คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วัตถุประสงค์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 189 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 362/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คส่วนตัวใช้ชำระหนี้ของห้าง: ห้างและหุ้นส่วนต้องรับผิดหากการกระทำอยู่ในวัตถุประสงค์ของห้าง
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยต่อสู้ว่าเช็คนั้นไม่ใช่เช็คของห้างหุ้นส่วนเป็นเช็คส่วนตัวของจำเลยที่ 2 การสลักหลังเช็คไม่ใช่วัตถุประสงค์ของห้าง อีกทั้งตราที่ประทับมิใช่ตราของห้างที่จดทะเบียนไว้ห้างและผู้เป็นหุ้นส่วนไม่ต้องรับผิด เมื่อจำเลยปฏิเสธความรับผิดในเช็คเช่นนี้ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะนำสืบได้ว่าเช็คนั้นเป็นเช็คของห้างซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนจะต้องรับผิดและนำสืบได้ว่าหนี้สินของหุ้นส่วนนั้นเป็นมาอย่างไร
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้จัดการกับหุ้นส่วนได้เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตกับโจทก์สั่งซื้อสินค้า เมื่อได้รับสินค้ามาแล้วและจำหน่ายหมดไปแล้ว จำเลยที่ 2 จึงได้จ่ายเช็คของจำเลยที่ 2 เองชำระหนี้แก่โจทก์เพราะเช็คของห้างหมดและธนาคารปิดบัญชี การที่จำเลยที่ 2เซ็นชื่อสลักหลังไปในเช็คโดยเอาตราของห้างซึ่งใช้เป็นประจำประทับลงไปแสดงว่ากระทำในนามของห้าง ชำระหนี้ของห้างกิจการที่กระทำนี้อยู่ในขอบวัตถุประสงค์ของห้างดังนี้ ห้างหุ้นส่วนและผู้เป็นหุ้นส่วนจึงต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจสั่งรื้อถอนอาคารของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องไม่เกินขอบเขตและพิจารณาวัตถุประสงค์ของกฎหมายควบคุมอาคาร
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ.2479 มาตรา 11 ทวิ ซึ่งได้แก้ไขโดยพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคาร(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2504 และ มาตรา 12 ทวิ มิได้บัญญัติโดยเด็ดขาดว่าคำสั่งของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นหรือคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์เกี่ยวแก่การก่อสร้างอาคาร ให้เป็นที่สุด และเห็นได้ว่าได้ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นมีอำนาจสั่งการอย่างอื่นได้ด้วย เช่น จะสั่งแต่เพียงให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยไม่ต้องรื้อแทนก็ได้ (อ้างฎีกาที่ 1219/2504) วัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารซึ่งปรากฏในคำปรารภมีว่า เพื่อต้องการควบคุมเพื่อประโยชน์ในความมั่นคงแข็งแรงการอนามัย การสุขาภิบาล การป้องกันอัคคีภัย และการผังเมือง ส่วนการให้ขออนุญาตก่อสร้างนั้นเป็นแต่เพียงวิธีดำเนินการ มิใช่วัตถุประสงค์โดยตรง จึงไม่ใช่นโยบายของกฎหมายว่าเพียงแต่ไม่ขออนุญาตก็ต้องสั่งให้รื้อ โดยไม่คำนึงว่าอาคารนั้นผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ถ้าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นสั่งให้รื้อถอนอาคารของโจทก์โดยไม่ปรากฏว่าได้ก่อสร้างผิดวัตถุประสงค์ของพระราชบัญญัติควบคุมการก่อสร้างอาคารฯ ก็อาจเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลมีอำนาจสั่งให้เพิกถอนคำสั่งนั้นเสียได้ และเมื่อโจทก์ได้บรรยายมาในฟ้องแล้วว่าคำสั่งของจำเลยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะสั่งให้รื้อถอนอาคารของโจทก์โดยไม่พิจารณาตรวจคำขออนุญาตปลูกอาคารของโจทก์ หรือให้เหตุผลว่าอาคารของโจทก์ปลูกสร้างขึ้นไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมายอย่างใด จึงเป็นฟ้องที่ต้องรับไว้พิจารณา
คำสั่งจะรื้อถอนอาคารของจำเลยมีถึงภริยาโจทก์ แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้ให้ภริยาโจทก์ยื่นขออนุญาตปลูกอาคารรายนี้ จึงแสดงว่าโจทก์ได้ให้ภริยาเป็นผู้ยื่นคำขออนุญาตแทนโจทก์ ทั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468 และ 1469 โจทก์ก็มีอำนาจจัดการสินบริคณห์และมีสิทธิฟ้องคดีเพื่อประโยชน์แก่สินบริคณห์ คำสั่งของจำเลยจึงกระทบกระเทือนสิทธิและหน้าที่ของโจทก์ซึ่งเป็นสามี การกระทำของจำเลยจึงเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14/2509)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกันหนี้เกินวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ทำให้ไม่ต้องรับผิด
วัตถุประสงค์ของห้างจำเลยซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่จดทะเบียนไว้มีว่า เพื่อประกอบพานิชการในประเภททำการค้าสินค้าพื้นเมือง ทำการสั่งสินค้าเข้าและส่งสินค้าออก ทำการค้าเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ทำการเป็นนายหน้าและตัวแทนต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อผู้จัดการของจำเลยไปทำสัญญาค้ำประกันหนี้ จึงเป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์ของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 41/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การค้ำประกันหนี้เกินวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนจำกัด ทำให้ไม่ต้องรับผิด
วัตถุประสงค์ของห้างจำเลยซึ่งเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่จดทะเบียนไว้มีว่าเพื่อประกอบพานิชการในประเภททำการค้าสินค้าพื้นเมืองทำการสั่งสินค้าเข้าและส่งสินค้าออกทำการค้าเครื่องอุปโภค บริโภคต่างๆ ทำการเป็นนายหน้าและตัวแทนต่างๆดังนั้น เมื่อผู้จัดการของจำเลยไปทำสัญญาค้ำประกันหนี้ จึงเป็นการกระทำนอกวัตถุประสงค์ของจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 763/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนังสือพิมพ์รายคาบยังคงสถานะตามกฎหมาย หากพิมพ์ต่อเนื่องและตรงตามวัตถุประสงค์ที่ได้รับอนุญาต
เอกสาร ล.4 เป็นสิ่งพิมพ์ซึ่งมีชื่อจ่าหน้าที่บรรทัดแรกของหน้าปกว่า "มวลชน" เช่นเดียวกับชื่อจ่าหน้าของหนังสือพิมพ์มวลชนฉบับอื่น ๆ ที่จำเลยได้พิมพ์ออกโฆษณา และเอกสาร ล.4 นี้ พิมพ์ออกจำหน่ายเพื่อเผยแพร่การศึกษาและส่งเสริมวิทยฐานะครู ถูกต้องตรงความประสงค์ที่จำเลยได้รับอนุญาต จึงถือได้ว่าเป็นหนังสือพิมพ์ตามความหมายแห่งพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484 มาตรา 4
เมื่อจำเลยได้พิมพ์หนังสือพิมพ์มวลชนออกโฆษณาอยู่ตลอดมา การเป็นเจ้าของ บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาของจำเลยซึ่งยังคงมีอยู่ ยังไม่สิ้นสุดตามาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.2484

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 302/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในตึกแถว, การใช้ตึกแถวผิดวัตถุประสงค์, สัญญาเช่าสิ้นสุด, การบอกเลิกสัญญาเช่า, สิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ห้องพิพาทเพื่อประกอบการค้าและให้เช่าช่วง กับผิดนัดชำระค่าเช่าสองคราวติดกัน เพื่อแสดงว่าจำเลยไม่ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่าเคหะและที่ดิน พ.ศ.2504 ถือว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
จำเลยให้การว่าได้เช่าตึกแถวให้คนเช่ามีกำหนดเวลา แล้วยกกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า กรรมสิทธิ์ในตึกแถวตกเป็นของโจทก์ตามสัญญาโดยสมบูรณ์ ไม่ต้องทำพิธีจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่อีก และเมื่อโจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง
จำเลยเช่าตึกแถวรายพิพาทเป็นที่ผลิตสินค้าสำหรับจำหน่าย ภายหลังต่อมาได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยแต่อย่างเดียว เป็นการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ในการเช่าโดยผู้ให้เช่ามิได้ยินยอมด้วย ตึกแถวรายพิพาทจึงไม่เป็นเคหะควบคุม ไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายและเมื่อโจทก์บอกเลิกการเช่ากับจำเลยโดยชอบแล้ว สัญญาเช่าก็เป็นอันระงับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัสต์มีวัตถุประสงค์เฉพาะ การรื้อถอน/เปลี่ยนแปลงทรัพย์สินทรัสต์ต้องไม่ขัดวัตถุประสงค์เดิม
ทรัสต์ที่ก่อตั้งขึ้นก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อาจก่อตั้งขึ้นโดยนิติกรรมหรือพินัยกรรม อำนาจหน้าที่ของทรัสต์จึงต้องเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งนิติกรรมหรือพินัยกรรมนั้น กับต้องปฎิบัติภายในขอบเชตแห่งข้อกำหนดและวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งทรัสต์นั้นด้วย แม้ทรัสต์จะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เป็นทรัสต์ ก็จะนำอำนาจกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้โดยตลอดไปมิได้
ที่ดินและกุฎีเจ้าเซ็นหรือกุฎีเจริญพาศน์ซึ่งก่อตั้งเป็นทรัสต์โดยใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอ๊ะทั้งที่อยู่ในจังหวัดพระนครและต่างจังหวัดเป็นประจำทุกปีมาประมาณ 100 ปี แล้ว ไม่ปรากฎการกระทำเพื่อกิจการอื่นใดย่อมแสดงว่าผู้ก่อตั้งทรัสต์มีเจตนาในการก่อตั้งโดยเฉพาะให้ทรัสต์รายนี้เป็นสถานที่สำหรับประกอบกิจทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอ๊ะเท่านั้น โจทก์ผู้เป็นทรัสต์แม้จะมีชื่อในโฉนดที่ดินรายนี้ ก็ไม่มีอำนาจรื้อถอนกุฎีรายนี้ไปปลูกสร้างในที่อื่นได้ เพราะเป็นการกระทำให้ทรัสต์รายนี้สิ้นสภาพหรือสลายไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 728/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจทรัสตีจำกัดตามวัตถุประสงค์การก่อตั้งทรัสต์ การรื้อถอนสถานที่ประกอบศาสนกิจขัดต่อเจตนารมณ์ผู้ก่อตั้ง
ทรัสต์ที่ก่อตั้งขึ้นก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อาจก่อตั้งขึ้นโดยนิติกรรมหรือพินัยกรรมอำนาจหน้าที่ของทรัสต์จึงต้องเป็นไปตามข้อกำหนดแห่งนิติกรรมหรือพินัยกรรมนั้น กับต้องปฏิบัติภายในขอบเขตแห่งข้อกำหนดและวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งทรัสตีนั้นด้วยแม้ทรัสตีจะเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เป็นทรัสต์ ก็จะนำอำนาจกรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาใช้โดยตลอดไปมิได้
ที่ดินและกุฎีเจ้าเซ็นหรือกุฎีเจริญพาศน์ซึ่งก่อตั้งเป็นทรัสต์โดยใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายซีอ๊ะทั้งที่อยู่ในจังหวัดพระนครและต่างจังหวัดเป็นประจำทุกปีมาประมาณ 100 ปีแล้วไม่ปรากฏการกระทำเพื่อกิจการอื่นใดย่อมแสดงว่าผู้ก่อตั้งทรัสต์มีเจตนาในการก่อตั้งโดยเฉพาะให้ทรัสต์รายนี้เป็นสถานที่สำหรับประกอบกิจทางศาสนาของประชาชนผู้ถือศาสนาอิสลามนิกายซีอ๊ะเท่านั้น โจทก์ผู้เป็นทรัสตีแม้จะมีชื่อในโฉนดที่ดินรายนี้ก็ไม่มีอำนาจรื้อถอนกุฎีรายนี้ไปปลูกสร้างในที่อื่นได้เพราะเป็นการกระทำให้ทรัสต์รายนี้สิ้นสภาพหรือสลายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำลายตราหลักเขตป่าสงวน ต้องพิสูจน์เจตนาและวัตถุประสงค์ของการประทับตรา เพื่อให้เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
ในฟ้องกล่าวแต่เพียงว่า ทำลายตราหลักเขตป่าสงวนซึ่งเจ้าพนักงานตรีตราประทับไว้ที่ต้นไม้ส้าน ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้ว่าเป็นตราที่เจ้าพนักงานประทับไว้ในการปฏิบัติตามหน้าที่ เพื่อเป็นหลักฐานในการยึดอายัดหรือรักษาสิ่งนั้น ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141
ฟ้องอย่างนี้ศาลย่อมยกฟ้องได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติบุคคลไม่รับผิดต่อการกระทำผิดนอกวัตถุประสงค์ของกรรมการ แม้กระทำในนามบริษัท
จำเลยอื่นซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท จำเลยที่ 1 กระทำการโฆษณาชักชวนประชาชนให้เข้าเป็นสมาชิกถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ 1 ซึ่งรับโอนหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิม โดยบริษัทสัญญาจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้ถือหุ้นถึงแก่กรรมอันเป็นกิจการค้าคล้ายคลึงกับการประกันชีวิตโดยมิได้รับอนุญาต แม้จำเลยอื่นนั้นกระทำในนามของบริษัท จำเลยที่ 1 ก็เป็นกิจการซึ่งกระทำโดยจำเลยอื่นนั้นเอง บริษัทจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลจะกระทำกิจการอันเป็นการนอกวัตถุประสงค์มิได้ จึงลงโทษบริษัทจำเลยที่ 1 ไม่ได้
of 19