คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยักยอก

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 437 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1631/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายเพชรแบบเสนอขายเผื่อชอบ ไม่ถือเป็นการยักยอก หากเพชรสูญหายหรือไม่ได้ชำระราคาสามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้
การที่ผู้เสียหายกับจำเลยตกลงกันว่า ให้จำเลยเก็บเพชรไว้ดูก่อน จำเลยจะซื้อเพชรที่เข้ากับตัวเรือนได้และจะคืนเพชรที่ใช้ไม่ได้แก่ผู้เสียหายใน 1 สัปดาห์ เป็นการเสนอขายเผื่อชอบ เมื่อเพชรรายการหนึ่งหายไปและจำเลยไม่ชำระราคาเพชรรายการนี้ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปฟ้องร้องกันในทางแพ่ง จำเลยไม่มีความผิดฐานยักยอก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6007/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิของผู้เช่าซื้อและทายาทในการครอบครองรถยนต์ที่เช่าซื้อ และการแจ้งความร้องทุกข์ภายในอายุความ
แม้กรรมสิทธิ์ในรถยนต์ที่เช่าซื้อยังอยู่กับผู้ให้เช่าซื้อ แต่ผู้เช่าซื้อย่อมมีสิทธิครอบครองใช้ประโยชน์จากรถยนต์ที่เช่าซื้อนั้นและมีหน้าที่ต้องส่งคืนรถยนต์ที่เช่าซื้อในสภาพเรียบร้อยแก่ผู้ให้เช่าซื้อหากมีกรณีต้องคืน เมื่อบุตรโจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม สิทธิและหน้าที่ดังกล่าวย่อมตก ทอดมายังโจทก์ในฐานะทายาทคนหนึ่ง เมื่อจำเลยได้ยักยอกทรัพย์นั้นไปจากโจทก์ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย จึงเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์มอบรถยนต์คันพิพาทให้จำเลยซ่อมเป็นเวลานานถึง 8 เดือนเศษ จำเลยไม่ได้แจ้งราคาค่าซ่อมให้โจทก์ทราบโจทก์น่าจะทราบได้ในขณะนั้นหรือช่วงเวลานั้นแล้วว่าจำเลยเบียดบังเอารถยนต์คันพิพาทเป็นของตนเอง โจทก์นำคดีมาฟ้องเกินระยะเวลา 3 เดือนพ้นกำหนดอายุความ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5547/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเช่าซื้อผิดสัญญา ไม่เบียดบังยักยอก - การกระทำเป็นเพียงผิดสัญญาแพ่ง ไม่ถึงความผิดอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยเช่าซื้อรถไปจากผู้เสียหาย ต่อมาจำเลยผิดสัญญา ผู้เสียหายจึงบอกเลิกสัญญาและให้จำเลยส่งรถคืน แต่จำเลยกลับเบียดบังยักยอกรถดังกล่าวเป็นของจำเลยโดยไม่ส่งคืน แก่ผู้เสียหายและพารถหลบหนีไปเป็นประโยชน์ของตนโดยทุจริต การกระทำของจำเลยตามคำฟ้องไม่เพียงพอที่จะถือว่าเป็นการเบียดบัง รถของผู้เสียหายเป็นของจำเลยโดยทุจริตอันเป็นความผิดฐานยักยอก หากแต่เป็นเพียงการกระทำที่แสดงถึงการผิดสัญญาในทางแพ่งเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3724/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้จัดการต่อความเสียหายจากพนักงานยักยอกสินค้า
การที่สินค้าของโจทก์ขาดหายไปนั้น แม้จะเป็นเพราะพนักงานของโจทก์ยักยอกเอาไป แต่ก็เป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการของโจทก์ ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์อย่างเคร่งครัดตามสมควร โดยมิได้จัดวางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้รัดกุมและมิได้ตรวจตรา ดู แล เจ้าหน้าที่ใต้ บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงานโดยซื่อสัตย์ สุจริต ตลอดจนมิได้ตรวจสอบสินค้าของโจทก์โดยสม่ำเสมอ เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานของโจทก์ยักยอกสินค้าของโจทก์ไปอันเป็นการกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนเป็นผู้กระทำละเมิดต่อโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 420.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3724/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของผู้จัดการต่อความเสียหายจากพฤติกรรมยักยอกของพนักงาน
การที่สินค้าของโจทก์ขาดหายไปนั้น แม้จะเป็นเพราะพนักงานของโจทก์ยักยอกเอาไป แต่ก็เป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้จัดการของโจทก์ ไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของสหกรณ์โจทก์อย่างเคร่งครัดตามสมควร โดยมิได้จัดวางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ให้รัดกุมและมิได้ตรวจตราดูแลเจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชาให้ปฏิบัติงานโดยซื่อสัตย์สุจริต ตลอดจนมิได้ตรวจสอบสินค้าของโจทก์โดยสม่ำเสมอ เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานของโจทก์ยักยอกสินค้าของโจทก์ไป อันเป็นการกระทำต่อโจทก์โดยผิดกฎหมาย ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนเป็นผู้กระทำละเมิดต่อโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1250/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยืมใช้สิ้นเปลือง: กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ยืมตกเป็นของผู้ยืม การไม่คืนจึงไม่เป็นความผิดฐานยักยอก
จำเลยเอาน้ำมันดีเซลไปจากโจทก์ 4 ครั้งรวมจำนวน 5,026.45 ลิตรคิดราคาเป็นเงิน 35,738.06 บาท โดยสัญญาว่าจะนำมาคืนให้ภายในเวลาที่กำหนด เป็นเรื่องการยืมใช้สิ้นเปลืองในทางแพ่งกรรมสิทธิ์ในน้ำมันเป็นของจำเลยแล้ว แม้จำเลยไม่คืนให้ตามกำหนด การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3468/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ถูกยักยอก การโต้แย้งดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานเป็นปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ร่วมมิได้เข้าเกี่ยวข้องกับการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตร แต่องค์การตลาดเพื่อการเกษตรเป็นผู้ซื้อข้าวเปลือกและชำระราคาเอง โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกที่รับซื้อ โจทก์ร่วมอุทธรณ์โดยอ้างเป็นข้อกฎหมายว่าตามคำฟ้องมิได้เกี่ยวข้องกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรและพยานโจทก์ก็เบิกความว่าจำเลยเอาข้าวเปลือกของโจทก์ร่วมไปขายแล้วยักยอกเอาเงินที่ขายได้ไป ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมได้เข้าร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรรับซื้อข้าวเปลือกหรือไม่ ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเป็นการมุ่งประสงค์ที่จะไม่ให้ศาลชั้นต้นรับฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนเพื่อที่จะให้ศาลฟังว่าโจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกพิพาทอันเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงมิใช่ข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3468/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: การพิสูจน์กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหายักยอกเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่ข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ร่วมมิได้เข้าเกี่ยวข้องกับการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรแต่องค์การตลาดเพื่อการเกษตรเป็นผู้ซื้อข้าวเปลือกและชำระราคาเอง โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกที่รับซื้อ โจทก์ร่วมอุทธรณ์โดยอ้างเป็นข้อกฎหมายว่าตามคำฟ้องมิได้เกี่ยวข้องกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรและพยานโจทก์ก็เบิกความว่าจำเลยเอาข้าวเปลือกของโจทก์ร่วม ไปขายแล้วยักยอกเอาเงินที่ขายได้ไป ศาลจึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ร่วมได้เข้าร่วมกับองค์การตลาดเพื่อการเกษตรรับซื้อข้าวเปลือกหรือไม่ ดังนี้ อุทธรณ์ของโจทก์ร่วมเป็นการมุ่งประสงค์ที่จะไม่ให้ศาลชั้นต้นรับฟังข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏจากพยานหลักฐานในสำนวนเพื่อที่จะให้ศาลฟังว่าโจทก์ร่วมมีกรรมสิทธิ์ในข้าวเปลือกพิพาทอันเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน จึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงมิใช่ข้อกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเบิกจ่ายเงินค่าใช้สอยและกรรมสิทธิ์ในเงิน กรณีไม่มีข้อกำหนดการใช้จ่ายชัดเจน ไม่ถือเป็นยักยอก
เงินค่าใช้สอยที่จำเลยเบิกไปจากโจทก์ จำเลยมีสิทธิครอบครองใช้จ่ายได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องขออนุมัติจากโจทก์ ทั้งโจทก์มิได้กำหนดการจ่ายไว้เป็นที่แน่นอน สุดแล้วแต่จำเลยจะเห็นสมควรใช้จ่ายอย่างใด แล้วนำหลักฐานมาหักหนี้ในทางบัญชีกับโจทก์ในภายหลัง กรรมสิทธิ์ในเงินดังกล่าวจึงตกเป็นของจำเลยตั้งแต่ขณะที่ได้รับไปจากโจทก์ หาใช่จำเลยครอบครองเงินดังกล่าวไว้แทนโจทก์ หากจำเลยไม่มีหลักฐานมาหักหนี้หรือมีเงินเหลือแล้วไม่ส่งคืน โจทก์ชอบที่จะเรียกร้องทางแพ่งเอาแก่จำเลย กรณีไม่มีมูลเป็นความผิดทางอาญาฐานยักยอก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2975/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในเงินค่าใช้สอยล่วงหน้า: การเบิกจ่ายโดยไม่มีเงื่อนไขผูกพัน ไม่ถือเป็นการยักยอก
จำเลยเป็นผู้จัดการฝ่ายส่งออกของโจทก์ได้เบิกเงินค่าใช้สอยล่วงหน้าเป็นค่าเดินทางไปติดต่อธุรกิจต่างประเทศจากโจทก์รวม56ครั้งเงินที่เบิกไปนี้จำเลยมีสิทธิครอบครองใช้จ่ายได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องขออนุมัติจากโจทก์ทั้งโจทก์มิได้กำหนดการจ่ายไว้เป็นที่แน่นอนสุดแล้วแต่จำเลยจะเห็นสมควรใช้จ่ายอย่างใดแล้วนำหลักฐานมาหักหนี้ในทางบัญชีกับโจทก์ในภายหลังกรรมสิทธิ์ในเงินดังกล่าวจึงตกเป็นของจำเลยตั้งแต่ขณะที่ได้รับไปจากโจทก์หาใช่จำเลยครอบครองเงินดังกล่าวไว้แทนโจทก์ไม่ดังนั้นแม้ต่อมาจำเลยออกจากบริษัทโจทก์และส่งหลักฐานการใช้จ่ายเบิกเงินล่วงหน้าได้เพียงบางส่วนเงินที่เหลือไม่มีหลักฐานมาแสดงก็ตามโจทก์ก็ชอบที่จะเรียกร้องทางแพ่งเอาแก่จำเลยกรณีไม่มีมูลความผิดทางอาญาฐานยักยอก.
of 44