พบผลลัพธ์ทั้งหมด 361 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1120/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการบังคับคดี: ต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นก่อนอุทธรณ์
หากจำเลยเห็นว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีโดยไม่ชอบและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการบังคับคดีจำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่บังคับคดีนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง เมื่อศาลไต่สวนและมีคำสั่งแล้ว จำเลยจึงจะมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาต่อไป การที่จำเลยอ้างว่าได้คัดค้านการขายทอดตลาดด้วยวาจา แล้วอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีหรือศาลที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดไปทีเดียว ย่อมเป็นการไม่ชอบและไม่อาจทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 780/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฎีกาของผู้ซื้อทรัพย์ในการคัดค้านการยกเลิกการขายทอดตลาดที่ตนเองซื้อ หากไม่เคยคัดค้านตั้งแต่แรก
จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการขายตลาดทรัพย์ที่ยึด ผู้ซื้อทรัพย์มิได้แถลงคัดค้านคำร้อง ของ จำเลยที่ 1 ต้องถือว่าผู้ซื้อทรัพย์ไม่ติดใจคัดค้านตามที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งไว้แล้ว ผู้ซื้อทรัพย์ไม่ได้เข้ามาในคดีเกี่ยวกับการร้องคัดค้านการขายทอดตลาดมาแต่แรก ผู้ซื้อทรัพย์จึงไม่มีสิทธิที่จะฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นคำพิพากษาที่วินิจฉัยข้อโต้แย้งระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3925/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การคัดค้านการขายทอดตลาดต้องยื่นคำร้องต่อศาลก่อนอุทธรณ์ฎีกา
แม้เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กำหนดเงื่อนไขในการขายทอดตลาดไว้ว่าจะต้องขออนุญาตศาลก่อนเคาะไม้หรือตกลงขายก็ตาม แต่แท้จริงผู้ทำการขายทอดตลาดแสดงการตกลงขายก็คือเจ้าพนักงานบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 282 หาใช่ศาลไม่ ดังนั้น หากจำเลยเห็นว่าการขายทอดตลาดไม่ชอบจะอุทธรณ์คำสั่งทันทีไม่ได้ แต่จำเลยชอบที่จะยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลงแต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันทราบการฝ่าฝืนนั้น ตามมาตรา 27และมาตรา 296 วรรคสอง เมื่อจำเลยมิได้ดำเนินการดังกล่าว จึงไม่อาจใช้สิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3909/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุคัดค้านคำพิพากษาเดิมชัดเจน การอ้างเพียงว่าหากได้ซักค้านพยานแล้วอาจชนะคดีไม่เพียงพอ
คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยกล่าวอ้างว่า ทนายจำเลยเดินทางจากกรุงเทพมหานครมาศาลโดยรถยนต์โดยสารประจำทางระหว่างการเดินทางรถยนต์โดยสารได้เฉี่ยวชนกับรถยนต์คันอื่นทำให้เสียเวลาในการเดินทางเป็นเหตุให้มาซักค้านพยานโจทก์ไม่ทัน ซึ่งตามรูปคดีถ้าหากจำเลยมีโอกาสซักค้านพยานโจทก์ จำเลยก็มีทางจะชนะคดีโจทก์ได้ คำร้องดังกล่าวในตอนแรกกล่าวถึงเหตุที่ทนายจำเลยมาศาลไม่ทันกำหนดเวลานัดถ้ามาทันก็จะสามารถซักค้านพยานโจทก์ได้ ส่วนในตอนหลังคำร้องกล่าวว่า รูปคดีถ้าหากจำเลยมีโอกาสได้ซักค้านพยานโจทก์ จำเลยก็มีทางที่จะชนะคดีได้ ไม่มีข้อความตอนใดที่กล่าวคัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่พิพากษาให้จำเลยรับผิดต่อโจทก์ว่าไม่ชอบอย่างไรและหากได้พิจารณาใหม่แล้ว จำเลยจะชนะคดีอย่างไร การกล่าวเพียงว่าถ้าได้ซักค้านพยานโจทก์ จำเลยอาจชนะคดี ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลชั้นต้น คำร้องขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา208 วรรคสอง ปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3726/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยึดทรัพย์ในคดีล้มละลาย: สิทธิจำกัดของผู้ล้มละลายในการคัดค้านการยึดทรัพย์หลังพ้นกำหนดเวลา
เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยแล้ว ทรัพย์สินของจำเลยทั้งปวงตกอยู่ในอำนาจจัดการของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจยึดทรัพย์สินทั้งปวงซึ่งอยู่ในความครอบครองของจำเลยหรือของผู้อื่นอันอาจแบ่งได้ในคดีล้มละลายตามมาตรา 19 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลายฯ จำเลยไม่มีอำนาจกระทำการใด ๆอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของตนรวมทั้งสิทธิตามใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ และไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำคัดค้านการยึดทรัพย์ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ทั้งถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้มีส่วนได้เสียตามมาตรา 158 แต่จำเลยมีสิทธิยื่นคำคัดค้านว่าสิทธิตามใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการไม่ใช่ทรัพย์สินอันอาจแบ่งได้ในคดีล้มละลายตามมาตรา 109 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีสิทธิยึดอันเป็นการโต้แย้งการกระทำของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลย ตามมาตรา 146 โดยต้องทำเป็นคำร้องขอต่อศาลภายใน 14 วัน นับแต่ทราบการกระทำหรือคำวินิจฉัยของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3500/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินคดีไม่มีข้อพิพาทและการเพิกถอนคำสั่งแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิ ผู้มีส่วนได้เสียต้องยื่นคัดค้านในคดีก่อน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งบัญญัติให้ศาลชั้นต้นที่รับคำฟ้องต้องส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยเฉพาะในการดำเนินคดีอย่างคดีมีข้อพิพาท หาได้มีบทบัญญัติให้ต้องมีการส่งหมายและสำเนาคำร้องขอให้แก่ผู้ใดในการดำเนินคดีอย่างคดีไม่มีข้อพิพาทไม่ การที่ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องขอเลิกมูลนิธิของผู้ร้องโดยประกาศคำร้องขอและกำหนดนัดไต่สวนคำร้องในหนังสือพิมพ์รายวันและได้ไต่สวนคำร้องหลังจากครบกำหนดประกาศดังกล่าว 15 วัน โดยไม่ได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำร้องขอของผู้ร้องให้ผู้คัดค้านทั้งห้าก่อนไต่สวนคำร้องของผู้ร้อง จึงชอบแล้ว เมื่อผู้คัดค้านทั้งห้ามิได้ยื่นคำคัดค้านคำร้องขอของผู้ร้องในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นซึ่งไต่สวนและมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิขึ้นใหม่ตามคำร้องขอของผู้ร้องและคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้คัดค้านทั้งห้าจะมีอำนาจร้องขอเป็นคดีนี้ขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลดังกล่าวในคดีก่อนได้ต่อเมื่อมีกฎหมายให้สิทธิผู้คัดค้านทั้งห้าร้องขอต่อศาลได้เช่นนั้น แต่กรณีนี้ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้สิทธิผู้ใดร้องขอต่อศาลเช่นนั้นได้ ผู้คัดค้านทั้งห้าจึงไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลที่แต่งตั้งคณะกรรมการมูลนิธิขึ้นใหม่ในคดีนี้ได้ หากคำสั่งศาลดังกล่าวทำให้สิทธิหรือหน้าที่ตามกฎหมายของผู้คัดค้านทั้งห้าถูกโต้แย้งก็ชอบที่ผู้คัดค้านทั้งห้าจะฟ้องผู้ที่โต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของผู้คัดค้านทั้งห้าเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3384/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีและการเพิกถอนการขายทอดตลาด: จำเลยต้องยื่นคำร้องคัดค้านภายใน 8 วันนับแต่ทราบเหตุ
จำเลยฎีกาว่า ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้แบ่งแยกที่ดินทางด้านทิศเหนือให้แก่โจทก์และบุตรโจทก์ 1 ใน 3 ส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่โจทก์และจำเลยต้องนำเจ้าพนักงานไปรังวัดแบ่งแยกให้แก่โจทก์และบุตรโจทก์ แต่เจ้าพนักงานบังคับคดีกลับยึดที่ดินทั้งแปลงและขายทอดตลาดไปนั้น เป็นการอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองจำเลยต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับคดีนั้นเสีย ไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืนนั้นจำเลยทราบการยึดที่ดินทั้งแปลงของเจ้าพนักงานบังคับคดีตั้งแต่วันที่โจทก์นำยึด แต่เพิ่งมายื่นคำร้องในภายหลังครบกำหนด 8 วันมาช้านานแล้ว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ (จำเลยเพิ่งยกปัญหาว่าการยึดและการขายทอดตลาดเป็นการนอกเหนือคำพิพากษาศาลชั้นต้นในชั้นฎีกา เดิมศาลชั้นต้นสั่งไม่รับในประเด็นข้อนี้ แต่ต่อมาศาลฎีกามีคำสั่งให้รับ เพราะเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 2629/2534) ในวันขายทอดตลาดจำเลยได้มาดูแลการขาย แต่กลับไปก่อนที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจะเขียนรายงานการขายทอดตลาดที่ดินให้แก่ผู้สู้ราคาสูงสุด แสดงว่าจำเลยได้ทราบในวันนั้นเองว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดที่ดินไปในราคาที่อ้างว่าต่ำกว่าราคาปกติจึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นให้มีคำสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่วันดังกล่าว ทั้งตามคำร้องของจำเลยก็ไม่ได้มีข้อความอันเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาข้อนี้จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3132/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์การขายทอดตลาดต้องยื่นคัดค้านภายใน 8 วัน หากเลยกำหนด สิทธิอุทธรณ์เป็นอันตกไป
การที่จำเลยที่ 8 อุทธรณ์ขอให้ศาลสั่งขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดใหม่โดยอ้างว่าราคาที่ขายต่ำไป เท่ากับเป็นการกล่าวอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีโดยมิชอบอันเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งลักษณะว่าด้วยการบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งกรณีจำต้องบังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27และ 296 วรรคสอง จำเลยที่ 8 ต้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่า 8 วัน นับแต่ทราบการฝ่าฝืน ฉะนั้นเมื่อจำเลยที่ 8 มิได้ยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลชั้นต้นภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดไว้ดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 8 จะใช้สิทธิอุทธรณ์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดี: การคัดค้านการบังคับคดีต้องกระทำก่อนการบังคับคดีเสร็จสิ้น มิฉะนั้นเป็นเหตุต้องห้าม
ตามคำร้อง ของ จำเลยอ้างว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ซึ่งจำเลยต้องยื่นคัดค้านเสียก่อนที่การบังคับคดีได้เสร็จลงหรือภายใน 8 วัน นับแต่วันที่ทราบถึงการฝ่าฝืนนั้นแม้จำเลยจะไม่ทราบวันขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 306 ก็ตาม แต่จำเลยเพิ่งมายื่นคำร้องคัดค้านภายหลังจากที่การบังคับคดีได้เสร็จลงแล้วจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2570/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านการบังคับคดีที่เกินกำหนดตาม ป.วิ.พ. มาตรา 296 วรรคสอง แม้ไม่ทราบวันขายทอดตลาด ก็ต้องยื่นคัดค้านก่อนบังคับคดีเสร็จ
จำเลยอ้างว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสอง จำเลยต้องยื่นคำร้องคัดค้านก่อนการบังคับคดีได้เสร็จลง แต่ต้องไม่ช้ากว่าแปดวันนับแต่วันทราบการฝ่าฝืนนั้น แม้จะฟังได้ว่าจำเลยไม่ทราบวันขายทอดตลาดอันเป็นการบังคับคดีฝ่าฝืน ป.วิ.พ. มาตรา 306 ก็ตามแต่เมื่อจำเลยยื่นคำร้องคัดค้านภายหลังจากการบังคับคดีได้เสร็จลงคำร้องของจำเลยจึงต้องห้ามตามกฎหมาย