พบผลลัพธ์ทั้งหมด 752 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2408/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มลดโทษในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด: หลักการคำนวณส่วนเพิ่มลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 54
คำว่าส่วนของการเพิ่มและส่วนของการลดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา54มิได้หมายถึงจำนวนของโทษที่คิดคำนวณแล้วแต่เป็นส่วนที่ยังไม่ได้คิดคำนวณหากส่วนของการเพิ่มคือกึ่งหนึ่งส่วนของการลดคือหนึ่งในสามในกรณีนี้ส่วนของการเพิ่มจึงมากกว่าส่วนของการลดศาลเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดก็ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเอกสารของผู้อื่นไปโดยไม่คืน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
จำเลยเอาเอกสารบัญชีรายชื่อหัวหน้าครอบครัวในเขตชุมชน ซึ่งประชาชนนำมามอบให้ผู้เสียหายเป็นผู้เก็บรักษาไว้ไปแล้วไม่คืนให้ผู้เสียหายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไม่สามารถนำไปยื่นต่อผู้อำนวยการเขตเพื่อให้ความ เห็นชอบให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งประธานชุมชนได้ เป็นการกระทำ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือประชาชน มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2099/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับโทษตามมาตรา 91 ป.อาญา ต้องมีการเกี่ยวพันของการกระทำความผิดในคดีทั้งสอง
การที่จำเลยจะได้รับการปรับโทษใหม่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา90ต้องปรากฏว่าการกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้กับคดีก่อนมีความเกี่ยวพันกันจนอาจรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้เมื่อเงินที่จำเลยเบียดบังในคดีทั้งสองเป็นเงินคนละประเภทสถานที่เบิกเงินการเบิกจ่ายเงินและการส่งเงินคืนก็แตกต่างกันพยานคนละชุดกันการสอบสวนคดีนี้ได้กระทำขึ้นภายหลังที่จำเลยถูกฟ้องและศาลพิพากษาคดีก่อนแล้วการกระทำความผิดของจำเลยในคดีทั้งสองจึงไม่เกี่ยวพันกันและไม่อาจรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้จึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา91
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1805/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140
ศาลล่างพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา140วรรคสามโดยไม่ปรับบทตามมาตรา138วรรคสองและมาตรา140วรรคแรกด้วยนั้นไม่ถูกต้องเพราะมาตรา140วรรคสามมิได้บัญญัติความผิดไว้ชัดแจ้งในตัวและการไม่ปรับบทว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา140วรรคแรกหรือวรรคสองย่อมไม่ทราบว่าจำเลยต้องระวางโทษหนักกว่าที่กฎหมายบัญญัติไว้กึ่งหนึ่งของมาตรา140วรรคหนึ่งหรือวรรคสองและปัญหาข้อนี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกาศาลฎีกาเห็นสมควรหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1760/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
วางเพลิงเผาโรงเรือนที่อยู่อาศัย แม้ไม่สำเร็จผล ก็เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218(1) ประกอบ มาตรา 80
จำเลยใช้น้ำมันเบนซินราดที่พื้นซีเมนต์หน้าประตูและที่ประตูเข้าบ้านชั้นล่างของผู้เสียหายแล้วใช้ไม้ขีดจุดจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้พื้นซีเมนต์และประตูหน้าบ้านลุกลามไปเผาผนังซีเมนต์กระจกหน้าต่างและเสื้อผ้าของผู้เสียหายพฤติการณ์เช่นนี้หาเป็นการแน่แท้ว่าจะไม่สามารถทำให้เพลิงไหม้บ้านของผู้เสียหายได้หากชาวบ้านไม่ช่วยดับเพลิงไว้ทันท่วงทีบ้านของผู้เสียหายก็ต้องถูกเพลิงไหม้วอดหมดการกระทำของจำเลยไม่บรรลุผลมิใช่เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำหรือเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งกระทำต่อกรณีจึงต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา80ไม่ใช่มาตรา81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1342/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษปรับนิติบุคคลและการกักขังแทนค่าปรับตามประมวลกฎหมายอาญา
โทษปรับนิติบุคคลจะกักขังแทนเงินค่าปรับไม่ได้ คงจัดการตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ ได้แต่ประการเดียว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281-1282/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางอาญาจากการใช้เรือโดยประมาทและลักษณะไม่ปลอดภัย, การกระทำผิดตาม พ.ร.บ.เดินเรือ และประมวลกฎหมายอาญา
จำเลยที่2ถึงที่4ตกลงกันเป็นหุ้นส่วนซื้อเรือเอี้ยมจุ๊นมาต่อเติมดัดแปลงเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันในกิจการท่องเที่ยวโดยจำเลยที่2มีหน้าที่ไปติดต่อขอซื้อเรือของกลางและเรือลำที่เกิดพลิกคว่ำจำเลยที่3มีหน้าที่เกี่ยวกับการติดต่อจดทะเบียนและขออนุญาตใช้เรือจำเลยที่4มีหน้าที่ในการออกแบบและต่อเติมเรือทั้งสองลำให้เป็นสองชั้นและได้จ้างจำเลยที่1ขับเรือของกลางซึ่งมีลักษณะน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลในเรือไปในการรับจ้างขนส่งคนโดยสารด้วยการบรรทุกจนน่าเป็นอันตรายแก่บุคคลในเรือนั้นจึงเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสี่ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา83 องค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา233ที่ว่าน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลในยานพาหนะไม่ใช่ผลของการกระทำจำเลยใช้เรือรับจ้างขนส่งคนโดยสารเมื่อเรือนั้นมีลักษณะหรือมีการบรรทุกจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลในเรือนั้นแม้ยังไม่มีความเสียหายก็ถือเป็นความผิดสำเร็จ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 898/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยักยอกเอกสารสำคัญเพื่อการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์โดยมิชอบ เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188
จำเลยเอาเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ซึ่งเป็นของโจทก์ร่วมไปจากโจทก์ร่วม แล้วนำไปดำเนินการโอนทะเบียนรถยนต์ให้แก่ผู้อื่นแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเอาเอกสารของโจทก์ร่วมไปโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วมจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 แม้จำเลยมิได้ฎีกาขอให้รอการลงโทษ แต่เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับจำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนศาลฎีกาเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีโดยให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย แต่ให้ลงโทษปรับจำเลยด้วยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 79/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพูดใส่ความผู้อื่นว่ายักยอกเงิน เป็นการหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326
โจทก์ร่วมซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ถูกร้องเรียนว่ายักยอกเงินโครงการอาหารกลางวันและอื่น ๆ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนและได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่อื่น จำเลยซึ่งรักษาการแทนโจทก์ร่วมทำหนังสือสั่งธนาคารระงับการจ่ายเงินเดือนให้โจทก์ร่วม และได้พูดกับ พ.ผู้ช่วยสมุหบัญชีธนาคารว่า "ยักยอก ตามตัวไม่พบ" คำพูดดังกล่าวมีความหมายให้ พ. เข้าใจว่าโจทก์ร่วมยักยอกเงินของทางราชการแล้วหนีไป จึงเป็นการใส่ความโจทก์ร่วม โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังจึงเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทโจทก์ร่วม จำเลยมีเจตนากล่าวถ้อยคำโดยเจตนาใส่ความโจทก์ร่วมทั้งถ้อยคำดังกล่าวก็เป็นความเท็จเพราะจำเลยทราบดีว่าขณะนั้นโจทก์ร่วมอยู่ในระหว่างถูกผู้บังคับบัญชาตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและได้สั่งให้โจทก์ร่วมไปช่วยราชการที่อื่น หาใช่ว่าคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการเสร็จแล้วและลงความเห็นว่าโจทก์ร่วมกระทำผิดวินัยและหลบหนีไปแต่อย่างใดไม่ การกล่าวถ้อยคำของจำเลยจึงมิใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นหรือข้อความโดยสุจริต จำเลยกระทำความผิดก่อนวันใช้บังคับของพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมิได้เป็นคุณแก่จำเลย จึงต้องใช้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 เดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7054/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมเอกสารราชการและการใช้เอกสารปลอม: ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265
จำเลยได้เพิ่มชื่อ อ.ลงในทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านแล้วได้มอบสำเนาทะเบียนบ้านดังกล่าวคืนให้เจ้าของเก็บรักษาไว้ยังมิได้อ้างและใช้เอกสารดังกล่าวแก่ผู้ใด จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานใช้เอกสารปลอม ในขณะที่จำเลยกระทำผิด ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งจำเลยเป็นผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอ และก่อนเกิดเหตุก็ไม่ปรากฎหลักฐานว่า นายอำเภอได้มอบหมายให้จำเลยเป็นผู้ช่วยนายทะเบียนอำเภอ จำเลยจึงยังไม่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจหน้าที่จึงไม่มีความผิดตามมาตรา 157,161 และ 162แต่จำเลยคงมีความผิดฐานปลอมเอกสารราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265