พบผลลัพธ์ทั้งหมด 192 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการกระทำผิดอาญา: การร้องบอกให้ผู้อื่นยิงเป็นการร่วมกระทำผิด
ขณะที่จำเลยที่ 1 กำลังยื้อแย่งปืนกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ได้ร้องบอกจำเลยที่ 2 ว่า เทยิง ๆ นายเทจำเลยที่ 2 ก็ได้ใช้ปืนยิงผู้ตาย การที่จำเลยที่ 1 ร้องบอกให้จำเลยที่ 2 ยิงผู้ตายเช่นนี้เป็นการร้องบอกให้ช่วยกันทำร้ายผู้ตายตามมูลกรณีที่จำเลยที่ 1 มีต่อผู้ตาย การที่จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงผู้ตายก็เป็นการแสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองจึงเป็นตัวการด้วยกัน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 883/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาในการร่วมกระทำผิด: การร้องบอกให้ผู้อื่นยิงถือเป็นเจตนาในการร่วมกระทำความผิดด้วย
ขณะที่จำเลยที่ 1 กำลังยื้อแย่งปืนกับผู้ตาย จำเลยที่ 1 ได้ร้องบอกจำเลยที่ 2 ว่า เทยิงๆ นายเทจำเลยที่ 2 ก็ได้ใช้ปืนยิงผู้ตาย การที่จำเลยที่ 1 ร้องบอกให้จำเลยที่ 2 ยิงผู้ตายเช่นนี้ เป็นการร้องบอกให้ช่วยกันทำร้ายผู้ตายตามมูลกรณีที่จำเลยที่ 1 มีต่อผู้ตาย การที่จำเลยที่ 2 ได้ใช้ปืนยิงผู้ตายก็เป็นการแสดงว่า จำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองจึงเป็นตัวการด้วยกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินขนาด: ศาลลดโทษจำเลยที่ยิงผู้ตายขณะหลบหนี แม้ผู้ตายมีอาวุธ
จำเลยกับพวกเจ้าทรัพย์ติดตามเรือที่ถูกขโมยไป ไปพบผู้ตายกับพวกอยู่ใกล้ๆ กับเรือที่ถูกลักนั้นผู้ตายใช้ปืนลูกกรดยิงจำเลยแต่ไม่ถูก จำเลยยิงผู้ตายข้างหลัง1 นัด การที่จำเลยยิงผู้ตายเมื่อผู้ตายหนีจากเรือไป 12 วา ปืนที่ผู้ตายใช้ยิงเป็นปืนลูกกรด เป็นการกระทำเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 69
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประมาทต้องมีเหตุเฉพาะเจาะจง การถือปืนเตรียมยิงไม่ใช่ความประมาท
การบรรยายข้อเท็จจริงในฟ้องที่ไม่แสดงว่าจำเลยทำให้ปืนลั่นถูกผู้ตายโดยประมาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1476/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรง ศาลพิพากษายืนตามโทษเดิม
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายด้านหลังในระยะห่างประมาณ 1 วา ยิงไปที่สบักซ้ายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1476/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการยิงด้วยอาวุธร้ายแรง: การพิจารณาจากระยะ, ตำแหน่งที่ยิง, และอาวุธที่ใช้
จำเลยใช้ปืนยิงผู้เสียหายด้านหลังในระยะห่างประมาณ 1 วา ยิงไปที่สบักซ้ายซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย ย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยิงผู้ตายด้วยความบันดาลโทสะจากพฤติกรรมยั่วยุของบุตรเขย ศาลลดโทษตามมาตรา 72
ผู้ตายเป็นลูกเขย ได้เอาปืนของจำเลยซึ่งเป็นพ่อตามายิงเล่น จำเลยต่อว่าผู้ตายโต้เถียง แล้วยิงปืนมาจากในเรือน 2 นัด นัดหลังไปโดนเสาไม้ซึ่งจำเลยนั่งแอบอยู่สะเก็ดไม้กระเด็นไปถูกคิ้วจำเลยแตก จำเลยเข้าไปหยิบปืนในครัวมายิงผู้ตายขณะผู้ตายหันหลังลงบันไดเรือน นับได้ว่าจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นเหตุให้จำเลยบันดาลโทสะ การกระทำของจำเลยต่อเนื่องมาจากการที่จำเลยถูกยั่วโทสะจำเลยควรได้รับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดของจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ตำรวจยิงผู้ต้องสงสัยกบฎ: ไม่ได้รับยกเว้นโทษฐานฆ่าคนตาย
เจ้าพนักงานตำรวจยิงผู้ตาย ซึ่งถูกสงสัยว่าจะมีส่วนร่วมกับการกบฎยึดวังหลวง (26 ก.พ. 2492) ขณะอยู่กับบ้านตามปกติ ไม่มีพฤติการณ์แสดงว่าผู้ตายต่อสู้ขัดขวางการตรวจค้น และการเชิญไปสอบสวนแล้ว ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นการกระทำอันเกี่ยวเนื่องจากการป้องกัน ระงับหรือปราบปรามการกบฎอันจะได้รับยกเว้นโทษตาม พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในโอกาส 25 พุทธศตวรรษ พ.ศ. 2499มาตรา 4 ตำรวจผู้ยิงผู้ตายตายย่อมมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 111/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการริบอาวุธปืน: การยิงเพื่อป้องกันชีวิตจากมีด และการครอบครองอาวุธปืนเถื่อน
จำเลยยิงขณะผู้เสียหายยกมีดจะฟังจำเลยมีดนั้นขนาดใหญ่ ถ้าฟันได้อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิติจำเลยยิงนัดเดียว ดังนี้ เป็นการป้องกันชีวิตจำเลยพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าตนโดยใช้ปืนยิง ขอให้ลงโทษเฉพาะฐานพยายามฆ่าและขอให้สั่งริบปืน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด แต่ปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานอนุญาตให้มีได้นั้น เป็นของร้ายอยู่ในตัว ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงเป็นของที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
ประชุมใหญ่ ครั้ง 1/2504
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยพยายามฆ่าตนโดยใช้ปืนยิง ขอให้ลงโทษเฉพาะฐานพยายามฆ่าและขอให้สั่งริบปืน ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด แต่ปืนที่ไม่มีเครื่องหมายของเจ้าพนักงานอนุญาตให้มีได้นั้น เป็นของร้ายอยู่ในตัว ผู้ใดมีไว้เป็นความผิด จึงเป็นของที่ต้องริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32
ประชุมใหญ่ ครั้ง 1/2504
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าจากการใช้ปืนยิง แม้ผลไม่ถึงตาย ถือเป็นความพยายามฆ่า
พยานซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์แล้ว ตามกฎหมายย่อมอ้างเป็นพยานหลักฐานได้ ส่วนการที่จะเชื่อหรือไม่เพียงใด ย่อมสุดแต่พยานหลักฐานนั้น ๆ ฉะนั้น ถึงแม้จะไม่มีผู้เสียหายมาสืบโดยหาตัวไม่พบก็ตาม พยานอื่นที่รู้เห็นจริง ก็ฟังได้
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นซึ่งเป็นอาวุธทำให้ถึงตายได้ ยิงคนถูกที่หน้าท้อง ย่อมต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า เมื่อมีเจตนาฆ่าแล้ว แม้ผลที่เกิดขึ้นไม่ตายสมเจตนา จำเลยก็ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน หาใช่ฐานทำร้ายร่างกายไม่
การที่จำเลยใช้ปืนสั้นซึ่งเป็นอาวุธทำให้ถึงตายได้ ยิงคนถูกที่หน้าท้อง ย่อมต้องถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า เมื่อมีเจตนาฆ่าแล้ว แม้ผลที่เกิดขึ้นไม่ตายสมเจตนา จำเลยก็ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าคน หาใช่ฐานทำร้ายร่างกายไม่