พบผลลัพธ์ทั้งหมด 164 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อหาต่างกันระหว่างฟ้องและพยานหลักฐาน: เจ้ามือ vs. ลูกค้าการพนันโปกำ ศาลลงโทษตามข้อหาที่พิสูจน์ได้
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้ามือเล่นการพนันโปคำ จำเลยให้การรับเพียงแต่เป็นลูกค้าเล่นการพนันโปคำ ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ควาทางพิจารณาไม่ต่างกันฟ้องและศาลลงโทษจำเลยเพียงความผิดที่เป็นลูกค้าเล่นการพันโปกำได้ (อ้างฎีกา 553/89)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 242/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องคดีพนันขันต่อต้องชัดเจน ให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ หากไม่ชัดเจนถือเป็นฟ้องไม่ถูกต้อง
ฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่าจำเลยสมคบกันเล่นการพนันขันต่อเป็นการบรรยายฟ้องที่ไม่พอให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายโดยเขียนข้อความและเหตุผลไว้ที่หน้าฟ้องนั้น ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 แล้ว
การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกฟ้องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายโดยเขียนข้อความและเหตุผลไว้ที่หน้าฟ้องนั้น ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161 แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องคดีลักทรัพย์: การบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้
ฟ้องว่าจำเลยบังอาจลักไม้สักที่เจ้าพนักงานป่าไม้อำเภอเมืองยึดไว้เป็นของกลางในคดีอาญา ซึ่งบุคคลอื่นต้องหาว่าตัดฟันไม้สักรายนี้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานไป ขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์ แม้จะไม่ได้บรรยายว่า จำเลยลักไม้นั้นไปจากใคร ผู้ใดเป็นผู้ควบคุมรักษา และไม่ปรากฏว่าไม้นั้นยึดจากใคร ก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่มีข้อความบรรยายมาพอสมควรที่จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้ว ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1810/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระบุเวลาในฟ้องอาญา: ความชัดเจนของช่วงเวลาที่กระทำผิดเพียงพอต่อการเข้าใจข้อหา
คำว่า เวลาตาม ป.ม.วิ.อาญา ม .158(5) หมายความตลอดถึงวันเดือนปีด้วย แต่คดีใด จะต้องระบุเวลากลางวันกลางคืนหรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไปแล้วแต่กรณี ข้อสำคัญฟ้องให้กล่าวพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี
โจทก์ฟ้องว่า ได้ซื้อรถยนตร์จากผู้มีชื่อแต่รถยนตร์ชำรุด จึงได้ฝากจำเลยไว้ รุ่งขึ้นไปขอคืนจากจำเลย ปรากฎว่าเครื่องยนตร์ที่ฝากไว้บางแห่งหายไป ทราบว่าจำเลยยักยอกโดยมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยทำผิดเวลาใด ถือว่าจำเลยทำผิดในวัน,เวลาที่ฝากกับวัน,เวลาที่ปรากฎของหาย ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
โจทก์ฟ้องว่า ได้ซื้อรถยนตร์จากผู้มีชื่อแต่รถยนตร์ชำรุด จึงได้ฝากจำเลยไว้ รุ่งขึ้นไปขอคืนจากจำเลย ปรากฎว่าเครื่องยนตร์ที่ฝากไว้บางแห่งหายไป ทราบว่าจำเลยยักยอกโดยมิได้ระบุในฟ้องว่าจำเลยทำผิดเวลาใด ถือว่าจำเลยทำผิดในวัน,เวลาที่ฝากกับวัน,เวลาที่ปรากฎของหาย ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1189/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยประเด็นนอกเหนือจากที่โจทก์อุทธรณ์ ถือเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์ว่า พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ ถูกรัฐธรรมนูญฉะบับชั่วคราว 2490 ยกเลิกไปสิ้นเชิงแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาที่ว่าห้องพิพาทเป็นเคหะตามความหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ หรือไม่ ดังนี้ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ตรงตามข้อหาในคำฟ้องอุทธรณ์ โดยวินิจฉัยในปัญหาที่โจทก์มิได้อุทธรณ์ อันเป็นการมิชอบด้วย ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 142, 242, 243, 246.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีอาญาผิดวัน ทำให้ศาลลงโทษจำเลยไม่ได้
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิดในวันที่ 6 มิถุนายน 2489 แต่โจทก์นำสืบว่าจำเลยทำผิดในวันที่ 5 มิถุนายน 2489 เป็นการฟ้องผิดวัน ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องคดีแพ่งไม่เคลือบคลุม แม้ไม่ระบุวันเดือนปีเกิดสัญญา หากข้อหาและข้อต่อสู้ชัดเจน
ข้อความที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องที่แพ่งนั้น ย่อมต่างกับฟ้องคดีอาญา เพราะในคดีแพ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบ ฉะนั้นรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำบางอย่าง จึงมิใช่ข้อสำคัญที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องคดีแพ่งอย่างที่บังคับไว้ในมาตรา 158 ป.ม.วิ.อาญาในคดีแพ่งมีบทบังคับไว้ในมาตรา 172 ป.ม.วิ.แพ่งแล้ว
โจทก์กล่าวในคำฟ้องได้ความว่า เมื่อวันเวลาใดจำไม่ได้ราวเดือน มีนาคม 2489 จำเลยได้ตกลงขายนาให้โจทก์ บัดนี้ถึงกำหนดโอนกันแล้ว จำเลยกลับบิดพริ้วไม่ยอมโอน ทั้งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้ทำสัญญาจะขายที่นาให้แก่โจทก์ดังฟ้องเลย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ก็ดี ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นก็ดี ได้ปรากฏแจ้งชัดในคำฟ้องนั้นแล้ว โดยจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงได้ปฏิเสธว่าไม่เคยทำสัญญาเช่นว่านั้นกับโจทก์เลย ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
โจทก์กล่าวในคำฟ้องได้ความว่า เมื่อวันเวลาใดจำไม่ได้ราวเดือน มีนาคม 2489 จำเลยได้ตกลงขายนาให้โจทก์ บัดนี้ถึงกำหนดโอนกันแล้ว จำเลยกลับบิดพริ้วไม่ยอมโอน ทั้งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้ทำสัญญาจะขายที่นาให้แก่โจทก์ดังฟ้องเลย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ก็ดี ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นก็ดี ได้ปรากฏแจ้งชัดในคำฟ้องนั้นแล้ว โดยจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงได้ปฏิเสธว่าไม่เคยทำสัญญาเช่นว่านั้นกับโจทก์เลย ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องคดีแพ่งไม่จำเป็นต้องระบุวันเดือนปีที่แน่นอน หากข้อหาและข้อต่อสู้ชัดเจน
ข้อความที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องคดีแพ่งนั้น ย่อมต่างกับฟ้องคดีอาญาเพราะในคดีแพ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่และความรับผิดฉะนั้นรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำบางอย่าง จึงมิใช่ข้อสำคัญที่จะต้องกล่าวในคำฟ้องคดีแพ่ง อย่างที่บังคับไว้ในมาตรา 158 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในคดีแพ่งมีบทบังคับไว้ในมาตรา 172 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว
โจทก์กล่าวในคำฟ้องได้ความว่าเมื่อวันเวลาใดจำไม่ได้ราวเดือนมีนาคม 2489 จำเลยได้ตกลงขายนาให้โจทก์บัดนี้ถึงกำหนดโอนกันแล้วจำเลยกลับบิดพริ้วไม่ยอมโอน ทั้งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้ทำสัญญาจะขายที่นาให้แก่โจทก์ดังฟ้องเลย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ก็ดี ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นก็ดี ได้ปรากฏแจ้งชัดในคำฟ้องนั้นแล้ว โดยจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงได้ปฏิเสธว่าไม่เคยทำสัญญาเช่นว่านั้นกับโจทก์เลย ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
โจทก์กล่าวในคำฟ้องได้ความว่าเมื่อวันเวลาใดจำไม่ได้ราวเดือนมีนาคม 2489 จำเลยได้ตกลงขายนาให้โจทก์บัดนี้ถึงกำหนดโอนกันแล้วจำเลยกลับบิดพริ้วไม่ยอมโอน ทั้งฝ่ายจำเลยให้การต่อสู้ว่า จำเลยไม่ได้ทำสัญญาจะขายที่นาให้แก่โจทก์ดังฟ้องเลย ดังนี้ สภาพแห่งข้อหาของโจทก์ก็ดี ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นก็ดี ได้ปรากฏแจ้งชัดในคำฟ้องนั้นแล้ว โดยจำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี จึงได้ปฏิเสธว่าไม่เคยทำสัญญาเช่นว่านั้นกับโจทก์เลย ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 826/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษนอกฟ้อง: ศาลไม่อาจลงโทษจำเลยในข้อหาที่โจทก์ไม่ได้ระบุในฟ้อง แม้ข้อเท็จจริงจะเข้าข่าย
โจทก์บรรยายฟ้องอันเป็นความผิดฐานวางเพลิงตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 186 มาตราเดียวแม้ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าจำเลยมีผิดตาม มาตรา 187 ศาลก็ลงโทษไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 734/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องอาญาฐานปลอมแปลงเอกสารต้องระบุเวลาที่กระทำผิดโดยละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหา
ฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือซึ่งโจทก์กู้เงินจำเลย ฟ้องของโจทก์กล่าวถึงวันที่โจทก์ไปร้องต่ออำเภอขอชำระหนี้แก่จำเลยอย่างเดียวดังนี้ ถือว่าฟ้องไม่ระบุเวลาที่หาว่ากระทำผิดตามสมควร ต้องยกฟ้อง