คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ยาเสพติด

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,473 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8335/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่ายในระหว่างเปลี่ยนเครื่องบินที่สนามบินไทย ถือเป็นความผิดในราชอาณาจักร
จำเลยมี 3,4 - เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน อันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยเมื่อจำเลยลงจากเครื่องบินของสายการบินที่จำเลยโดยสารมาจากเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อเปลี่ยนเครื่องบินไปยังเมืองไทเป ดินแดนไต้หวัน ขณะจำเลยเดินผ่านห้องผู้โดยสารขาออกของท่าอากาศยานกรุงเทพ จำเลยจึงเข้ามาในราชอาณาจักรไทยแล้ว เมื่อจำเลยมียาเสพติดให้โทษดังกล่าวไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งตามกฎหมายไทยบัญญัติว่าเป็นความผิด จำเลยจึงเป็นผู้กระทำความผิดในราชอาณาจักร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 827/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดฐานครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดเป็นคนละกรรม
ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 5)ฯ ที่แก้ไขใหม่ มาตรา 66 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดที่แยกการกระทำออกจากกันได้ กล่าวคือ ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้นเป็นความผิดอาศัยเจตนาพิเศษโดยเป็นความผิดสำเร็จเมื่อจำเลยมีเจตนารับเอาเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อนำไปจำหน่ายกรรมหนึ่งแล้ว ส่วนความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเป็นความผิดสำเร็จในตอนหลัง เป็นอีกกรรมหนึ่งต่างหาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8183/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งเบาะแสแหล่งยาเสพติดที่ไม่นำไปสู่ผลพิสูจน์ ไม่ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปราม
แม้จำเลยจะแจ้งข้อเท็จจริงว่าซื้อเมทแอมเฟตามีนมาจาก ต. ไม่ทราบนามสกุลซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นซามิโก้ สีตองอ่อน แต่เมื่อตำรวจขอให้จำเลยพาไปหา ต. จำเลยกลับไม่ยินยอม เนื่องจากไม่ต้องการสร้างศัตรู ดังนี้ ข้อกล่าวอ้างของจำเลยดังกล่าวจึงเลื่อนลอย เพราะยังไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ จึงไม่อาจถือได้ว่าเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8176/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษเจ้าพนักงานกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด: ขอบเขตการเพิ่มโทษสามเท่าจำกัดเฉพาะความผิดด้านการผลิต-จำหน่าย
ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 3 และมาตรา 10 บัญญัติให้ระวางโทษผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นเจ้าพนักงานเป็นสามเท่าของโทษกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทางด้านการผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเท่านั้น หาได้หมายความรวมถึงความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองด้วยไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8005/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 และ 2 ผสมกัน และประเภท 1 อย่างเดียว ถือเป็นความผิดหลายกรรม ต้องเรียงกระทงลงโทษ
ยาเสพติดให้โทษของกลางจำนวนแรกเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) ผสมกับยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) จำเลยจึงมีเจตนาครอบครองยาเสพติดใด้โทษรวมกันไปไม่อาจแบ่งแยกออกจากกันได้ เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ส่วนของกลางจำนวนที่ 2 และที่ 3 ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนแบบเกล็ด) และ (3, 4-เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน) ที่จำเลยมีไว้ในครอบครองอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ด้วยกัน เป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายบทเดียวกันจึงเป็นกรรมเดียว
การที่จำเลยมียาเสพติดให้โทษจำนวนแรกและจำนวนที่ 2 และที่ 3 ไว้ในครอบครองเป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมายคนละบท การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต้องเรียงกระทงลงโทษ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทฯ กรรมเดียวไม่ถูกต้อง ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง แต่โจทก์มิได้ฎีกาโต้แย้งศาลฎีกาจึงไม่อาจลงโทษจำเลยฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 อีกกระทงหนึ่งได้เนื่องจากเป็นการเพิ่มเติมโทษ ต้องห้ามตาม ป.วิ.อ. มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 788/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายกับจำหน่ายยาเสพติด แม้เป็นส่วนหนึ่งของยาเสพติดชุดเดียวกัน ก็ถือเป็นคนละกรรม
หลังจากจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนให้แก่สายลับที่เข้าไปล่อซื้อจากจำเลยแล้ว 2 เม็ด เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าตรวจตัวจำเลยได้เมทแอมเฟตามีนอีก 95 เม็ด แสดงว่าเมื่อจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ไปแล้ว จำเลยยังมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองอีก 95 เม็ด ดังนั้น จำเลยจึงมีเมทแอมเฟตามีนไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย 97 เม็ด ถึงแม้เมทแอมเฟตามีน 2 เม็ด ที่จำเลยจำหน่ายให้แก่สายลับจะเป็นส่วนหนึ่งของเมทแอมเฟตามีนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยก็แยกได้เป็นสองกรรมต่างหากจากกันเพราะการมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนเป็นความผิดที่มีเจตนาในการกระทำผิดแตกต่างแยกจากกันได้ การกระทำความผิดของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7865/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผลิตยาเสพติดโดยการแบ่งบรรจุเพื่อจำหน่าย และการริบทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง
ในชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพต่อพันตำรวจตรี ส. พนักงานสอบสวนว่า เมทแอมเฟตามีนของกลางที่เจ้าพนักงานตำรวจยึดได้เป็นของจำเลยทั้งสองที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยซื้อมาจาก ธ. ซึ่งเป็นผู้ที่จำเลยทั้งสองระบุชื่อและที่อยู่ไว้ แม้ตามคำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 เป็นเสมือนคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำความผิดด้วยกัน แต่คำซัดทอดดังกล่าวมิได้เป็นเรื่องการปัดความผิดของจำเลยที่ 1 ให้เป็นความผิดของจำเลยที่ 2 เพียงผู้เดียว โดยจำเลยที่ 1 คงให้การแจ้งเรื่องราวความเป็นมาของการกระทำความผิดของตนยิ่งกว่าเป็นการปรักปรำจำเลยที่ 2 จึงรับฟังประกอบคำเบิกความพยานโจทก์และพยานหลักฐานอื่นของโจทก์ได้
การที่จำเลยทั้งสองที่ร่วมกันแบ่งเมทแอมเฟตามีนของกลางใส่ในหลอดเครื่องดื่มถือว่าเป็นการผลิตตามบทนิยามในมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ และเมื่อเมทแอมเฟตามีนของกลางที่จำเลยทั้งสองร่วมกันผลิตเป็นเมทแอมเฟตามีนที่มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการผลิตโดยการแบ่งบรรจุเพื่อจำหน่ายเป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษบทหนักฐานร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนโดยการแบ่งบรรจุเพื่อจำหน่าย เมทแอมเฟตามีนของกลางมีน้ำหนักเพียง 4.86 กรัม เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 65 วรรคท้าย
เทียนไข ไฟแช็ก กรรไกร หลอดเครื่องดื่ม และถุงพลาสติกของกลางนั้น ตามบันทึกการตรวจค้นจับกุมระบุว่าวางอยู่ใกล้เมทแอมเฟตามีนของกลางที่จำเลยทั้งสองกำลังแบ่งบรรจุ ซึ่งจำเลยทั้งสองก็ได้ลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องเกี่ยวกับทรัพย์ดังกล่าวไว้ทั้งจำเลยที่ 1 รับว่า ทรัพย์ดังกล่าวใช้สำหรับการบรรจุเมทแอมเฟตามีน ประกอบกับไฟแช็กและกรรไกรของกลางโดยสภาพสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนได้ ทรัพย์ของกลางเหล่านั้นจึงเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสองที่ต้องริบเสียทั้งสิ้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7734/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษคดียาเสพติดเมทแอมเฟตามีน จำเป็นต้องระบุปริมาณสารบริสุทธิ์เพื่อใช้บทลงโทษที่ถูกต้อง
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ 66 วรรคหนึ่ง (ที่แก้ไขใหม่) บัญญัติว่า ผู้ใดมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งเมทแอมเฟตามีน โดยไม่ได้รับอนุญาตและปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ถึงสามร้อยเจ็ดสิบห้ามิลลิกรัม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงสิบห้าปีหรือปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 66 วรรคสาม (ที่แก้ไขใหม่) บัญญัติว่า ถ้าเมทแอมเฟตามีนตามวรรคหนึ่งมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกินยี่สิบกรัมขึ้นไป ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท หรือประหารชีวิต เมื่อฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏว่าเมทแอมเฟตามีนจำนวน 2,220 เม็ด ของกลางมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้เท่าใดจึงไม่อาจฟังว่า เมทแอมเฟตามีนของกลางมีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์เกิน 20 กรัม อันเป็นโทษแก่จำเลยได้จึงลงโทษจำเลยได้ตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7726/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดโทษจำเลยในคดียาเสพติด: ข้อมูลเบาะแสไม่เพียงพอต่อการลดโทษขั้นต่ำ และการใช้ดุลพินิจลดโทษที่เหมาะสม
จำเลยให้การในชั้นสอบสวนว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดให้โทษของกลางจาก จ. จากประเทศสหภาพพม่าเพื่อนำไปส่งที่จังหวัดจันทบุรี และจำเลยให้หมายเลขโทรศัพท์ของ จ. กับนำพนักงานสอบสวนไปชี้บ้านของ จ. ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยจำเลยได้บอกตำหนิรูปพรรณของ จ. แก่พนักงานสอบสวนด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ปรากฏว่า จ. ที่จำเลยอ้างนั้นจะมีตัวตนจริงหรือไม่ และเจ้าพนักงานตำรวจได้มีการขยายผลจับกุม จ. ได้หรือไม่อย่างใด อันจะเป็นการสนับสนุนข้ออ้างของจำเลยให้เป็นความจริง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าคำให้การของจำเลยดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่สำคัญ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อเจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานสอบสวน ย่อมไม่อาจลงโทษจำเลยน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 100/2 ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7681/2547

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การจำหน่ายยาเสพติดสำเร็จ แม้ยังไม่ชำระเงิน การกระทำตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 4 บัญญัตินิยามคำว่า "จำหน่าย" หมายความว่า ขาย จ่าย แจก แลกเปลี่ยน ให้ จำเลยที่ 1 ตกลงจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนแก่ ส. โดยระบุจำนวน ราคาแน่นอน กับกำหนดเวลาและสถานที่ส่งมอบกันแล้ว และจำเลยที่ 1 ได้ส่งถุงบรรจุเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวแก่ ส. ถือว่าความผิดข้อหาจำหน่ายสำเร็จแล้ว แม้จะยังมิได้ชำระราคาก็ตาม
of 148