พบผลลัพธ์ทั้งหมด 146 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1182/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คลงวันที่ล่วงหน้า ธนาคารซื้อแม้เงินในบัญชีจำเลยมีน้อย ไม่ถือเป็นการร่วมกระทำผิด
จำเลยเซ็นเช็คสั่งจ่ายเงินไว้ล่วงหน้า 1 เดือน โดยมีเงินในบัญชีเพียงเล็กน้อย ผู้ทรงนำไปขายให้แก่ธนาคารที่ถูกสั่งให้จ่ายเงินธนาคารรู้ว่าในขณะนั้นจำเลยมีเงินไม่พอแต่คงยอมรับซื้อไว้ ต่อมาถึงกำหนดชำระเงินตามเช็ค ธนาคารนำเช็คนั้นเข้าบัญชีแต่ธนาคารก็ปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน เพราะในบัญชีของจำเลยมีเงินไม่พอ ดังนี้ ธนาคารย่อมเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ให้ว่ากล่าวเป็นคดีได้ จะอ้างว่าธนาคารได้ร่วมรู้เห็นเป็นใจกระทำผิดกับจำเลยด้วยหาได้ไม่ เพราะในระยะ 1 เดือนก่อนถึงกำหนดนั้น จำเลยอาจนำเงินเข้าบัญชีของจำเลยให้พอจ่ายได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1075/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดใช้เช็ค – การสมคบร่วมกระทำผิด แม้ไม่ได้เป็นผู้ลงนาม
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ให้ใช้บทบัญญัติในภาค 1แห่งประมวลกฎหมายอาญาในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นนั้นย่อมนำมาใช้ในกรณีแห่งความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามพระราชบัญญัตินั้นด้วย
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามพระราชบัญญัติฉบับนั้น ไม่จำต้องกระทำโดยบุคคลเพียงคนเดียว บุคคลหลายคนอาจร่วมกระทำผิดด้วยกันได้
ความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตามพระราชบัญญัติฉบับนั้น ไม่จำต้องกระทำโดยบุคคลเพียงคนเดียว บุคคลหลายคนอาจร่วมกระทำผิดด้วยกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 306-307/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารต่างประเทศเป็นหลักฐานได้, ความผิดอันยอมความได้ไม่ต้องบรรยายร้องทุกข์, การร่วมกระทำผิดทางอาญา
อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่เอกสารนั้นยืดยาว จึงแปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐานได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับเพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเช็ค: สมคบร่วมกระทำผิดได้ แม้ไม่ใช่ผู้ออกเช็ค
การกระทำความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 นั้นไม่จำต้องกระทำโดยบุคคลเพียงคนหนึ่งคนเดียว แต่บุคคลหลายคนอาจสมคบร่วมกระทำผิดด้วยกันได้
โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกับพวกออกเช็คไม่มีเงิน จำเลยเป็นผู้กรอกรายการต่าง ๆ ในเช็คนั้น และระบุชื่อผู้สั่งจ่ายเช็คนั้นมาในฟ้องด้วย เช่นนี้ ศาลอาญาก็ชอบที่จะต้องรับประทับฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้ไว้พิจารณาต่อไป
โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยสมคบกับพวกออกเช็คไม่มีเงิน จำเลยเป็นผู้กรอกรายการต่าง ๆ ในเช็คนั้น และระบุชื่อผู้สั่งจ่ายเช็คนั้นมาในฟ้องด้วย เช่นนี้ ศาลอาญาก็ชอบที่จะต้องรับประทับฟ้องของโจทก์ดังกล่าวนี้ไว้พิจารณาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำผิดชิงทรัพย์: การทักท้วงและหลบหนีไม่ถือเป็นเจตนาเข้าร่วม
ผู้ที่ร่วมไปกับจำเลย พูดเป็นการทักท้วงการกระทำของจำเลยผู้ลงมือกระทำขึ้นในขณะนั้นว่า อ้าว ทำไมไปทำเขาอย่างนั้น ทำอย่างนี้พากันฉิบหายหมดและเมื่อเกิดเหตุแล้ว ก็พลอยหนีไปด้วยและไปตามถนนอย่างธรรมดา เช่นนี้ แสดงว่าผู้ที่ไปด้วยกับจำเลยนั้น มิได้ร่วมมือกระทำผิดด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 81/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลพลเรือน: คดีร่วมกระทำผิด - ศาลวินิจฉัยจำเลยที่ 2 ไม่ผิดร่วม จึงไม่อำนาจพิจารณา
ในกรณีที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมูลคดีในการไต่สวนมูลฟ้องว่าจำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ถือว่าศาลทั้งสองวินิจฉัยข้อเท็จจริงต้องกัน ซึ่งตามลักษณะอุทธรณ์ฎีกาลักษณะ 2 ม.219 บัญญัติว่าห้ามมิให้โจทก์ฎีกาในดคีซึ่งศาลเดิมและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง ดังนั้นคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 2 โจทก์จึงฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน.
ฟ้องทหารว่าสมคบกับพลเรือนกระทำผิดศาลไต่สวนแล้วได้ความว่าทหารกระทำผิดแต่ลำพังผู้เดียวดังนี้ศาลพลเรือนย่อมต้องจำหน่ายคดีที่ทหารถูกฟ้องนั้นเสียเพราะไม่อยู่ในอำนาจศาลพลเรือน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 383/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความค่าเสียหายจากการละเมิด: ผู้ร่วมกระทำผิด vs. ผู้ที่ไม่ได้ร่วมกระทำผิด
การเรียกร้องค่าเสียหายในฐานละเมิด ในมูลอันเป็นความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา ให้นับอายุความทางอาญาที่ยาวกว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตาม มาตรา 448 วรรคสองนั้นหมายความเฉพาะการเรียกร้องจากตัวผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมในการกระทำผิดโดยเฉพาะมิได้หมายความถึงผู้อื่นที่มิได้มีส่วนร่วม ในการกระทำผิดด้วย(ประชุมใหญ่ ครั้งที่1,2,3/97)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2495
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำผิดชิงทรัพย์: หลักฐานการกระทำความผิดต้องชัดเจนถึงส่วนร่วม
ฟ้องว่าจำเลยใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อเป็นความสะดวกในการที่จะลักทรัพย์ ครั้นแล้วจำเลยลักเอาธนบัตรของผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษฐานชิงทรัพย์ เมื่อทางพิจารณาข้อที่ว่าจำเลยลักเงินพยานหลักฐานไม่มี เป็นแต่ได้ความว่าจำเลยรัดคอผู้เสียหายล้มลงแล้วมีชายอื่นอีกคนหนึ่งเอามีดกรีดกระเป๋าผู้เสียหายขาด แล้วชายนั้นล้วงเอาเงินในกระเป๋าได้ และวิ่งหนีไปส่วนจำเลยพอลุกขึ้นได้ก็วิ่งตามหลังคนล้วงเงินลับตาไปดังนี้ จะลงโทษจำเลยโทษฐานชิงทรัพย์ ไม่ได้ศาลต้องพิพากษายกฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 879/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกระทำความผิดฐานลักทรัพย์: ตัวการ vs อุปการะภายหลังการกระทำผิด
คนร้ายหลายคนร่วมใจกันเข้าลักทรัพย์แล้วแบ่งหน้าที่กันยกขนรับส่ง ดังนี้ คนร้ายทุกคนเป็นตัวการในการลักทรัพย์ด้วยกัน
แต่ในกรณีที่คนในโรงงานนัดหมายให้คนนอกโรงงานมารับเอาทรัพย์ที่ตนลักได้มาแล้วให้ช่วยพาไปเสียให้พ้น ดังนี้การลักทรัพย์ได้สำเร็จสิ้นแล้ว การกระทำของคนนอกโรงงานเป็นการอุปการะภายหลังการกระทำผิด จึงไม่ผิดฐานเป็นตัวการลักทรัพย์รายนั้นด้วย
แต่ในกรณีที่คนในโรงงานนัดหมายให้คนนอกโรงงานมารับเอาทรัพย์ที่ตนลักได้มาแล้วให้ช่วยพาไปเสียให้พ้น ดังนี้การลักทรัพย์ได้สำเร็จสิ้นแล้ว การกระทำของคนนอกโรงงานเป็นการอุปการะภายหลังการกระทำผิด จึงไม่ผิดฐานเป็นตัวการลักทรัพย์รายนั้นด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สมคบร่วมคิดลักทรัพย์: ตัวการร่วมกระทำผิดจากการแบ่งของที่ได้จากการลักทรัพย์
จำเลยได้ไปที่ร้านเจ้าทรัพย์ในวันเกิดเหตุหลายครั้งโดยมีพวกไปด้วยและต่อมาในคืนเกิดเหตุพวกของจำเลยเข้าทำการลักทรัพย์ในร้าน จำเลยคอยข้างนอกเพราะเกรงว่าเจ้าทรัพย์ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อนจะจำหน้าได้เมื่อได้ทรัพย์มาแล้วแบ่งกันจำเลยได้รับส่วนแบ่ง พฤติการณ์ดังกล่าวถือว่าจำเลยได้สมคบร่วมคิดและร่วมมือกระทำความผิดกับพรรคพวกต้องเป็นตัวการลักทรัพย์รายนี้ด้วยกัน
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 295,59, จำคุก 1 ปี 4 เดือนศาลอุทธรณ์แก้ลงโทษตามมาตรา 321,59จำคุก 6 เดือน โจทก์ฎีกาในข้อเท็จจริงได้