พบผลลัพธ์ทั้งหมด 247 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2745/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าฤชาธรรมเนียม: ดุลพินิจศาลพิจารณาเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้คดี แม้จำเลยไม่ต้องรับผิดตามฟ้อง
โจทก์ฟ้องให้จำเลยร่วมกันรับผิดเป็นเงิน 187,031 บาทศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 รับผิดเป็นเงิน 139,000 บาทโดยให้จำเลยที่ 5 ร่วมรับผิดเป็นเงิน 100,000 บาท แม้จำเลยที่ 5 ไม่ต้องรับผิดเต็มตามฟ้อง แต่เมื่อคำนึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความประกอบกับพฤติการณ์ในการดำเนินคดีของ จำเลยที่ 5 แล้ว ศาลให้จำเลยที่ 5 ร่วมรับผิดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมเต็มตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2692/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่า, ค่าเสียหายจากการครอบครองปรปักษ์, และดุลพินิจศาลในการกำหนดค่าเสียหาย
การบอกเลิกการเช่าซึ่งโจทก์บอกกล่าวแก่ห้างจำเลยที่ 1 โดยส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังจำเลยที่ 2 ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับฝ่ายจำเลยไม่ยอมรับถือว่าได้บอกกล่าวโดยชอบแล้ว
โจทก์เรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าที่พิพาทอยู่ในย่านชุมชน มีรถประจำทางผ่านหลายสาย ถ้าโจทก์นำไปสร้างศูนย์การค้าหรืออาคารชุด (คอนโดมิเนียม) จะมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท แต่เป็นเพียงความคาดหมายไม่แน่นอนว่าจะมีรายได้เท่านั้นจริงศาลมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์จะพึงได้รับตามที่เห็นสมควร
ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีเป็นดุลพินิจคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือดำเนินคดีของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161
โจทก์เรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าที่พิพาทอยู่ในย่านชุมชน มีรถประจำทางผ่านหลายสาย ถ้าโจทก์นำไปสร้างศูนย์การค้าหรืออาคารชุด (คอนโดมิเนียม) จะมีรายได้เดือนละ 20,000 บาท แต่เป็นเพียงความคาดหมายไม่แน่นอนว่าจะมีรายได้เท่านั้นจริงศาลมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์จะพึงได้รับตามที่เห็นสมควร
ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีเป็นดุลพินิจคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือดำเนินคดีของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2692/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่า, การเรียกร้องค่าเสียหายจากการครอบครองปรปักษ์, และดุลพินิจศาลในการกำหนดค่าเสียหาย
การบอกเลิกการเช่าซึ่งโจทก์บอกกล่าวแก่ห้างจำเลยที่1โดยส่งหนังสือบอกกล่าวไปยังจำเลยที่2ในฐานะหุ้นส่วนผู้จัดการทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับฝ่ายจำเลยไม่ยอมรับถือว่าได้บอกกล่าวโดยชอบแล้ว โจทก์เรียกค่าเสียหายโดยอ้างว่าที่พิพาทอยู่ในย่านชุมชนมีรถประจำทางผ่านหลายสายถ้าโจทก์นำไปสร้างศูนย์การค้าหรืออาคารชุด(คอนโดมิเนียม)จะมีรายได้เดือนละ20,000บาทแต่เป็นเพียงความคาดหมายไม่แน่นอนว่าจะมีรายได้เท่านั้นจริงศาลมีอำนาจกำหนดค่าเสียหายที่โจทก์จะพึงได้รับตามที่เห็นสมควร ความรับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีเป็นดุลพินิจคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือดำเนินคดีของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา161.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1889/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตประกาศ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 กับดุลพินิจศาลในการปล่อยชั่วคราวและการปรับนายประกัน
ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 196 ข้อ 1 ที่กำหนดว่าให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันหรือหลักประกันไม่เกินจำนวนเงินตามเช็คนั้นเป็นข้อกำหนดที่ใช้บังคับแก่พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการในการสั่งปล่อยชั่วคราวเท่านั้น หาได้ใช้บังคับในการพิจารณาสั่งปล่อยชั่วคราวของศาลไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1355/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการอนุญาตเลื่อนคดี, งดสืบพยาน และประเด็นสัญญาเช่าต่างตอบแทน
การที่จะอนุญาตให้เลื่อนคดีเพราะความเจ็บป่วยตามป.วิ.พ.มาตรา40หรือไม่ก็ดีการสั่งงดสืบพยานเพราะเป็นพยานหลักฐานฟุ่มเฟือยเกินสมควรตามป.วิ.พ.มาตรา86วรรคสองหรือไม่ก็ดีเป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามสมควรแก่กรณีเป็นเรื่องๆไปการที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเพราะไม่เชื่อว่าทนายจำเลยป่วยจริงเนื่องจากไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงและโจทก์คัดค้านกับสั่งงดสืบพยานจำเลยเพราะเห็นว่าฟุ่มเฟือยเกินไปเนื่องจากจำเลยได้สืบพยานอย่างเดียวกันมาแล้วเป็นการใช้ดุลพินิจที่ชอบด้วยเหตุผลและกฎหมายแล้ว โจทก์จำเลยพิพาทกันเรื่องเช่าทรัพย์แม้คดีจะมีประเด็นเรื่องสัญญาต่างตอบแทนอันจำเลยอาจนำสืบพยานบุคคลถึงข้อตกลงอื่นที่มิได้ระบุไว้ในสัญญาเช่าได้ก็ตามแต่ก็ต้องนำสืบเท่าที่ได้ยกเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การเมื่อจำเลยให้การต่อสู้ในเรื่องนี้เฉพาะข้อตกลงเรื่องทำถนนเชื่อมกับถนนพหลโยธินเท่านั้นมิได้กล่าวอ้างถึงเงื่อนไขข้อตกลงค่าถมดิน 150,000บาทว่าเป็นการตอบแทนการเช่าที่พิพาทข้อนำสืบของจำเลยจึงนอกประเด็นไม่ชอบที่ศาลจะรับฟัง จำเลยเช่าที่พิพาทจากโจทก์เพื่อทำกิจการค้าไม้แปรรูปแล้วทำถนนในที่พิพาทใช้สำหรับรถบรรทุกไม้แปรรูปเข้าออกอันเป็นประโยชน์ในกิจการค้าไม้ของจำเลยแม้โจทก์จะได้รับประโยชน์บ้างก็ไม่ทำให้สัญญาเช่าที่พิพาทเป็นสัญญาต่างตอบแทนเป็นพิเศษยิ่งไปกว่าสัญญาเช่าธรรมดา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1039/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: การโต้แย้งดุลพินิจศาลในการฟังพยานและลงโทษ
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดแต่ละกระทงไม่เกิน1ปีจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามป.วิ.อ.มาตรา218 ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าเจ้าพนักงานจับกุมตัวจำเลยตามที่ผู้เสียหายแจ้งจำเลยหลบหนีไประหว่างที่เจ้าพนักงานควบคุมตัวจำเลยจำเลยฎีกาโต้แย้งว่าตามคำเบิกความของพยานโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่ามีการจับกุมตัวจำเลยข้อโต้แย้งของจำเลยเป็นการโต้แย้งในเรื่องการฟังพยานว่าควรจะฟังไปในทางใด ซึ่งเป็นดุลพินิจในการฟังพยานหลักฐานอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดบังคับคดีและการเสนอเงื่อนไขใหม่ ศาลมีอำนาจดุลพินิจในการสั่งเปลี่ยนแปลงได้
ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้ว จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งหากเป็นฝ่ายชนะคดีก็จะไม่ต้องมีการบังคับคดี เพราะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 แล้ว มีคำสั่งว่า การขอให้งดการบังคับคดีของจำเลยที่ 1 มีเหตุผลในการที่จะได้หักกลบลบหนี้ แม้ไม่อาจหักกลบลบหนี้กันได้ความเสียหายของโจทก์ไม่น่าจะมี เพราะฐานะของจำเลยที่ 1 เป็นส่วนราชการจึงให้งดการบังคับคดีไว้จนกว่าศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น เช่นนี้คำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องที่ศาลเห็นสมควรให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนอันเป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ หาใช่การสั่งให้งดการบังคับคดีตามมาตรา 293 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่เพราะกรณีที่ศาลจะสั่งงดการบังคับคดีตามบทมาตราดังกล่าวได้ต้องปรากฏว่าได้มีการบังคับคดีตามคำพิพากษาอันจะต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลยโดยวิธีอื่นแต่กรณีนี้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ออกหมายบังคับคดีคำสั่งของศาลชั้นต้นข้างต้น เป็นการสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ตาม มาตรา 292 (2) และแม้โจทก์จะไม่อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวแต่ได้ยื่นคำร้องเสนอเงื่อนไขขึ้นมาใหม่เพื่อขอให้ศาลชั้นต้นยกเลิกคำสั่งงดการบังคับคดีนั้นเสีย ศาลก็อาจใช้ดุลพินิจสั่งใหม่ได้ตามที่เห็นสมควร และคู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งใหม่นั้นได้ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3021/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดบังคับคดีและการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบังคับคดี: ศาลมีดุลพินิจในการพิจารณาหักกลบลบหนี้และวิธีการบังคับคดี
ศาลชั้นต้นออกคำบังคับให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้โจทก์ตามคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้ว จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งหากเป็นฝ่ายชนะคดีก็จะไม่ต้องมีการบังคับคดี เพราะสามารถหักกลบลบหนี้กันได้ ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 แล้ว มีคำสั่งว่า การขอให้งดการบังคับคดีของจำเลยที่ 1 มีเหตุผลในการที่จะได้หักกลบลบหนี้ แม้ไม่อาจหักกลบลบหนี้กันได้ความเสียหายของโจทก์ไม่น่าจะมี เพราะฐานะของจำเลยที่ 1 เป็นส่วนราชการ จึงให้งดการบังคับคดีไว้จนกว่าศาลจะสั่งเป็นอย่างอื่น เช่นนี้ คำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องที่ศาลเห็นสมควรให้งดการบังคับคดีไว้ก่อน อันเป็นดุลพินิจของศาลที่จะสั่งได้ หาใช่การสั่งให้งดการบังคับคดีตามมาตรา 293 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งไม่ เพราะกรณีที่ศาลจะสั่งงดการบังคับคดีตามบทมาตราดังกล่าวได้ ต้องปรากฏว่าได้มีการบังคับคดีตามคำพิพากษา อันจะต้องมีการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินของจำเลยโดยวิธีอื่นแต่กรณีนี้ศาลชั้นต้นยังไม่ได้ออกหมายบังคับคดี คำสั่งของศาลชั้นต้นข้างต้น เป็นการสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ตาม มาตรา 292(2) และแม้โจทก์จะไม่อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าว แต่ได้ยื่นคำร้องเสนอเงื่อนไขขึ้นมาใหม่เพื่อขอให้ศาลชั้นต้นยกเลิกคำสั่งงดการบังคับคดีนั้นเสีย ศาลก็อาจใช้ดุลพินิจสั่งใหม่ได้ตามที่เห็นสมควร และคู่ความมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งใหม่นั้นได้ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการตั้งผู้จัดการมรดก พิจารณาประโยชน์กองมรดกและความขัดแย้งระหว่างทายาท
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจถึงความเหมาะสม หรือในพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดกด้วยเมื่อ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้อง ซึ่งเป็นทายาทมีความขัดแย้งกับทายาทอื่นอยู่ ถ้าตั้งผู้ร้องให้เป็นผู้จัดการมรดกอาจก่อให้เกิดความเสียหายได้ ถึงแม้ผู้ร้อง จะไม่เป็นบุคคล ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ก็ตามศาลก็ไม่จำต้องตั้งผู้ร้องตามคำร้องทุกกรณีเสมอไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการตั้งผู้จัดการมรดก พิจารณาประโยชน์กองมรดกและความขัดแย้งระหว่างทายาท
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ศาลย่อมใช้ดุลพินิจถึงความเหมาะสม หรือในพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดกด้วยเมื่อ ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้อง ซึ่งเป็นทายาทมีความขัดแย้งกับทายาทอื่นอยู่ ถ้าตั้งผู้ร้อง ให้เป็นผู้จัดการมรดกอาจก่อ ให้เกิดความเสียหายได้ ถึงแม้ผู้ร้อง จะไม่เป็นบุคคล ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1718 ก็ตามศาลก็ไม่จำต้องตั้งผู้ร้องตามคำร้องทุกกรณีเสมอไป