พบผลลัพธ์ทั้งหมด 291 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2543/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีภาษีโรงเรือน: คดีที่คำขอได้ชัดเจนเป็นจำนวนเงินและไม่เกิน 20,000 บาท
คำฟ้องที่ขอให้ศาลพิพากษาว่าการประเมินภาษีโรงเรือนและคำชี้ขาดของจำเลยให้โจทก์ชำระค่าภาษีโรงเรือนเป็นเงิน5,400บาทไม่ถูกต้องก็คือให้ศาลวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีหนี้ที่จะต้องชำระตามจำนวนที่จำเลยประเมินและมีคำชี้ขาดโจทก์จึงมีคำขอให้จำเลยคืนเงินภาษีโรงเรือนที่โจทก์อ้างว่าจำเลยคิดให้โจทก์เสียเกินไปให้แก่โจทก์ด้วยหากศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีทุกข์ของโจทก์ย่อมปลดเปลื้องไปตามจำนวนเงินที่โจทก์ไม่ต้องชำระหนี้และได้รับเงินที่เสียเกินไปนั้นคืนฟ้องของโจทก์จึงเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ตามตาราง1ข้อ1ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา224.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2448/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลในคดีที่ฟ้องเรียกค่าเสียหายและราคาซื้อขาย ศาลไม่คืนค่าธรรมเนียมแม้ไม่วินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายโดยตรง
โจทก์ฟ้องคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ต้องเสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์แม้ศาลจะมิได้พิจารณาในประเด็นที่มีคำขอตามทุนทรัพย์โดยตรงเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นแก่คดีก็ไม่ทำให้คดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้กลายเป็นคดีที่มีคำขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ศาลจึงไม่จำต้องคืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 168/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับข้อเท็จจริงจากเอกสารหลักฐาน และผลผูกพันตามคำท้าทายในคดี
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ที่ดินที่ยกให้จำเลยและต่อมาจำเลยนำไปขายฝากแก่ผู้อื่นโดยอ้างว่าจำเลยประพฤติเนรคุณจำเลยให้การปฏิเสธว่ามิได้ประพฤติเนรคุณทั้งโจทก์ยกที่พิพาทให้จำเลยโดยให้จำเลยชำระหนี้บุคคลภายนอกแทนโจทก์ชั้นพิจารณาคู่ความท้ากันว่า หากฝ่ายโจทก์สามารถนำหลักฐานการขายฝากมาแสดงต่อศาลจำเลยยอมแพ้ หากหามาไม่ได้โจทก์ยอมแพ้ โดยไม่ต้องมีการสืบพยานดังนี้ เมื่อโจทก์ส่งเอกสารต่อศาลตามคำท้า และข้อความในเอกสารได้ระบุไว้ชัดแจ้งถึงเจตนาในการทำนิติกรรมการขายฝากที่พิพาทระหว่างจำเลยผู้ขายฝากกับ พ. ผู้รับซื้อฝาก ซึ่งเป็นหลักฐานที่แสดงว่าบุคคลทั้งสองมีนิติสัมพันธ์ต่อกันถือว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามคำท้าแล้วโจทก์จึงเป็นฝ่ายชนะคดีส่วนปัญหาที่ว่าการขายฝากจะมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่เป็นเรื่องนอกเหนือคำท้า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 371/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกคดีไม่มีสิทธิอุทธรณ์ฎีกา สิทธิควรระงับในคดีที่ตนเป็นโจทก์
คู่ความในชั้นบังคับคดีคือโจทก์จำเลยและผู้ร้องต. เป็นบุคคลภายนอกคดีไม่มีสิทธิที่จะเข้ามาในคดีและอุทธรณ์ฎีกาในคดีนี้ได้ สิทธิของ ต. มีอยู่อย่างไรควรไปว่ากล่าวกันในคดีที่ ต. เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยแม้ ศาลล่างรับวินิจฉัยให้ ศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2593/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บุคคลภายนอกคดี ไม่มีสิทธิร้องขอเพิกถอนสัญญาประนีประนอมยอมความ ต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
บุคคลภายนอกซึ่งมิใช่คู่ความในคดี จะเข้ามาเป็นคู่ความได้ก็แต่ด้วยการร้องสอดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันและศาลได้พิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นแล้ว ถึงหากสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์และจำเลยจะเป็นนิติกรรมอันลูกหนี้ (จำเลย) ได้กระทำลงทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้เจ้าหนี้ (ผู้ร้อง) เสียเปรียบ ซึ่งศาลอาจเพิกถอนเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ก็จะต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนการฉ้อฉลนั้น จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนในคดีซึ่งตนมิได้เป็นคู่ความหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 225/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา: ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจสั่งคุ้มครองก่อนพิจารณาพิพากษาคดี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ แม้โจทก์จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว ถ้าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับฟ้องของโจทก์ คดีก็ต้องกลับไปสู่ศาลชั้นต้นที่จะต้องพิจารณาพิพากษาต่อไป ศาลอุทธรณ์ยังไม่อาจสั่งหรือพิพากษาให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ ดังนั้น การที่โจทก์ยื่นคำร้องขอคุ้มครองก่อนพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จึงไม่อาจมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้โจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในทรัพย์ที่ถูกยึดเพื่อดำเนินคดีแทน เป็นนิติกรรมขัดขวางความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ผู้ร้องร้องคัดค้านต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้ถอนการยึดทรัพย์โดยที่ผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสียอยู่ในขณะที่มีการยึดทรัพย์ แต่เป็นผู้รับโอนสิทธิมาในระหว่างที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยึดทรัพย์รายพิพาทไว้แล้วโดยผู้ร้องเองก็ทราบดี เหตุที่มีการโอนก็เพราะผู้ซื้อทรัพย์รายพิพาทในระหว่างการยึดถูกเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกไปสอบสวน เกรงจะมีข้อยุ่งยากจึงขอร้องให้ผู้ร้องซื้อทรัพย์รายพิพาทไว้ เห็นได้ว่าเป็นการโอนสิทธิในการดำเนินคดีให้ผู้ร้องเข้าเป็นผู้มีส่วนได้เสียเพื่อดำเนินคดีแทนหรือซื้อขายความนั่นเอง จึงเป็นนิติกรรมที่มีวัตถุที่ประสงค์เป็นการขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตกเป็นโมฆะ และปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 929-930/2525
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์และฎีกาในคดีที่มีทุนทรัพย์น้อยกว่าสองหมื่นบาท และผลกระทบต่อการพิจารณาคดี
คดีสองสำนวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าเหตุที่รถชนกันเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของคนขับรถของโจทก์ที่ 2 ที่ 3 และจำเลยที่ 2 ข้อที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่าเหตุที่รถชนกันเป็นเพราะความประมาทของคนขับรถโจทก์ที่ 2 และที่ 3 ฝ่ายเดียวนั้น เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อคดีสำหรับโจทก์ที่ 1 มีทุนทรัพย์แต่ละสำนวนไม่เกินสองหมื่นบาทจึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจวินิจฉัยถึงแม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ จึงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 770/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลพลเรือนไม่มีอำนาจพิจารณาคดีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมมิวนิสต์ฯ คดีนี้อยู่ในอำนาจศาลทหาร
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ฯ ความผิดดังกล่าวอยู่ในอำนาจศาลทหารที่จะพิจารณาพิพากษาตามคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ปรากฏแต่แรกตามฟ้องแล้วว่าความผิดที่กล่าวหาเป็นความผิดที่ต้องขึ้นอยู่ในอำนาจศาลทหาร หาใช่ความเพิ่งปรากฏขึ้นภายหลังว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจศาลทหารไม่ศาลพลเรือนไม่มีอำนาจรับไว้พิจารณาพิพากษา การที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ได้รับคำฟ้องและดำเนินการพิจารณาพิพากษามา เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจศาลคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองไม่มีผลบังคับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3413/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้สัตยาบันต่อสู้คดี ทำให้จำเลยมิอาจยกปัญหาเขตอำนาจศาลในชั้นอุทธรณ์ได้
โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลและส่งคำฟ้องให้จำเลยแล้ว จำเลยได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดีทุกประเด็น ได้มีการชี้สองสถานและศาลชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณามาโดยตลอดจนกระทั่ง มีคำพิพากษา จำเลยไม่เคยโต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาล ถือว่าเป็นการให้สัตยาบันแก่การผิดระเบียบนั้นแล้ว จำเลยจะยกปัญหาเรื่องเขตอำนาจศาลขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์หาได้ไม่