พบผลลัพธ์ทั้งหมด 225 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 359/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทตั๋วสัญญาใช้เงิน: การฟ้องบังคับชำระหนี้, การรับรองการขาย, และอายุความ
ออกตั๋วสัญญาใช้เงินกำหนดใช้เงิน 1,460 วัน นับแต่วันออกตั๋วไม่มีอัตราดอกเบี้ย แล้วขายตั๋วแก่ธนาคาร โดยทำสัญญาให้ดอกเบี้ยร้อยละ 14 ต่อปี ถ้าผิดนัดธนาคารเรียกเงินจากผู้ออกตั๋วและดอกเบี้ยได้ตามสัญญาขายตั๋วเมื่อผู้ออกตั๋วไม่ใช้เงินตามกำหนดซึ่งเป็นผิดนัดโดยไม่ต้องทวงถาม
อายุความฟ้องผู้รับอาวัลกับผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนด 3 ปีตาม มาตรา940,1001
การมอบอำนาจให้ฟ้องมิใช่เป็นสภาพหรือข้ออ้างที่เป็นหลักแห่งข้อหา โจทก์ไม่บรรยายมติที่ประชุมกรรมการบริษัทที่ให้ประธานกรรมการมอบอำนาจให้ฟ้องก็ไม่เคลือบคลุม
จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์เป็นธนาคารพาณิชย์แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นไม่วินิจฉัยจำเลยฎีกาไม่ได้
อายุความฟ้องผู้รับอาวัลกับผู้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนด 3 ปีตาม มาตรา940,1001
การมอบอำนาจให้ฟ้องมิใช่เป็นสภาพหรือข้ออ้างที่เป็นหลักแห่งข้อหา โจทก์ไม่บรรยายมติที่ประชุมกรรมการบริษัทที่ให้ประธานกรรมการมอบอำนาจให้ฟ้องก็ไม่เคลือบคลุม
จำเลยให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีวัตถุประสงค์เป็นธนาคารพาณิชย์แต่ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นและจำเลยไม่คัดค้าน ศาลชั้นต้นไม่วินิจฉัยจำเลยฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3037/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความภาษีการค้า: การแจ้งประเมินและการบังคับชำระหนี้ ทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง
ในเรื่องภาษีการค้านั้น ประมวลรัษฎากร มาตรา 84,85 บัญญัติให้ผู้ประกอบการค้าต้องยื่นแบบแสดงรายการการค้าและชำระภาษีการค้าเป็นรายเดือน โดยนำเงินค่าภาษีการค้าไปชำระพร้อมกับยื่นแบบแสดงรายการการค้าเงินได้พึงประเมินภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปซึ่งถือได้ว่ามูลหนี้ค่าภาษีการค้าได้เกิดขึ้นแล้ว ทุกเดือนภาษีที่โจทก์มีรายรับโดยถือเอาวันที่ 15 ของเดือนถัดไปเป็นวันที่ครบกำหนดชำระหนี้ภาษีของเดือนนั้น ๆ และเจ้าพนักงานประเมินมีสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีการค้านับแต่วันถัดจากวันที่กำหนดชำระเป็นต้นไป สำหรับกรณีของโจทก์เมื่อหนี้ค่าภาษีการค้าที่โจทก์เสียขาดไปถึงกำหนดชำระภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2506 และทุก ๆ วันที่ 15 ของแต่ละเดือนถัดไปเจ้าพนักงานประเมินจึงมีสิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีการค้าดังกล่าวเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2506 เมื่อเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งการประเมินภาษีการค้าที่ขาดให้โจทก์นำไปชำระตามประมวลรัษฎากร มาตรา 86ทวิ ซึ่งโจทก์ทราบการประเมินเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2514 ถือได้ว่าจำเลยได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับให้ชำระหนี้ภาษีที่ค้างแล้วภายในกำหนด 10 ปีตามมาตรา 88ทวิ(2) ซึ่งมีผลอย่างเดียวกับการฟ้องคดีเพื่อให้ชำระหนี้ตามที่เรียกร้องอันเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 173 เพราะหากโจทก์ไม่นำเงินไปชำระ กรมสรรพากรจำเลยก็มีอำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 อันเป็นกฎหมายพิเศษที่จะดำเนินการบังคับเอากับทรัพย์สินของผู้ค้างชำระค่าภาษีโดยมิต้องนำคดีมาฟ้องร้องต่อศาลเช่นกรณีเจ้าหนี้อื่น ๆและต่อมาโจทก์ได้อุทธรณ์ตลอดจนนำคดีนี้มาฟ้องสืบเนื่องกันมา จึงเป็นเหตุให้อายุความสะดุดหยุดอยู่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 175 สิทธิเรียกร้องหนี้ค่าภาษีอากรรายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2218/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตัวแทนจำลอง & ความรับผิดชอบของห้างหุ้นส่วน: การกระทำของหุ้นส่วนที่ผูกพันห้าง และผลกระทบต่อการบังคับชำระหนี้
ม.ทำสัญญาเช่าซื้อเครื่องปรับอากาศระบุชื่อโรงแรมสุริยาตรโฮเต็ลและ ม.ลงชื่อประทับตราของห้างสุริยาตรโฮเต็ล ผู้ร้องนำของนี้ไปใช้ในโรงแรมผู้ร้อง ไม่มีโรงแรมสุริยาตรที่อื่นอีก โจทก์ผู้เช่าซื้อก็คือผู้ร้องนั่นเอง ผู้ร้องยอมให้ ม. แสดงออกเป็นตัวแทนต้องรับผิดในหนี้ที่เกิดจากสัญญาเช่าซื้อซึ่งโจทก์แพ้คดีจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 613/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนี้จากการพนันม้าแข่งไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ทำให้ฟ้องบังคับชำระหนี้ตามเช็คไม่ได้
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้ ร. เพื่อชำระหนี้การพนักม้าแข่ง มูลหนี้ตามเช็คดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 855 ฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2477/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินลูกหนี้ทั้งหมด ไม่จำกัดเฉพาะทรัพย์จำนอง แม้บังคับจำนองได้เงินบางส่วน
แม้มีจำนองหนี้ตามคำพิพากษา เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็มีสิทธิบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาได้ มิใช่เจ้าหนี้จะได้แต่บังคับจำนองเท่านั้นแต่การที่จะสั่งให้ลูกหนี้วางประกันก่อนสั่งให้ลูกหนี้รับเงินที่ขายทรัพย์ไปได้หรือไม่ ไม่เป็นการสมควร ศาลชั้นต้นต้องสั่งใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์การรับเงินและการบังคับชำระหนี้: ศาลฎีกาวินิจฉัยการรับเงินจริงและการบังคับตามคำพิพากษาชั้นต้น
มีเฮโรอีนฯ และเสพเฮโรอีนที่มีไว้นั้น เป็นการกระทำโดยเจตนาคนละอันต่างกันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20 ตรี กระทงหนึ่งกับ มาตรา 22 อีกกระทงหนึ่ง แก้ไขฉบับที่ 4 พ.ศ. 2504 มาตรา 7 และ 8
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลูกหนี้ร่วม vs. ผู้ค้ำประกัน: ศาลบังคับชำระหนี้ได้แม้ฟ้องในฐานะผู้ค้ำประกัน หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นลูกหนี้ร่วม
เอกสารมีข้อความว่า ถ. รับเป็นผู้จัดการในการผ่อนชำระเงินค่าข้าวสารซึ่ง บ. ซื้อไปจาก จ. เนื่องจาก บ. ไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้ดังนี้หมายความว่าจะใช้หนี้แทน เป็นลูกหนี้ร่วม ไม่ใช่สัญญาค้ำประกันจึงไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้โจทก์ตามเอกสารท้ายฟ้อง แม้จะกล่าวว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน แต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นลูกหนี้ร่วมก็บังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ให้โจทก์ในฐานะลูกหนี้ร่วมได้ ไม่เป็นการนอกเหนือความประสงค์ที่โจทก์ฟ้อง
การที่จำเลยส่งสำเนาเอกสารซึ่งจำเลยจะนำสืบให้โจทก์ก่อนสืบพยานโจทก์แล้วโจทก์ไม่ได้ยื่นคำคัดค้านว่าเป็นเอกสารปลอม อันทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิจะนำสืบว่าเป็นเอกสารปลอมนั้น ไม่เป็นการตัดอำนาจศาลที่จะวินิจฉัยว่าเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ ทั้งจำเลยมิได้คัดค้านเมื่อตอนโจทก์นำสืบปฏิเสธเอกสารดังกล่าว จำเลยจะยกขึ้นคัดค้านภายหลังหาได้ไม่
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ให้ร่วมกับจำเลยที่ 1 ชำระหนี้ให้โจทก์ตามเอกสารท้ายฟ้อง แม้จะกล่าวว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน แต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 เป็นลูกหนี้ร่วมก็บังคับให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้ให้โจทก์ในฐานะลูกหนี้ร่วมได้ ไม่เป็นการนอกเหนือความประสงค์ที่โจทก์ฟ้อง
การที่จำเลยส่งสำเนาเอกสารซึ่งจำเลยจะนำสืบให้โจทก์ก่อนสืบพยานโจทก์แล้วโจทก์ไม่ได้ยื่นคำคัดค้านว่าเป็นเอกสารปลอม อันทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิจะนำสืบว่าเป็นเอกสารปลอมนั้น ไม่เป็นการตัดอำนาจศาลที่จะวินิจฉัยว่าเป็นเอกสารปลอมหรือไม่ ทั้งจำเลยมิได้คัดค้านเมื่อตอนโจทก์นำสืบปฏิเสธเอกสารดังกล่าว จำเลยจะยกขึ้นคัดค้านภายหลังหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2003/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำนองแยกจากหนี้ได้ เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับชำระหนี้ได้ทั้งจากทรัพย์สินทั่วไปและทรัพย์สินที่จำนอง
การจำนองเป็นสัญญาเอาทรัพย์สินตราไว้เป็นการประกันหนี้ โดยมีหนี้ที่จะพึงต้องชำระแก่กันอันเป็นหนี้ประธาน และจำนองอันเป็นอุปกรณ์ของหนี้นั้น ซึ่งอาจแยกหนี้ที่จะต้องชำระแก่กัน และการจำนองออกเป็นคนละส่วนต่างหากจากกันได้ เจ้าหนี้จึงชอบที่จะใช้สิทธิ์เรียกร้องอย่างหนี้สามัญ หรือจะบังคับจำนองอย่างใดอย่างหนึ่งก็ย่อมทำได้ ไม่เป็นการหลีกเลี่ยงกฎหมายเรื่องจำนองหรือเป็นการใช้สิทธิ์โดยไม่สุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 80/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารปลอมและการบังคับชำระหนี้เกินจริง แม้จำเลยรับสภาพหนี้บางส่วน
โจทก์กรอกจำนวนเงินกู้ลงว่า 20,000 บาท เกินกว่าความจริงที่จำเลยรับว่ากู้ไป 2,000 บาท โดยลงลายมือชื่อในเอกสารไว้ให้โดยไม่ได้กรอกข้อความดังนี้ เป็นเอกสารปลอม แม้จำเลยจะรับว่ากู้2,000 บาท ศาลก็บังคับให้จำเลยใช้เงินตามที่รับไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 293/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้จากสินสมรสหลังบอกล้างสัญญาค้ำประกัน: ต้องแยกสินสมรsk่อนยึด
เมื่อผู้ร้องซึ่งเป็นสามีได้บอกล้างสัญญาค้ำประกันซึ่จำเลยที่ 2 ผู้เป็นภริยาทำไว้กับโจทก์แล้ว ย่อมมีผลทำให้สัญญาค้ำประกันนั้นในส่วนที่ผูกพันสินบริคณห์ตกเป็นโมฆะ แต่ยังสมบูรณ์อยู่เฉพาะในส่วนที่ผูกพันสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 โจทก์จะต้องบังคับชำระเอาจากสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 หากสินส่วนตัวของจำเลยที่ 2ไม่มีหรือมีไม่พอ และโจทก์ประสงค์จะบังคับชำระหนี้เอาจากส่วนของจำเลยที่ 2 ในสินบริคณห์ โจทก์ต้องร้องต่อศาลให้แยกสินบริคณห์ระหว่างจำเลยที่ 2 กับผู้ร้องเสียก่อนแล้วจึงนำยึดส่วนของจำเลยที่ 2 เพื่อชำระหนี้โจทก์จะนำยึดสินบริคณห์ก่อนขอแยกสินบริคณห์ออกเป็นส่วนของจำเลยที่ 2 ไม่ได้