คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ประกัน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 138 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231/2482

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเงินกู้ยืมโดยมีที่ดินเป็นประกัน หากมิได้จดทะเบียน ย่อมไม่สมบูรณ์ใช้บังคับกันได้
สัญญามีความว่าโจทก์ได้รับเงินจากจำเลยไป 65 บาท โจทก์ยอมยกที่ดินสวนผลไม้ให้จำเลยยึดถือไว้แทนตัวเงินที่รับไป ทั้งนี้ สัญญาฉะบับนี้เป็นสัญญากู้ยืมเงินโดยเอาที่สวนให้จำเลยยึดถือไว้ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย, +กู้เงินกันแล้วมอบที่ดินให้ผู้ให้กู้ใช้ประโยชน์ในที่ดินนั้น การยึดถือที่ดินของผู้ให้กู้โดยลักษณดังนี้เป็นทรัพยสิทธิอย่างหนึ่ง , เมื่อมิได้จดทะเบียนย่อมไม่สมบูรณ์ใช้บังคับกันมิได้ ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือที่ดินไว้ต่อไปในเมื่อผู้กู้เรียกร้อง,อ้างฎีกาที่ 1283/2480,เข้าครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิตามสัญญาแม้จะครอบครองมาตั้ง 20-21 ปีก็ไม่ได้กรรมสิทธิ เพราะไม่ถือว่าเป็นการครอบครองโดยปรปักษ์, ประมวลวิธีพิจารณาแพ่ง ม.149,178 ฟ้องแย้ง.
ค่าธรรมเนียม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2480

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การมอบเอกสารเป็นประกันแล้วนำไปใช้ต่อทะเบียน ไม่ถือเป็นฉ้อโกงหรือยักยอก หากภายหลังนำทรัพย์สินไปขาย
เอาใบทะเบียนรถยนตร์มอบเขายึดเป็นประกันเงินกู้ไว้ต่อมาไปพูดขอเอามาเพื่อต่อทะเบียนรถแลก็ได้เอาไปต่อทะเบียนรถจริง ๆ ภายหลังกลับเอาไปโอนขายให้ผู้อื่นเสียดังนี้ยังไม่มีผิดฐานฉ้อโกงหรือยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 444/2478

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้ให้กู้ยึดทรัพย์ประกันตามสัญญา แม้ทรัพย์มิใช่ของผู้กู้ ไม่เป็นความผิดอาญา
การที่ผู้-ให้กู้ฟ้องลูกหนี้ตามสัญญากู้แล้วยึดเรือนซึ่งลูกหนี้เอามาเป็นประกันเงินกู้ดังนี้เป็นการยึดตามสิทธิที่ผู้ให้กู้มีอยู่ตามข้อผูกพันในสัญญา แม้จะปรากฏว่าเรือนรายนั้นจะมิใช่เป็นของผู้กู้ ผู้ให้กู้ก็ยังไม่มีผิดทางอาญา วิธีพิจารณาความอาญางดสืบพะยานฎีกาอุทธรณ์ข้อกฎหมาย ข้อฎีกาการงดสืบพะยานชนิดใดเป็นข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 991/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความเท็จเกี่ยวกับหนี้สินและการโอนที่ดิน: ศาลฎีกาตัดสินว่าเจ้าพนักงานที่ดินไม่ต้องรับแจ้งเรื่องหนี้ และการโอนที่ดินเป็นสิทธิของผู้ให้ประกัน
ลูกหนี้ไปหลอกเอาโฉนดที่ให้เปนประกันเงินกู้จากเจ้าหนี้มาแล้วโอนขายให้ผู้อื่นต่อไปนั้น ลูกหนี้ไม่มีผิดฐานฉ้อโกง เจ้าพนักงานที่ดินไม่มีหน้าที่รับแจ้งความเรื่องการชำระหนี้สิน เมื่อผู้ใดไปแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานว่าได้ใช้เงินให้แก่เจ้าหนี้แล้ว จึงไม่มีผิดฐานแจ้งความเท็จ
วิธีพิจารณาอาชญา แพ่ง ฟ้องคดีอาชญาปนแพ่งต้องเรียกค่าธรรมเนียมอย่างคดีแพ่งที่ดิน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 279/2473

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งขายทอดตลาดทรัพย์มรดกและการเรียกประกันตามวิธีพิจารณาความแพ่ง
ศาลเดิมมีอำนาจบังคับคดีได้ทีเดียว หรือเรียกประกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 797/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิยึดหน่วงช้างเป็นประกัน เจ้าหนี้มีสิทธิยึดแม้ผู้กู้ถึงแก่กรรม สัญญาแทนถูกต้อง
สิทธิยึดหน่วงของเจ้าหนี้มีประกันจะยึดหลักประกันไว้จนกว่าจะใช้เงิน วิธีพิจารณาแพ่ง อายุความมฤดกไม่กระทบถึงสิทธิเจ้าหนี้ยึดหลักประกันมฤดกการที่เคยติดต่อกันยอมให้สืบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 553/2472

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเชื่อถ้อยคำผู้อื่นในการจำนอง/ประกัน และอายุความทุจริต
พูดโดยเชื่อถ้อยคำของผู้อื่นไม่เรียกว่าทุจริตหลอกลวง วิธีพิจารณาอาญา อายุความ หน้าที่โจทก์ต้องสืบว่าคดีไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2471

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดตามสัญญาการจ้างยามและการริบเงินประกันค่าเสียหาย
ความรับผิดชอบในเรื่องค่าเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4409/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลักลอบนำเข้าเรือโดยหลีกเลี่ยงภาษี, การประเมินราคา, การริบของกลาง, และการจ่ายสินบน/รางวัลจากประกัน
จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันนำเรือยอช์ท ซึ่งเป็นของที่ยังไม่ได้เสียภาษีและมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องแล่นเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2540 โดยแจ้งต่อนายด่านศุลกากรว่าเป็นการนำเข้าชั่วคราว ซึ่งมีเวลาอยู่ในราชอาณาจักร 6 เดือน คือภายในวันที่ 20 ตุลาคม 2540 จากนั้น จำเลยทั้งสองกับพวกนำเรือของกลางจอดแล่นใช้งานตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2540 จนกระทั่งมีผู้แจ้งความนำจับและเจ้าพนักงานอายัดเรือไว้เป็นของกลางเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2541 ดังนี้ วันที่กระทำความผิดจึงเป็นวันที่ 20 เมษายน 2540 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันนำเรือของกลางเข้ามา หาใช่วันที่ 21 ตุลาคม 2540 ซึ่งเป็นวันที่เรือของกลางอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด 6 เดือน ดังที่จำเลยทั้งสองกล่าวอ้างว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมไม่ ดังนั้น ฟ้องโจทก์ที่บรรยายว่า จำเลยทั้งสองกับพวกร่วมกันกระทำผิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2540 นั้น จึงชอบแล้ว
เงินตามสัญญาประกันค่าเรือที่บริษัท ล. ซึ่งเป็นเจ้าของเรือทำสัญญาไว้กับกรมศุลกากรในการรับเรือของกลางไปเก็บรักษา หากเรือของกลางชำรุดเสียหายหรือไม่สามารถส่งมอบเรือคืนให้ในสภาพเดิมได้ จะยินยอมชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 133,821,659 บาท นั้น เงินจำนวนนี้มิใช่เงินที่ศาลจะมีอำนาจสั่งริบแทนเรือของกลางซึ่งเป็นทรัพย์ที่ใช้กระทำความผิด เพราะหากปรากฏภายหลังศาลมีคำพิพากษาให้ริบเรือของกลางแล้ว บริษัท ล. ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ กรมศุลกากรก็มีสิทธิฟ้องบังคับเงินค่าเสียหายจากบริษัทดังกล่าวได้เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหาก ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาในส่วนที่ให้ริบเงินตามสัญญาประกันเท่ากับขายเรือของกลาง และให้จ่ายสินบนนำจับและเงินรางวัลแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุมผู้กระทำผิดจากเงินตามสัญญาประกันจึงไม่ชอบ กรณีดังกล่าวเป็นปัญหาเรื่องอำนาจฟ้อง แม้โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่ได้อุทธรณ์คัดค้านในประเด็นดังกล่าวนี้ไว้ แต่เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อย โจทก์มีสิทธิยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2676/2559

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขยายเวลาหาประกันเพื่อทุเลาการบังคับ: ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีอำนาจตัดสิน และคำพิพากษาเป็นที่สุด
คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 เกี่ยวกับเรื่องการขอขยายเวลาหาประกันมาวางตามเงื่อนไขที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 อนุญาตให้มีการทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 2 นั้น เป็นเรื่องต่อเนื่องกับการขอทุเลาการบังคับ ซึ่งเป็นอำนาจโดยเฉพาะของศาลอุทธรณ์ภาค 2 ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 231 เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยขยายระยะเวลาหาประกันมาวางศาลต่อไปอีก จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ดังกล่าว รวมทั้งฎีกาที่คัดค้านว่าศาลชั้นต้นไม่มีอำนาจสั่งยกคำร้องขอทุเลาการบังคับต้องส่งไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 มีคำสั่ง ถือว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 เป็นที่สุดแล้วตาม ป.วิ.พ. มาตรา 147 วรรคหนึ่ง
of 14