในระหว่างที่อยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 หรือที่ 2 กันแน่นั้น ก็ไม่เป็นข้อขัดข้องที่จะบังคับตามมาตรา 618
ใบกำกับของและใบตราส่งนั้น ตามกฎหมายมิได้บังคับว่าต้องทำให้แก่กัน จำเลยที่ 2 เป็นแต่เพียงผู้ที่จำเลยที่ 1 จ้างให้ทำการขนส่งทอดหนึ่งในการขนส่งหลายทอดอาจจะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำเอกสารดังกล่าวให้แก่กันไว้ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 149/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ประกอบการขนส่งต้องรับผิดต่อความเสียหายจากอุบัติเหตุ แม้เช่ารถและคนขับ ไม่ใช่ลูกจ้าง
จำเลยเป็นผู้ประกอบกิจการรับขนส่งคนโดยสาร จำเลยต้องรับผิดต่อคนโดยสารในความเสียหายที่เกิดขึ้นจะปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่ารถโดยสารคันนั้นเช่ามา และคนขับไม่ใช่ลูกจ้างของตนหาได้ไม่ ต้องใช้ค่าเสียหายที่โจทก์ขาดอุปการะเลี้ยงดูจากภริยาและบุตรที่ถูกรถชนตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2783/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ที่ใช้ในการขนส่งยาเสพติด
รถยนต์ของกลางนำเฮโรอีนไปส่งให้แก่ผู้ซื้อ ถือได้ว่าเป็นยานพาหนะซึ่งบุคคลได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับเฮโรอีน อันต้องริบตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465มาตรา 29(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2504 มาตรา 12

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งทางทะเลและผู้รับขนส่งช่วงเมื่อสินค้าสูญหาย
จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับขนของทางทะเล โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งกุ้งแช่เย็นจากจังหวัดตราดไปต่างประเทศ ในการขนส่งกุ้งดังกล่าว จำเลยที่ 1 ทำสัญญาให้จำเลยที่ 2 นำตู้บรรจุสินค้าซึ่งเรียกว่าคอนเทนเนอร์มาบรรจุกุ้งและลากจูงจากจังหวัดตราดไปยังท่าเรือสัตหีบ ปรากฏว่ากุ้งของโจทก์ในรถตู้ลำเลียงหายไปบางส่วน ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 นำของที่จำเลยที่ 1 รับขนมายังท่าเรืออันเป็นส่วนหนึ่งของการที่จะให้ธุรกิจของจำเลยที่ 1 ในการรับขนของลุล่วงเป็นผลสำเร็จ เมื่อของที่รับขนสูญหายไป จำเลยที่ 1 ต้องรับผิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 617 และเมื่อจำเลยที่ 2 รับขนส่งช่วงจากจำเลยที่ 1 อันถือได้ว่า สินค้าของโจทก์ได้ส่งไปโดยมีผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ซึ่งผู้ขนส่งทั้งนั้นจะต้องร่วมกันรับผิดในกรณีที่สินค้าของโจทก์สูญหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 618 จำเลยที่ 2 จึงต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1984/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้ขนส่งหลายทอดต่อความเสียหายของสินค้า และขอบเขตความรับผิดของผู้รับขนช่วง
โจทก์จ้างจำเลยที่ 1 ขนส่งของไปต่างประเทศทางทะเล จำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2 นำรถลากจูงรถตู้ไปลำเลียงของมาลงเรือ จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์ในความผิดของจำเลยที่ 2 ที่ของสูญหายไปตาม ป.พ.พ. ม.617 ด้วยป.ว.281 ไม่ทำให้จำเลยที่ 1 พ้นความรับผิด โดยเหตุที่เป็นบริษัทต่างประเทศต้องห้ามรับขนส่งสินค้าทางบกไม่ได้จำเลยที่ 2 รับขนช่วงจากจำเลยที่ 1 เป็นการรับขนโดยผู้ขนส่งหลายคนหลายทอด ผู้ขนส่งต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่1 ในการที่สินค้าของโจทก์สูญหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ขนส่งไม้รู้ว่าเป็นไม้ผิดกฎหมาย มีความผิดฐานเป็นตัวการ
พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 70 ให้ถือว่าผู้รับไม้ไว้โดยรู้ว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยทำผิดต่อพระราชบัญญัตินี้ เป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น จำเลยรับจ้างบรรทุกไม้โดยรถยนต์โดยรู้อยู่เช่นนั้นจึงมีความผิดเป็นตัวการมีไม้หวงห้ามยังไม่แปรรูปด้วย
of 22