พบผลลัพธ์ทั้งหมด 165 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 172/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นบัญชีระบุพยานล่าช้า: ศาลใช้ดุลพินิจอนุญาตได้หากมีเหตุผลและความจำเป็น
โจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันสืบพยานเพิ่งจะมายื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเอาในวันนัดสืบพยาน เมื่อปรากฏว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืน หากเป็นด้วยความจำเป็นจริงๆ แล้วเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์ระบุพยานได้ตามคำร้องขอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1343/2495 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินขนาดเมื่อผู้ร้ายวิ่งหนี
ยิงผู้ร้ายที่กำลังถือห่อของ ขณะกำลังวิ่งหนี โดยผู้ร้ายมิได้กระทำอะไรแก่ตนดังนี้ ย่อมเป็นการรุนแรงเกินสมควรแก่เหตุไป ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 52.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1930/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นระบุพยานเกินกำหนด: ศาลมีอำนาจอนุญาตได้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม
จำเลยยื่นคำร้องขอระบุพยานพร้อมด้วยยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดพิจารณา 2 วันเข้าไปกว่ากำหนดเวลาตามมาตรา 88 ป.ม.วิ.แพ่ง เพียง 1 วัน โดยอ้างเหตุความจำเป็นที่ต้องไปติดตามคนร้ายยักยอกข้าว ดังนี้ เมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม จำเป็นจะต้องสืบพยานหลักฐานอันสำคัญ ซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ก็มีอำนาจสั่งอนุญาตได้และไม่จำเป็นจะต้องไต่สวนก่อนสั่งอนุญาตเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การกระทำเพื่อปกป้องชีวิตจากอันตรายใกล้จะถึง แม้เป็นการทำร้ายกลับ
ผู้ตายเป็นผู้ก่อนเรื่องรุกรานจำเลย โดยเข้าชกต่อยจำเลยก่อน จนจำเลยถอยหลังไปติดป่ายี่หร่าล้มลง แล้วผู้ตายจะเข้าบีบคอจำเลย ๆ อาจถึงอันตรายแก่ชีวิตได้ เพราะผู้ตายเป็นคนร่างสูงใหญ่กว่าจำเลยมาก จำเลยจึงชักมีดออกแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่ใต้นมขวาผู้ตายวิ่งไปได้ 5 วา ก็ล้มลง ครู่หนึ่งก็ถึงแก่ความตายดังนี้ ได้ชื่อว่าจำเลยกระทำป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิดกฎหมายฝิ่น แม้มีเหตุผลเรื่องการจับกุมลูกจ้าง ไม่ถือเป็นเหตุจำเป็นเพื่อพ้นผิดได้
ผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่นได้พาฝิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขายในร้านออกนอกร้านฝิ่นไปเก็บไว้ที่พักของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นจะกล่าวอ้างว่าเพราะ ตำรวจจับลูกจ้างในร้านฝิ่นไปหมดนั้น ย่อมไม่ใช่เหตุฉุกเฉินร้ายแรงถึงขนาดที่จะอ้างเป็นความจำเป็นให้พ้นผิดได้ และจะอ้างว่าไม่มีเจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 43 ก็ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1509/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำผิด พ.ร.บ.ฝิ่น แม้มีเหตุผลความจำเป็นจากสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่เพียงพอที่จะยกเว้นความผิดได้
ผู้ได้รับอนุญาตตั้งร้านฝิ่นได้พาฝิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ขายในร้านออกนอกร้านฝิ่นไปเก็บไว้ที่พักของตนโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น จะกล่าวอ้างว่าเพราะตำรวจจับลูกจ้างในร้านฝิ่นไปหมดนั้น ย่อมไม่ใช่เหตุฉุกเฉินร้ายแรงถึงขนาดที่จะอ้างเป็นความจำเป็นให้พ้นผิดได้ และจะอ้างว่าไม่มี เจตนาตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 43 ก็ไม่ได้ (อ้างฎีกาที่ 269/2480)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 969/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวตามกฎหมายอาญา: การกระทำเพื่อป้องกันการถูกทำร้ายด้วยอาวุธ
ก. ไปชวนก่อเหตุถึงบ้านและใช้ขวานทำร้าย ร.ก่อนร. คว้าไม้กระทู้รั้วไล่ไปเพื่อจับกุมพอทันกัน ก. หันกลับมาเงื้อขวานจะฟัน ร. อีกร.จึงใช้ไม้กระทู้รั้วตีก.บาดเจ็บสาหัสดังนี้การกระทำของร. จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวแต่พอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1533/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงข้างหลังขณะผู้ถูกทำร้ายจะผละหนี ไม่เป็นเหตุป้องกันตัวตามกฎหมาย
ผู้ตายได้โต้เถียงและทำร้ายบิดาจำเลย ๆ ได้วิ่งเข้ามา ผู้ตายได้ใช้ไม้ตีจำเลย ๆ จึงใช้มีดแทงผู้ตายไป 1 ที และผู้ตายได้ตีจำเลยอีก 1 ที แล้วเอี้ยวตัวจะผละหนี จำเลยก็แทงผู้ตายที่หลังอีก 1 ที ดังนี้การที่จำเลยแทงครั้งหลังนั้นไม่เป็นการป้องกันตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50 เพราะจำเลยแทงข้างหลัง ไม่มีความจำเป็นที่จำเลยจะต้องแทงผู้ตายเพื่อให้บิดาหรือตัวจำเลยพ้นภยันตรายจากการกระทำของผู้ตาย การกระทำของจำเลยจึงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่กระทำลงโดยบรรดาลโทษะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิฆ่าสัตว์ทำลายทรัพย์สิน ต้องพิจารณาความจำเป็นและโทษะของผู้กระทำ
เจ้าของไร่ได้ใช้ปืนยิงสุกรที่เข้ามากินผลไม้ในไร่ ปรากฎว่าเป็นสุกรบ้านไม่ดุร้าย มีทางที่จะจับกุมโดยละม่อมได้ และตามรูปเรื่องเจ้าของไร่ยิงไปโดยโทษะ จึงไม่เป็นนิรโทษกรรมและต้องรับผิดในค่าสินไหมทดแทน
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นว่า ไม่เป็นละเมิดให้ยกฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นละเมิด ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายที่คู่ความได้นำสืบกันมาแล้วไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่.
ในคดีเรียกค่าเสียหายค่าสุกรที่สุกรเข้าไปกินผลไม้ในไร่เขาเสียหาย เจ้าของไร่ใช้ปืนยิงสุกรตายนั้น เมื่อปรากฎว่าเจ้าของสุกรปล่อยปละละเลยสุกรเข้าไปในไร่ของเขาบ่อย ๆ เป็นการมีส่วนในการผิดอยู่ด้วย ศาลมีอำนาจลดค่าเสียหายให้ตามสมควร ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 442.
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นว่า ไม่เป็นละเมิดให้ยกฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นละเมิด ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายที่คู่ความได้นำสืบกันมาแล้วไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่.
ในคดีเรียกค่าเสียหายค่าสุกรที่สุกรเข้าไปกินผลไม้ในไร่เขาเสียหาย เจ้าของไร่ใช้ปืนยิงสุกรตายนั้น เมื่อปรากฎว่าเจ้าของสุกรปล่อยปละละเลยสุกรเข้าไปในไร่ของเขาบ่อย ๆ เป็นการมีส่วนในการผิดอยู่ด้วย ศาลมีอำนาจลดค่าเสียหายให้ตามสมควร ตาม ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 442.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้สิทธิฆ่าสัตว์ทำลายทรัพย์สิน ต้องพิจารณาความจำเป็นและเหตุผลสมควร หากเกินกว่าเหตุ เจ้าของทรัพย์ต้องรับผิดค่าเสียหาย
เจ้าของไร่ได้ใช้ปืนยิงสุกรที่เข้ามากินผลไม้ในไร่ปรากฏว่าเป็นสุกรบ้านไม่ดุร้าย มีทางที่จะจับกุมโดยละม่อมได้ และตามรูปเรื่องเจ้าของไร่ยิงไปโดยโทสะ จึงไม่เป็นนิรโทษกรรม และต้องรับผิดในค่าสินไหมทดแทน
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นว่า ไม่เป็นละเมิดให้ยกฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นละเมิด ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายที่คู่ความได้นำสืบกันมาแล้วไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่
ในคดีเรียกค่าเสียหายค่าสุกรที่สุกรเข้าไปกินผลไม้ในไร่เขาเสียหายเจ้าของไร่ใช้ปืนยิงสุกรตายนั้น เมื่อปรากฏว่าเจ้าของสุกรปล่อยปละละเลยสุกรเข้าไปในไร่ของเขาบ่อยๆ เป็นการมีส่วนในการผิดอยู่ด้วย ศาลมีอำนาจลดค่าเสียหายให้ตามสมควร ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442
ในคดีที่โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิดเรียกค่าเสียหาย ศาลชั้นต้นว่า ไม่เป็นละเมิดให้ยกฟ้อง เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นละเมิด ย่อมมีอำนาจวินิจฉัยเรื่องค่าเสียหายที่คู่ความได้นำสืบกันมาแล้วไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่
ในคดีเรียกค่าเสียหายค่าสุกรที่สุกรเข้าไปกินผลไม้ในไร่เขาเสียหายเจ้าของไร่ใช้ปืนยิงสุกรตายนั้น เมื่อปรากฏว่าเจ้าของสุกรปล่อยปละละเลยสุกรเข้าไปในไร่ของเขาบ่อยๆ เป็นการมีส่วนในการผิดอยู่ด้วย ศาลมีอำนาจลดค่าเสียหายให้ตามสมควร ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442