คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
รับสารภาพ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 559 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 94/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิพากษาลงโทษคดีจำหน่ายยาเสพติด จำเป็นต้องมีการสืบพยานแม้จำเลยรับสารภาพ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อขายและขาย เมทแอมเฟตามีนอันเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท2ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทพ.ศ.2518มาตรา13ทวิ,62,89,106ทวิซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาทเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพศาลต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา176วรรคหนึ่งแม้จำเลยมีอายุ16ปีเศษและถ้าศาลเห็นว่าสมควรพิพากษาลงโทษก็ให้ลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดลงกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา75ก็ตามก็ยังคงเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องสืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 913/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับฟังพยานหลังจำเลยรับสารภาพ, ปัญหาข้อเท็จจริงสำคัญที่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัย
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 277วรรคสาม มีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิต แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพ ศาลก็ยังต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 176 วรรคแรก ข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่จึงยังไม่ยุติ เมื่อจำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยกระทำชำเราโดยมิได้ใช้อาวุธ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยในปัญหานี้ คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จึงไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหานี้โดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในปัญหาดังกล่าวอีกได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7775/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพเฉพาะข้อหาเบา ศาลต้องลงโทษตามที่รับสารภาพ แม้ข้อหาหนักกว่าจะมีอยู่
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 188, 335,357 จำเลยให้การรับสารภาพฐานรับของโจร อันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา357 วรรคหนึ่ง ซึ่งมีโทษเบากว่า ป.อ. มาตรา 188 ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าจำเลยมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 357 วรรคหนึ่งเท่านั้น ศาลจะลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 188 ไม่ได้ เพราะจำเลยไม่ได้ให้การรับสารภาพตามข้อหาดังกล่าว ปัญหานี้แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยเองได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสองประกอบมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5092/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์โดยใช้กำลังข่มขู่, การรับสารภาพหลังสืบพยาน, ดุลพินิจลดโทษ
จำเลยชวนผู้เสียหายไปร่วมหลับนอน จากนั้นทำร้ายร่างกายผูกปาก มัดผู้เสียหาย แล้วชิงเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปเป็นจำนวนมาก ชั้นพิจารณาโจทก์มีพยานหลักฐานมั่นคงแน่นหนา เชื่อว่า จำเลยให้การรับสารภาพหลังสืบพยานโจทก์เสร็จแล้วเนื่องจากจำนนต่อพยานหลักฐาน ทั้งไม่ปรากฏว่า จำเลยได้คืนของกลางหรือชดใช้ราคาทรัพย์ให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใด การที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งคงเหลือโทษจำคุกเพียง 7 ปี เป็นคุณแก่จำเลยมากอยู่แล้ว แม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะมีอายุ 19 ปี ก็ไม่มีเหตุที่จะลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษให้จำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5092/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ชิงทรัพย์โดยใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ศาลฎีกายืนตามคำพิพากษาเดิม
จำเลยชวนผู้เสียหายไปร่วมหลับนอนจากนั้นทำร้ายร่างกายผูกปากมัดผู้เสียหายแล้วชิงเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปเป็นจำนวนมากชั้นพิจารณาโจทก์มีพยานหลักฐานมั่นคงแน่นหนาเชื่อว่าจำเลยที่ให้การรับสารภาพหนังสือพยานโจทก์เสร็จแล้วเนื่องจากจำนนต่อพยานหลักฐานทั้งไม่ปรากฎว่าจำเลยได้คืนของกลางหรือชดใช้ราคาทรัพย์ให้แก่ผู้เสียหายแต่อย่างใดการที่ศาลล่างทั้งสองให้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยกึ่งหนึ่งคงเหลือโทษจำคุกเพียง7ปีเป็นคุณแก่จำเลยมากอยู่แล้วแม้ขณะเกิดเหตุจำเลยจะมีอายุ19ปีก็ไม่มีเหตุที่จะลดมาตราส่วนโทษหรือลดโทษให้จำเลยอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4970/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การยกข้อเท็จจริงใหม่ในชั้นฎีกาหลังรับสารภาพในชั้นศาลล่าง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยให้การรับสารภาพและศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยอุทธรณ์เพียงขอให้ลงโทษสถานเบาข้อที่ว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยมิได้อุทธรณ์การที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อเสพเป็นการยกข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่เป็นการไม่ชอบต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่งประกอบด้วยมาตรา15แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4808/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าและการป้องกันตัว: การรับสารภาพและข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นสู่การพิจารณา
ภายหลังจากจำเลยชกต่อยผู้ตายล้มลงที่พื้นแล้ว จำเลยเข้าไปกระทืบที่ศีรษะและตามลำตัวผู้ตายอย่างรุนแรงและใช้มีดปาดคอผู้ตายด้วย เป็นเหตุให้ผู้ตายมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่งที่สำคัญคือ ม้ามซึ่งอยู่บริเวณช่องท้องแตกมีเลือดตกในช่องท้อง 1,700 ซี.ซี. และผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะบาดแผลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าจำเลยกระทืบผู้ตายที่บริเวณท้องซึ่งเป็นที่ตั้งอวัยวะสำคัญของร่างกายอย่างรุนแรง อีกทั้งขณะทำร้ายจำเลยก็พูดแสดงเจตนาว่าจะทำร้ายผู้ตายให้ตาย ในชั้นสอบสวนจำเลยได้ให้การรับสารภาพฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาชั้นพิจารณาจำเลยก็ให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาฟังได้ว่า จำเลยทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า
จำเลยฎีกาว่าผู้ตายเป็นฝ่ายถืออาวุธมีดเข้าทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยจึงมีสิทธิป้องกันตัวตาม ป.อ. มาตรา 68 การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามกฎหมายนั้น คดีนี้จำเลยรับสารภาพและไม่ได้สืบพยานข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ตายเป็นฝ่ายถืออาวุธมีดเข้าทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นอ้างจึงไม่เกิดขึ้น ฎีกาของจำเลยข้อนี้ ศาลฎีกาวินิจฉัยให้ไม่ได้ ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 195 ประกอบด้วยมาตรา 225

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 465/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในชั้นจับกุมและสอบสวนมีน้ำหนักน้อยกว่าการปฏิเสธในชั้นพิจารณา หากไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน
คำเบิกความของเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมและพนักงานสอบสวนที่ว่าจำเลยได้ ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและ ชั้นสอบสวนว่าได้ร่วมกับพวกลักรถยนต์ของผู้เสียหายเป็นเพียง พยานบอกเล่าไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้โดยลำพังเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาว่ามิได้กระทำความผิดและโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่น พยานหลักฐานของโจทก์จึง ไม่มีน้ำหนักให้ฟังว่าจำเลยได้ร่วมกับพวกลักรถยนต์ของผู้เสียหายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ศาลใช้ดุลพินิจลดโทษเหมาะสมแล้ว
จำเลยมิได้ให้การรับสารภาพมาแต่ต้นโดยปฏิเสธสู้คดีมาตลอดจนสืบพยานโจทก์เสร็จและสืบพยานจำเลยไปบางส่วนแล้วทั้งตามสำนวนก็ปรากฏว่าจำเลยจะต่อสู้คดีต่อไปอีกอีกทั้งการที่จำเลยต่อสู้คดีอ้างเหตุไม่ต้องรับผิดว่าเป็นการป้องกันพี่ชายและไม่รู้ว่าผู้เสียหายเป็นเจ้าพนักงานนั้นล้วนเป็นการปฏิเสธคำรับสารภาพจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาทั้งหมดที่ศาลควรลดโทษให้กึ่งหนึ่งส่วนเหตุผลที่ว่าเป็นคดีมีโทษสูงซึ่งโจทก์ต้องสืบพยานประกอบอยู่แล้วก็หาใช่เหตุผลที่จะนำมาพิจารณาในกรณีนี้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2046/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพที่ไม่ชัดเจน จำเลยต้องพิสูจน์ความผิดฐานใดฐานหนึ่ง จึงจะลงโทษได้
ฟ้องขอให้ลงโทษ ลักทรัพย์หรือ รับของโจร แสดงว่า โจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยข้อหาใดข้อหาหนึ่งเพียงข้อหาเดียวเพราะเป็นความผิดคนละฐานกันจำเลยให้การ รับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการไม่ชัดเจนพอที่จะชี้ขาดว่าจำเลยกระทำผิดฐานใดแม้จะเป็น แบบพิมพ์ คำให้การที่โรเนียวล่วงหน้าไว้ก็ตามก็เป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้อง สืบพยานให้ได้ความถึงการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่งของจำเลยมิฉะนั้นลงโทษไม่ได้
of 56