พบผลลัพธ์ทั้งหมด 208 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1768-1769/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเก็บเกี่ยวพืชผลหลังคดีขับไล่: ความรับผิดของผู้ให้เช่าต่อค่าเสียหาย
เจ้าของสวนฟ้องขับไล่ผู้เช่าศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่และศาลอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดี ผู้เช่าจึงต้องออกไป เจ้าของสวนได้เข้าไปเก็บพืชผลของผู้เช่าซึ่งเป็นไม้ล้มลุกและธัญชาติ ต่อมาศาลสูงพิพากษากลับให้ยกฟ้อง เจ้าของสวนย่อมต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531-1532/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ให้เช่าและการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ - ผู้เช่าไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าเพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามสัญญา
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์ จำเลยรับว่าได้เช่าห้องพิพาทนี้จากโจทก์ จำเลยจะเถียงสิทธิของผู้ให้เช่าว่าห้องพิพาทเป็นของผู้อื่น โจทก์ไม่มีอำนาจจะฟ้องดังนี้ย่อมเถียงไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1531-1532/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้ให้เช่า: การโต้แย้งกรรมสิทธิ์ห้องเช่าไม่ตัดสิทธิการฟ้องขอคืน
เมื่อโจทก์ฟ้องว่าจำเลยเช่าห้องของโจทก์ จำเลยรับว่าได้เช่าห้องพิพาทนี้จากโจทก์ จำเลยจะเถียงสิทธิของผู้ให้เช่าว่าห้องพิพาทเป็นของผู้อื่น โจทก์ไม่มีอำนาจจะฟ้องดังนี้ย่อมเถียงไม่ขึ้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1276/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาเช่า: สิทธิของผู้ให้เช่าเมื่อผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญา และผลของการไม่ยกเว้นข้อกฎหมาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาเช่าที่ดินโจทก์โฉนดเลขที่ 525ตำบลบางยี่เรืออำเภอธนบุรี เพื่อปลูกเรือนอาศัยอยู่ จำเลยผิดสัญญาค้างค่าเช่า 10 เดือนและให้เช่าช่วง โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาแล้ว ขอให้บังคับ
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ค้างค่าเช่าไม่ได้ให้เช่าช่วง และชั้นฎีกาจำเลยอ้างว่าแม้จำเลยจะมิได้ยก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ขึ้นต่อสู้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ก็ยังคุ้มครองจำเลยอยู่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาไม่ได้
ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้อ้างเอา พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯขึ้นต่อสู้คดีจำเลยก็ไม่มีทางจะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัตินั้น เพราะ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้นเพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้เช่าเป็นพิเศษที่จะอ้างเอาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาต่อสู้ตัดสิทธิมูลฐานของผู้ให้เช่าในกรณีเช่นนี้ได้เท่านั้น
ดังนั้นคดีตกเป็นกรณีเช่าสามัญตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตกเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์มีสิทธิบอกกล่าวล่วงหน้าเลิกสัญญากับจำเลยได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะได้ทำผิดสัญญาหรือไม่
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ค้างค่าเช่าไม่ได้ให้เช่าช่วง และชั้นฎีกาจำเลยอ้างว่าแม้จำเลยจะมิได้ยก พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ขึ้นต่อสู้พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ก็ยังคุ้มครองจำเลยอยู่ ฉะนั้นเมื่อจำเลยไม่ได้ทำผิดสัญญาเช่าโจทก์จะบอกเลิกสัญญาไม่ได้
ดังนี้เมื่อจำเลยมิได้อ้างเอา พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯขึ้นต่อสู้คดีจำเลยก็ไม่มีทางจะได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัตินั้น เพราะ พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ นั้นเพียงแต่ให้สิทธิแก่ผู้เช่าเป็นพิเศษที่จะอ้างเอาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาต่อสู้ตัดสิทธิมูลฐานของผู้ให้เช่าในกรณีเช่นนี้ได้เท่านั้น
ดังนั้นคดีตกเป็นกรณีเช่าสามัญตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตกเป็นการเช่าโดยไม่มีกำหนดเวลา โจทก์มีสิทธิบอกกล่าวล่วงหน้าเลิกสัญญากับจำเลยได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าจำเลยจะได้ทำผิดสัญญาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 921/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิของผู้ให้เช่าและการสิ้นสุดความคุ้มครองตามพรบ.ควบคุมค่าเช่าเมื่อมีการอนุมัติให้เข้าอยู่
พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าตลอดจนกฎกระทรวงมหาดไทยซึ่งออกตามความแห่งพระราชบัญญัตินี้มิได้บังคับให้ต้องสอบสวนผู้เช่าในกรณีที่ผู้ให้เช่าขอเข้าอยู่ในห้องเช่าการสอบสวนในที่นี้ก็คือสอบสวนความจำเป็นของผู้ให้เช่าที่จะต้องเข้าอยู่ในห้องของตนที่ให้เช่าโดยเฉพาะไม่เกี่ยวกับความจำเป็นของผู้เช่าฉะนั้นเมื่อคณะกรรมการสอบสวนผู้ให้เช่าแล้วลงมติไปโดยมิได้สอบสวนผู้เช่าเลยเช่นนี้จึงเป็นการชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯ อย่างใดเมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯ ลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิตามมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตามไปก็ตามผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ต่อไปไม่ได้ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯ ใหม่มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องขอต่อศาล
ผู้ให้เช่าจะร้องเท็จหรือปิดบังคณะกรรมการฯ เกี่ยวกับเรื่องขอเข้าอยู่ในห้องเช่าอย่างใดนั้นมิได้เกี่ยวข้องกับกรรมการฯ อย่างใดเมื่อคณะกรรมการได้ลงมติไปตามอำนาจหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมายแล้วผู้เช่าจะอ้างเรื่องร้องเท็จนั้นมาทำลายมติของคณะกรรมการฯ ไม่ได้
ผู้ให้เช่าจะเข้าอยู่ในห้องเช่าต้องขอมติคณะกรรมการเมื่อคณะกรรมการฯ ลงมติให้ความยินยอมแก่ผู้ให้เช่าแล้วผู้เช่าก็ไม่ได้รับความคุ้มครองจากพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯต่อไป (พอได้รับมติผู้ให้เช่าก็ใช้สิทธิตามมติผู้เช่าไม่ยอมออก ผู้ให้เช่า จึงฟ้องขับไล่จำเลยโดยอ้างมติคณะกรรมการฯ ผู้ให้เช่าตายลงระหว่างพิจารณาก่อนได้เข้าอยู่ในห้องเช่า) แม้ผู้ให้เช่าจะยังอยู่หรือตามไปก็ตามผู้เช่าจะอ้างความคุ้มครองตาม พระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่าฯ ต่อไปไม่ได้ภรรยาของผู้ให้เช่าจำเลยร่วมจึงไม่จำเป็นต้องร้องขอความยินยอมจากคณะกรรมการฯ ใหม่มติของคณะกรรมการฯ ในกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับสิทธิเฉพาะตัวของผู้ให้เช่า
ผู้ใดมีส่วนได้เสียตามกฎหมาย ในผลแห่งคดีใด อาจเข้ามาเป็นคู่ความได้ด้วยการร้องสอดโดยยื่นคำร้องขอต่อศาล
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 676-689/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการฟ้องขับไล่ของผู้เช่าและการเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้ให้เช่า
โจทก์เช่าตึกจากสำนักงานทรัพย์สินฯ แล้วเข้าครอบครองทรัพย์ที่เช่าไม่ได้โดยมีผู้รบกวนขัดสิทธิ์ โจทก์ชอบที่จะขอให้ศาลเรียกผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมด้วยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 477 และ 549 แต่มีสิทธิที่จะฟ้องขับไล่โดยลำพังไม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกมาแล้ว ถ้ามิได้โต้แย้งไว้แต่แรกจะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สินฯผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำต้องยื่นฟ้องใหม่
ค่าธรรมเนียมที่ศาลชั้นต้นเรียกมาแล้ว ถ้ามิได้โต้แย้งไว้แต่แรกจะมาคัดค้านในชั้นศาลฎีกา ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัยให้
เมื่อสำนักงานทรัพย์สินฯผู้ให้เช่าถูกหมายเรียกเข้ามาเป็นโจทก์ร่วมย่อมมีสิทธิดำเนินคดีในฐานะเป็นโจทก์ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนแล้วก็ไม่จำต้องยื่นฟ้องใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516-520/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิและหน้าที่จากการเช่าทรัพย์สิน ผู้รับโอนไม่จำต้องแจ้งการโอน
ผู้รับโอนทรัพย์สินซึ่งมีผู้อื่นเช่าอยู่ ย่อมรับโอนไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งเป็นผู้ให้เช่า การโอนเช่นนี้ไม่เป็นกรณีต้องด้วย ม.306
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญา
การที่ผู้ให้เช่าต่อสู้ว่าผู้เช่าทำผิดสัญญาโดยให้ผู้อื่นเช่าช่วงแต่ผู้เช่าปฏิเสธความข้อนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังสมข้างผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าก็ย่อมมีสิทธิเลิกสัญญากับผู้เช่าได้
ข้อความในสัญญาระบุว่า "ผู้เช่าจะไม่เอาตึกรายนี้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโอนไปให้ผู้อื่นเช่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร" เมื่อปรากฏว่าผู้เช่ามิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ดังนี้จะถือว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าช่วงหาได้ไม่
ข้อความในสัญญาระบุว่า "ผู้เช่าจะไม่เอาตึกรายนี้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโอนไปให้ผู้อื่นเช่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร" เมื่อปรากฏว่าผู้เช่ามิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ดังนี้จะถือว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าช่วงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1427/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเช่าช่วงโดยไม่ได้รับอนุญาตของผู้ให้เช่าเป็นเหตุให้ผู้ให้เช่ามีสิทธิเลิกสัญญา
การที่ผู้ให้เช่าต่อสู้ว่าผู้เช่าทำผิดสัญญาโดยให้ผู้อื่นเช่าช่วงแต่ผู้เช่าปฏิเสธความข้อนี้ เมื่อข้อเท็จจริงฟังสมข้างผู้ให้เช่า ผู้ให้เช่าก็ย่อมมีสิทธิเลิกสัญญากับผู้เช่าได้
ข้อความในสัญญาระบุว่า "ผู้เช่าจะไม่เอาตึกรายนี้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโอนไปให้ผู้อื่นเช่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร" เมื่อปรากฏว่าผู้เช่ามิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ดังนี้จะถือว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าช่วงหาได้ไม่
ข้อความในสัญญาระบุว่า "ผู้เช่าจะไม่เอาตึกรายนี้ส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดโอนไปให้ผู้อื่นเช่าเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าเป็นลายลักษณ์อักษร" เมื่อปรากฏว่าผู้เช่ามิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่า ดังนี้จะถือว่าผู้ให้เช่ายินยอมให้ผู้เช่าเช่าช่วงหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเช่าต้องอ้างอิงกรรมสิทธิที่แท้จริงของผู้ให้เช่า หากผู้ให้เช่าไม่มีกรรมสิทธิ สัญญาเช่าย่อมเป็นโมฆะ
เมื่อฟ้องของโจทก์ยืนยันว่าโจทก์เป็นเจ้าของนาพิพาทหาได้กล่าวอ้างถึงสิทธิอื่นใดเหนือที่พิพาทขึ้นสนับสนุนอีกไม่ เมื่อโจทก์ยอมรับว่าที่พิพาทนั้นไม่ใช่ของโจทก์เป็นของกรมชลประทานโดยเจ้าของเดิมแบ่งยกให้กรมชลประทานไปแล้วก่อนโอนขายให้โจทก์ ดังนี้ตามฟ้องและคำรับของโจทก์ย่อมแสดงว่าโจทก์ไม่มีสิทธิใด ๆ เหนือที่พิพาททั้งสิ้น (รวมทั้งสิทธิให้เช่า) เมื่อตนไม่มีสิทธิใด ๆ แล้ว จะอ้างว่าสัญญาเช่าปิดปากผู้เช่ามิให้โต้เถียงสิทธิของผู้ให้เช่านั้นก็ไม่ได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2498)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 27/2498)