คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
วินิจฉัย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 558 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8276/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน: เจตนาที่แท้จริงของผู้ให้ และขอบเขตการวินิจฉัยของศาล
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินพิพาทพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยได้รับโอนกรรมสิทธิ์มาจาก ป. ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวาร จำเลยให้การต่อสู้คดีว่า จำเลยมีสิทธิอยู่อาศัยในที่ดินพิพาท มิได้อาศัยสิทธิของ ป. จำเลย ส.อ. และ ป.เป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาท แต่ให้ใส่ชื่อ ป.เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทนโจทก์ขอยืมโฉนดที่ดินจาก ป.และจำเลยเพื่อนำไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคาร และเพื่อความสะดวกในการดำเนินการจึงเปลี่ยนชื่อในโฉนดจาก ป. มาใส่ชื่อโจทก์แทน คดีจึงมีประเด็นพิพาทเพียงว่า การที่ ป.ยกที่ดินพิพาทให้โจทก์มีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า ป.ไม่มีเจตนาจะยกที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ เพียงแต่ต้องการให้โจทก์ยืมโฉนดไปจำนองเท่านั้น ผลจึงมีว่า ป.ไม่ได้ให้ที่ดินแก่โจทก์ คดีไม่มีประเด็นที่ศาลล่างทั้งสองจะวินิจฉัยว่า ป.แสดงเจตนายกให้ตอนที่ ป.เบิกความต่อศาลอีก การที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยต่อไปว่า ในการสืบพยาน ป.เบิกความว่า ป.เต็มใจที่จะยกที่ดินพิพาทให้โจทก์แสดงว่าหลังจากนั้น ป.ได้เปลี่ยนใจยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ ซึ่งปรากฏว่า ป.ได้จดทะเบียนยกให้แก่โจทก์แล้วตั้งแต่ตอนแรก จึงไม่จำต้องไปจดทะเบียนการให้อีกถือว่าการให้สมบูรณ์ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่ได้นั้น เป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงนอกประเด็นแห่งคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7906/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ศาลยังมิได้วินิจฉัยประเด็นละเมิด การฟ้องใหม่จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ในคดีที่จำเลยอ้างว่าเป็นฟ้องซ้ำ ศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าไม่มีข้อเท็จจริงที่บรรยายว่าจำเลยมีหน้าที่อย่างใดที่จะต้องกระทำและละเว้นเสียตามคำฟ้องโจทก์จึงมิได้บรรยาย ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ ยังถือไม่ได้ว่ามีข้อโต้แย้ง เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่จะ เป็นเหตุให้โจทก์ใช้สิทธิเสนอคดีต่อศาลได้ พิพากษายกฟ้อง เป็นเรื่องที่ศาลยกฟ้องเพราะเหตุการบรรยายฟ้องของโจทก์ ยังไม่เข้าลักษณะละเมิดโดยที่ศาลชั้นต้นยังมิได้วินิจฉัย ในประเด็นแห่งคดีที่ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ โจทก์จึงฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7243/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยผิดสัญญาประกันตัว: การโต้แย้งข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อกฎหมาย
การวินิจฉัยว่าจำเลยผิดสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาต่อโจทก์หรือไม่ต้องอาศัยข้อเท็จจริง การวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงข้ออ้างของจำเลยในฎีกาที่ว่าโจทก์ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยว่าจำเลยไม่ได้ผิดสัญญาต่อโจทก์เป็นการเถียงข้อเท็จจริงมิใช่การอ้างข้อกฎหมายฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกา
ศาลอุทธรณ์ยังมิได้สั่งเกี่ยวกับค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 702/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การที่ศาลพิพากษาเกินคำขอและบังคับบุคคลภายนอกคดี ถือเป็นการไม่ชอบและเป็นเหตุให้ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
คำฟ้องโจทก์อ้างเหตุที่โจทก์โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนของโจทก์ให้แก่ ช. ไม่ได้ เพราะจำเลยทั้งสองไม่นำโฉนดที่ดินที่ยึดถือไว้ไปที่สำนักงานที่ดินตามนัด แต่กลับนำสืบว่าจำเลยทั้งสองโต้แย้งว่าบ้านเลขที่ 95 ที่โจทก์ขายให้ ช.ด้วยนั้น ปลูกอยู่ในที่ดินส่วนที่เป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยทั้งสองต้องการให้มีการรังวัดที่ดินเพื่อทราบอาณาเขตเสียก่อน ซึ่งเป็นคนละเหตุกับที่โจทก์กล่าวอ้างในฟ้องเท่ากับโจทก์สืบไม่สมฟ้อง ศาลต้องยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันส่งมอบโฉนดที่ดินให้แก่โจทก์ และให้ร่วมกันชำระค่าเสียหายด้วย จำเลยทั้งสองอุทธรณ์เฉพาะเรื่องค่าเสียหาย ปัญหาเรื่องการส่งมอบโฉนดที่ดินจึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นการที่ศาลอุทธรณ์ยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์ในส่วนนี้ด้วย จึงไม่ชอบและเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง
โจทก์มิได้ฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินเป็นจำเลย แม้จะมีคำขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกใบแทนโฉนดที่ดินให้แก่โจทก์ เป็นการบังคับบุคคลภายนอกที่มิได้เป็นคู่ความในคดี ศาลไม่อาจสั่งบังคับให้เจ้าพนักงานที่ดินกระทำการตามที่โจทก์ขอได้ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาบังคับตามคำขอในส่วนนี้จึงเป็นการมิชอบ และเป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 638/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกำหนดค่าเสียหายต้องระบุจำนวนชัดเจน แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้
โจทก์มิได้บรรยายฟ้องมาว่า กรมเจ้าท่าได้เสียค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษเป็นจำนวนเท่าใด มิได้ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหายส่วนนี้จำนวนเท่าใด และข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏว่ากรมเจ้าท่าได้เสียค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสิ่งเป็นพิษเป็นจำนวนเท่าใด จึงไม่อาจกำหนดค่าเสียหายส่วนนี้ให้แก่กรมเจ้าท่าได้ แม้ปัญหาข้อนี้จำเลยทั้งสองจะมิได้ฎีกาขึ้นมาก็ตาม เนื่องจากเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5199/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: ห้ามคู่ความฟ้องประเด็นเดียวกันซ้ำหลังศาลวินิจฉัยแล้ว
โจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อนขอให้จำเลยรับผิดในค่าเสียหายที่จำเลยครอบครองรถยนต์ทั้งสองคันแล้วไม่ยอมส่งมอบให้โจทก์หลังจากบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้ว ส่วนคดีนี้เป็นเรื่องเรียกให้จำเลยชดใช้ค่าภาษีรถยนต์ที่โจทก์ชำระแทนจำเลยไป ประเด็นที่ต้องพิจารณาวินิจฉัยในคดีนี้ก็เนื่องมาจากมูลฐานเดียวกันคือความเสียหายอันเกิดแต่สัญญาเช่าซื้อ ค่าภาษีรถยนต์ทั้งสองคันที่จำเลยจะต้องรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อนั้นเป็นหนี้ที่มีอยู่ในขณะที่โจทก์ฟ้องคดีเรื่องก่อนแล้ว โจทก์อาจฟ้องเรียกจากจำเลยได้ในคดีเรื่องก่อน แต่หาฟ้องไม่ กรณีต้องด้วย ป.วิ.พ.มาตรา 148ที่ห้ามมิให้คู่ความเดียวกันรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องโจทก์คดีเรื่องก่อน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5064/2538

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการวินิจฉัยประเด็นนอกประเด็นชี้สองสถาน หากเกิดจากการต่อสู้ของคู่ความ
แม้ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นข้อพิพาทในชั้นชี้สองสถานไว้เพียงข้อเดียวว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินแปลงเดียวกันกับที่ดินแปลงที่โจทก์ซื้อมาจาก ส. หรือไม่ก็ตาม แต่ประเด็นข้อนี้ย่อมครอบคลุมไปถึงปัญหาว่า โจทก์หรือจำเลยใครมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทดีกว่ากัน ซึ่งเกิดจากคำฟ้องและคำให้การต่อสู้ของจำเลยทั้งสองศาลมีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้ไม่เป็นนอกฟ้องนอกประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4769/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ละเมิดจากการเบิกความเท็จ: การวินิจฉัยว่าคำเบิกความเป็นรายละเอียดไม่สำคัญ ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
โจทก์ฟ้องเรื่องละเมิดว่า จำเลยที่ 1 เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์เป็นจำเลยให้รับผิดชำระหนี้ตามเช็ค จำเลยที่ 2 และที่ 3เบิกความเท็จ และจำเลยที่ 1 เป็นผู้ก่อให้จำเลยที่ 3เบิกความเท็จ เป็นเหตุให้ศาลเชื่อว่าโจทก์เป็นผู้สลักหลังเช็คและพิพากษาให้โจทก์รับผิดชำระหนี้ตามเช็ค ทำให้โจทก์เสียหายจำเลยทั้งสามต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยว่าเมื่อฟังว่าโจทก์เป็นผู้สลักหลังเช็คโจทก์ต้องรับผิดชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 วรรคแรก ,901 ส่วนที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 เบิกความว่าโจทก์นำเช็คมาให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นเพียงรายละเอียดไม่เป็นข้อสำคัญในคดีแม้เป็นความเท็จ จำเลยที่ 1 และที่ 3 ก็ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จอันจะเป็นการละเมิดต่อโจทก์ การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 หยิบยกมาตรา 900 วรรคแรก,901 ขึ้นมาวินิจฉัยคดีก็เพื่อชี้ให้เห็นว่าแม้ข้อเท็จจริงจะรับฟังได้ว่าที่จำเลยที่ 2 และที่ 3 เบิกความว่า โจทก์นำเช็คพิพาทมาให้แก่จำเลยที่ 1 เป็นความเท็จ คำเบิกความดังกล่าวก็เป็นเพียงรายละเอียดไม่เป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยที่ 2 และที่ 3ไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์จึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 1ก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วยเป็นการวินิจฉัยในเรื่องละเมิดตามอุทธรณ์ของโจทก์ ไม่ใช่เป็นการนำตัวบทกฎหมายในเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับประเด็นมาวินิจฉัย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3834/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาที่ ศก.1/2531 และ ศก.7/2531 - ประเด็นการพิจารณาคดีและการวินิจฉัยของศาล
ศก.1/2531 และ ศก.7/2531

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3739/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำ: คำพิพากษายกฟ้องที่วินิจฉัยความไม่สมบูรณ์ของฟ้อง ถือเป็นคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาด
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหน้าที่และการปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติของจำเลยมีจริงหรือไม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในความผิดที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลย คำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีก่อนที่ว่าฟ้องโจทก์ไม่บรรยายแจ้งชัดว่าจำเลยมีหน้าที่และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างไร จึงเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดในข้อเท็จจริงแห่งการกระทำของจำเลยตามคำฟ้องโจทก์ว่าไม่เป็นความผิด จึงเป็นคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(4) โจทก์จึงฟ้องจำเลยในการกระทำความผิดอย่างเดียวกันกับคดีก่อนอีกไม่ได้
of 56