คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
จัดการมรดก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 279 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกเสร็จสิ้นแล้ว ผู้คัดค้านขอถอนผู้จัดการมรดกไม่ได้
ผู้จัดการมรดกได้แบ่งปันทรัพย์มรดกแก่ทายาทเสร็จสิ้นแล้วผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมจะต้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกโดยอ้างว่าผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกครอบครองทรัพย์แทนทายาท การงดสืบพยานไม่ชอบ
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกยื่นคำคัดค้าน เมื่อตามคำคัดค้านไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านครอบครองทรัพย์มรดกเพื่อตนเองในฐานะส่วนตัวจึงไม่มีประเด็นว่าผู้คัดค้านครอบครองทรัพย์มรดกเพื่อตนเองหรือไม่ ต้องถือว่าผู้คัดค้านยึดถือครอบครองมรดกไว้แทนทายาทของเจ้ามรดก การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งงดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกทั้งหมดตลอดมา ย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดก จึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2450/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกยึดถือทรัพย์มรดกแทนทายาท การงดสืบพยานไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งถอนผู้จัดการมรดกผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกยื่นคำคัดค้าน เมื่อตามคำคัดค้านไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านครอบครอง ทรัพย์มรดกเพื่อตนเองในฐานะส่วนตัว จึงไม่มีประเด็นว่า ผู้คัดค้านครอบครองทรัพย์มรดกเพื่อตนเองหรือไม่ ต้องถือว่าผู้คัดค้านยึดถือครอบครองมรดก ไว้แทนทายาทของเจ้ามรดก การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง งดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านเป็นผู้ครอบครองทรัพย์มรดกทั้งหมดตลอดมา ย่อมได้สิทธิครอบครองที่ดินอันเป็นทรัพย์มรดก จึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2535 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกแต่ฝ่ายเดียวเมื่อมีข้อขัดแย้งและผลประโยชน์ทับซ้อน
การจัดการมรดกนั้น ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่สำคัญในการรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันให้ทายาท อำนาจของผู้จัดการมรดกในกรณีที่มีสองคน การจัดการจะต้องดำเนินการร่วมกันเพราะกรณีไม่อาจจะหาเสียงข้างมากได้ ถ้าเกิดเป็นสองฝ่ายแล้ว คนหนึ่งคนใดก็ไม่อาจจัดการไปได้การจัดการมรดกตามคำสั่งศาลที่ให้จัดการร่วมกันก็จะไม่มีผล ข้อขัดข้องในการจัดการแบ่งปันมรดกก็คงมีอยู่ต่อไป ไม่อาจแบ่งปันให้แก่ทายาทได้ ทั้งยังมีข้อโต้แย้งว่า ทรัพย์ที่ปรากฏในคำร้องนั้นเป็นทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกหรือไม่ การที่จะให้จัดการร่วมกันจึงมีข้อแสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องกับผู้คัดค้านไม่อาจที่จะเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันได้
เจ้ามรดกมีทายาทชั้นบุตรที่เกิดกับผู้ร้อง 4 คน เป็นผู้เยาว์ 3 คน ผู้ร้องเป็นมารดา และอยู่ในฐานะที่เป็นผู้มีอำนาจปกครองตามกฎหมาย ถือได้ว่าผู้ร้องมีความสัมพันธ์กับทายาทส่วนใหญ่ใกล้ชิดมากกว่าผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดาเจ้ามรดก ผู้ร้องน่าจะเป็นผู้รักษาประโยชน์ของทายาทส่วนใหญ่ได้ดีกว่าผู้คัดค้าน ทั้งผู้คัดค้านยืนยันตลอดมาว่าทรัพย์หลายรายการที่ผู้ร้องระบุในบัญชีทรัพย์ว่าเป็นทรัพย์มรดกนั้นผู้คัดค้านว่าเป็นของบุคคลอื่น เป็นการกล่าวอ้างในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกของเจ้ามรดก ซึ่งถ้าผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วยก็จะกระทำการในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกของผู้ตาย ผู้ร้องจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกแต่ฝ่ายเดียวแต่เพื่อมิให้เป็นการเสียหายแก่ฝ่ายผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทด้วยในกรณีที่ผู้ร้องจะจัดการมรดกไปในทางจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้แก่บุคคลภายนอกโดยมิได้รับความเห็นชอบจากทายาททุกคนนั้น จะต้องขออนุญาตจากศาลเป็นกรณีไปซึ่งศาลสามารถวางเงื่อนไขดังกล่าวในคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ศาลให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกแต่เพียงผู้เดียว โดยมีเงื่อนไขเพื่อคุ้มครองทายาทรายอื่น
ผู้ร้องและผู้คัดค้านต่างเป็นทายาทและ ไม่ขาดคุณสมบัติในการที่จะเป็นผู้จัดการมรดกแต่หากให้เป็นผู้จัดการมรดกทั้งสองฝ่ายแล้วคนหนึ่งคนใดก็ไม่อาจจัดการไปได้ ข้อขัดข้องในการจัดการมรดก ก็คงมีอยู่ต่อไปและไม่อาจแบ่งปันให้แก่ทายาทได้ ปรากฏว่า เจ้ามรดกมีทายาทชั้นบุตรที่เกิดกับผู้ร้อง 4 คน และเป็นทายาท ที่เป็นผู้เยาว์ถึง 3 คน ที่ผู้ร้องเป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจ ปกครอง ถือได้ว่าผู้ร้องมีความสัมพันธ์กับทายาทส่วนใหญ่ใกล้ชิด มากกว่าผู้คัดค้านผู้ร้องจึงน่าจะเป็นผู้รักษาประโยชน์ของทายาท ส่วนใหญ่ได้ดีกว่าผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทคนเดียว ดังนี้ ศาลฎีกาย่อมพิพากษาให้ผู้ร้อง เป็นผู้จัดการมรดก แต่กำหนดเงื่อนไข ว่า ถ้าจะจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกทางทะเบียน ให้แก่บุคคลภายนอกโดยมิได้รับความ เห็นชอบจากทายาททุกคนแล้ว ผู้ร้อง จะต้องขออนุญาตศาลก่อนเป็นกรณีไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดก: ผู้มีอำนาจจัดการเมื่อมีข้อขัดแย้งระหว่างทายาทและผู้จัดการมรดก
เจ้ามรดกมีทายาทชั้นบุตรที่เกิดกับผู้ร้อง 4 คน เป็นผู้เยาว์3 คน ผู้ร้องเป็นมารดา และอยู่ในฐานะที่เป็นผู้มีอำนาจปกครองตามกฎหมาย ถือได้ว่าผู้ร้องมีความสัมพันธ์กับทายาทส่วนใหญ่ใกล้ชิดมากกว่าผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดาเจ้ามรดก ผู้ร้องน่าจะเป็นผู้รักษาประโยชน์ของทายาทส่วนใหญ่ได้ดีกว่าผู้คัดค้าน ทั้งผู้คัดค้านยืนยันตลอดมาว่าทรัพย์หลายรายการที่ผู้ร้องระบุในบัญชีทรัพย์ว่าเป็นทรัพย์มรดกนั้นเป็นของบุคคลอื่น เป็นการกล่าวอ้างในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกของเจ้ามรดก ซึ่งถ้าถ้าผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วยก็จะกระทำการในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกของผู้ตาย ตามที่แสดงไว้นั้นผู้ร้องจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกแต่ฝ่ายเดียว แต่เพื่อมิให้เป็นการเสียหายแก่ฝ่ายผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทด้วย ศาลฎีกาจึงกำหนดเงื่อนไขในการตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกไว้ด้วยว่า ในกรณีที่ผู้ร้องจะจัดการมรดกไปในทางจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้แก่บุคคลที่มิใช่ทายาทที่มีสิทธิรับมรดกโดยมิได้รับความเห็นชอบจากทายาททุกคน จะต้องขออนุญาตจากศาลเป็นกรณีไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 194/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกโดยผู้จัดการหลายคน หากขัดแย้งกัน ศาลอาจแต่งตั้งผู้จัดการคนเดียวเพื่อประโยชน์ของทายาทส่วนใหญ่
การจัดการมรดกนั้น ผู้จัดการมรดกมีหน้าที่สำคัญในการรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันให้ทายาท อำนาจของผู้จัดการมรดกในกรณีที่มีสองคน การจัดการจะต้องดำเนินการร่วมกันเพราะกรณีไม่อาจจะหาเสียงข้างมากได้ ถ้าเกิดเป็นสองฝ่ายแล้ว คนหนึ่งคนใดก็ไม่อาจจัดการไปได้ การจัดการมรดกตามคำสั่งศาลที่ให้จัดการร่วมกันก็จะไม่มีผล ข้อขัดข้องในการจัดการแบ่งปันมรดกก็คงมีอยู่ต่อไป ไม่อาจแบ่งปันให้แก่ทายาทได้ ทั้งยังมีข้อโต้แย้งว่าทรัพย์ที่ปรากฏในคำร้องนั้นเป็นทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกหรือไม่การที่จะให้จัดการร่วมกันจึงมีข้อแสดงให้เห็นว่า ผู้ร้องกับผู้คัดค้านไม่อาจที่จะเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันได้ เจ้ามรดกมีทายาทชั้นบุตรที่เกิดกับผู้ร้อง 4 คน เป็นผู้เยาว์3 คน ผู้ร้องเป็นมารดา และอยู่ในฐานะที่เป็นผู้มีอำนาจปกครองตามกฎหมาย ถือได้ว่าผู้ร้องมีความลัมพันธ์ กับทายาทส่วนใหญ่ใกล้ชิดมากกว่าผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดาเจ้ามรดก ผู้ร้องน่าจะเป็นผู้รักษาประโยชน์ของทายาทส่วนใหญ่ได้ดีกว่าผู้คัดค้านทั้งผู้คัดค้านยืนยันตลอดมาว่าทรัพย์หลายรายการที่ผู้ร้องระบุในบัญชีทรัพย์ว่าเป็นทรัพย์มรดกนั้นผู้คัดค้านว่าเป็นของบุคคลอื่นเป็นการกล่าวอ้างในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกของเจ้ามรดกซึ่งถ้าผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วยก็จะกระทำการในลักษณะที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดกของผู้ตาย ผู้ร้องจึงสมควรเป็นผู้จัดการมรดกแต่ฝ่ายเดียว แต่เพื่อมิให้เป็นการเสียหายแก่ฝ่ายผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทด้วยในกรณีที่ผู้ร้องจะจัดการมรดกไปในทางจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้แก่บุคคลภายนอกโดยมิได้รับความเห็นชอบจากทายาททุกคนนั้น จะต้องขออนุญาตจากศาลเป็นกรณีไปซึ่งศาลสามารถวางเงื่อนไขดังกล่าวในคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2535

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจัดการมรดกกรณีทรัพย์สินระคนกันระหว่างคู่สมรสและบุคคลอื่น ผู้มีส่วนได้เสียในการจัดการมรดก
ผู้คัดค้านทั้งสองเป็นบุตรของ ล. กับ ช. หลังจากช. ตายแล้ว ล. ได้จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายเมื่อปี 2495และผู้ตายถูกฆ่าตายเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2530 โดยไม่ปรากฏว่าผู้ใดตายก่อนหลัง เมื่อผู้คัดค้านทั้งสองไม่ใช่ทายาทของผู้ตายผู้คัดค้านทั้งสองจึงไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในฐานะที่จะได้รับทรัพย์มรดกของผู้ตาย ดังนี้ เมื่อทรัพย์มรดกของ ล. และผู้ตายระคนปนกันอยู่ ทรัพย์สินของผู้ตายย่อมเป็นมรดกตกได้แก่ทายาทของผู้ตาย ส่วนทรัพย์สินของ ล.ย่อมเป็นมรดกได้แก่ทายาทของ ล. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 การแบ่งแยกทรัพย์สินของผู้ตายและ ล. ที่ระคนปนกันอยู่ออกเป็นทรัพย์มรดกของแต่ละคนย่อมเป็นประโยชน์และส่วนได้เสียแก่ทายาทของผู้ตายและทายาทของ ล. แต่ละฝ่ายต่างหากจากกันการแบ่งแยกทรัพย์สินเช่านี้เป็นผลได้เสียแก่ทายาทแต่ละฝ่ายขัดแย้งกัน ทายาทแต่ละฝ่ายต่างมีสิทธิดูแลรักษาผลประโยชน์ของตน ทายาทของ ล. มีสิทธิขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดกของ ล. เพื่อดูแลผลประโยชน์ได้อยู่แล้วหากให้ทายาทของ ล. เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายด้วยย่อมมีเหตุให้น่าระแวงว่าจะเกิดความเสียหายแก่กองมรดกและทายาทของผู้ตายได้ จึงไม่สมควรให้ผู้คัดค้านทั้งสองซึ่งเป็นทายาทของนายเล็กเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5613/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีของผู้จัดการมรดกสิ้นสุดเมื่อศาลมีคำพิพากษาถอนสถานะ และการจัดการมรดกโดยผู้จัดการมรดกย่อมมีผลสมบูรณ์
เดิมศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหากบุคคลใดประสงค์จะขอให้ศาลตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดกคนใหม่แทนโจทก์กระทำได้โดยยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิม แต่ถ้าจะฟ้องโจทก์แยกต่างหากจากคดีเดิมโดยอาศัยเหตุตาม ป.พ.พ. มาตรา 1727ก็ย่อมกระทำได้ ทั้งนี้เพราะบทบัญญัติดังกล่าวให้ยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิมก่อนการปัน มรดก เสร็จสิ้นลงเท่านั้น หาได้ตัดสิทธิมิให้ผู้ขอไปฟ้องเป็นคดีใหม่อีกต่างหากไม่ เมื่อศาลมีคำพิพากษาให้ถอนโจทก์จากการเป็นผู้จัดการมรดก และตั้งบุคคลอื่นเป็นผู้จัดการมรดกแทนโจทก์ ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วคำพิพากษาดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์โจทก์จึงไม่ใช่ผู้จัดการมรดกของผู้ตายอีกต่อไป จึงไม่มีอำนาจฟ้องในฐานะเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย การที่ผู้จัดการมรดกได้ทำตามมติที่ประชุมทายาทโดยโอนที่ดินพิพาทให้แก่จำเลย เป็นการจัดการเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดกของผู้ตายนิติกรรมดังกล่าวย่อมมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5384/2534

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการมรดก: ผู้จัดการมรดกเดิมมีอำนาจจัดการตามพินัยกรรม ผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกซ้ำไม่ชอบ
เมื่อศาลมีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านซึ่งเป็นมารดาผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายโดยไม่มีพินัยกรรมไว้แล้วโดยมิได้จำกัดให้มีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์มรดกเฉพาะสิ่งเฉพาะอย่าง ผู้คัดค้านย่อมมีอำนาจจัดการเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายได้ทั้งหมด ดังนั้นหากผู้ตายทำพินัยกรรมจำหน่ายทรัพย์เฉพาะสิ่งไว้จริง ผู้ร้องก็อาจขอให้ผู้คัดค้านจัดการให้เป็นไปตามพินัยกรรมนั้นได้กรณีจึงไม่มีเหตุที่ผู้ร้องจะมาร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกรายเดียวกันซ้อนขึ้นมาอีก.
of 28