พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326-1327/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดินงอก, สัญญาจำนอง, สิ่งปลูกสร้าง, การบังคับคดี, การครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 ถือได้ว่ากฎหมายให้เจ้าของที่ดินริมตลิ่งได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่งอกออกไป โดยลักษณะเป็นส่วนควบของที่ดินริมตลิ่ง และถือว่าเป็นที่ดินอยู่ในโฉนดของที่ดินริมตลิ่งด้วย
ข้อสัญญาจำนองซึ่งกล่าวว่า "สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินแปลงนี้ไม่มีสิ่งใดยกเว้นจำนองด้วยทั้งสิ้น" นี้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 719 แปลความได้ว่าหมายถึงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่มีอยู่บนที่ดินจำนอง ในขณะทำสัญญาจำนองเท่านั้น ดังนั้น ถ้าบ้านที่พิพาทนั้นน้ำท่วมถึง ก็ยังไม่มีสภาพเป็นที่งอกในขณะทำสัญญาจำนอง บ้านนั้นก็มิใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างตามข้อสัญญาจำนอง
อนึ่ง ถ้าขณะทำสัญญาจำนองที่พิพาทได้งอกไปถึงบ้านหลังที่ 1 อันเป็นเหตุให้บ้านนั้นตกอยู่ในบังคับของสัญญาจำนองและสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าบ้านทั้ง 3 หลังนั้นปลูกติดต่อเป็นส่วนควบซึ่งกันและกัน หรืออาจแยกจากกันเป็นส่วนๆ ได้รูปบริบูรณ์ลำพังแต่ละหลังโดยไม่เป็นการทำลาย ทำให้บุบสลาย หรือเปลี่ยนแปลงรูปทรง อาจเป็นเหตุให้สัญญาจำนองและสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลบังคับต่างกัน
ข้อสัญญาจำนองซึ่งกล่าวว่า "สิ่งปลูกสร้างบนที่ดินแปลงนี้ไม่มีสิ่งใดยกเว้นจำนองด้วยทั้งสิ้น" นี้ ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 719 แปลความได้ว่าหมายถึงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดที่มีอยู่บนที่ดินจำนอง ในขณะทำสัญญาจำนองเท่านั้น ดังนั้น ถ้าบ้านที่พิพาทนั้นน้ำท่วมถึง ก็ยังไม่มีสภาพเป็นที่งอกในขณะทำสัญญาจำนอง บ้านนั้นก็มิใช่เป็นสิ่งปลูกสร้างตามข้อสัญญาจำนอง
อนึ่ง ถ้าขณะทำสัญญาจำนองที่พิพาทได้งอกไปถึงบ้านหลังที่ 1 อันเป็นเหตุให้บ้านนั้นตกอยู่ในบังคับของสัญญาจำนองและสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว ก็ต้องพิจารณาต่อไปว่าบ้านทั้ง 3 หลังนั้นปลูกติดต่อเป็นส่วนควบซึ่งกันและกัน หรืออาจแยกจากกันเป็นส่วนๆ ได้รูปบริบูรณ์ลำพังแต่ละหลังโดยไม่เป็นการทำลาย ทำให้บุบสลาย หรือเปลี่ยนแปลงรูปทรง อาจเป็นเหตุให้สัญญาจำนองและสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลบังคับต่างกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจำนองเพื่อค้ำประกันสัญญาซื้อขาย: ไม่เป็นโมฆะหากผู้ขายยังไม่ผิดสัญญา
ผู้ซื้อกับผู้ขายทำสัญญาจะซื้อจะขาย ที่ดินพิพาทกันเป็นเงิน 14,000 บาท ผู้ขายได้รับชำระค่าที่ดินไปเกือบหมดแล้ว ผู้ซื้อก้ได้เข้าครอบครองปลูกเรือนลงในที่ดินนั้นเรียบร้อยแล้ว ยังแต่ผู้ขายจะไปทำการแบ่งแยกโฉนดที่ดินพิพาทให้เป็นของผู้ซื้อเท่านั้น ในระหว่างจะแบ่งแยกโฉนด ผู้ซื้อกลัวว่าผู้ขายจะโกงบิดพลิ้วไม่ยอมโอนที่ดินพิพาทให้ภายหลัง จึงขอร้องให้ผู้ขายไปทำสัญญาจำนองเป็นประกันเงินราคาที่ดิน ที่ซื้อขายกันซึ่งได้ชำระไปแล้วนั้นไปอีก โดยผู้ซื้อจะไม่คิดเอาดอกเบี้ย แก่ ผู้ขายในการจำนองนี้ เว้นแต่ผู้ขายบิดพลิ้ว โกงไม่ยอมโอนขายที่ดินให้ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำกันไว้แล้ว จึงจะเอาสัญญาจำนองมาฟ้องบังคับเรียกราคาที่ดินที่ได้ชำระไปแล้วคืนจากผู้ขาย ดังนี้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทเป็นเจตนาที่แท้จริงของคู่สัญญา ส่วนสัญญาจำนองไม่ใช่นิติกรรมอำพราง แต่เป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งที่คู่กรณีสมัครใจตกลงทำขึ้นเพื่อเป็นการค้ำประกันเงินที่ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดิน ไปแล้วตามสัญญาจะซื้อขายสัญญาจำนอง จึงไม่เป็นโมฆะ และตราบใดที่ผู้ขายยังมิได้ผิดสัญญาจะซื้อขาย โดยผู้ขายมิได้บิดพลิ้วไม่ยอมโอนขายที่ดินให้ผู้ซื้อแล้ว ผู้ซื้อก็จะนำสัญญาจำนองมาฟ้องบังคับผู้ขายยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 399/2505
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายที่ดินและสัญญาจำนองเป็นประกัน: สัญญาจำนองไม่เป็นโมฆะหากเป็นการค้ำประกันราคาซื้อขาย
ผู้ซื้อกับผู้ขายทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทกันผู้ขายได้รับชำระค่าที่ดินไปเกือบหมดแล้ว และผู้ซื้อก็ได้เข้าครอบครองปลูกเรือนลงในที่ดินนั้นเรียบร้อยแล้ว ยังแต่ผู้ขายจะไปทำการแบ่งแยกโฉนดที่พิพาทให้เป็นของผู้ซื้อเท่านั้น ผู้ซื้อกลัวว่าผู้ขายจะโกงบิดพลิ้วไม่ยอมโอนที่พิพาทในภายหลังจึงขอร้องให้ผู้ขายไปทำสัญญาจำนองเป็นประกันเงินราคาที่ดินที่ซื้อขายกันซึ่งได้ชำระไปแล้วให้อีก โดยผู้ซื้อไม่คิดเอาดอกเบี้ยในการจำนองเว้นแต่ผู้ขายบิดพลิ้วโกงไม่ยอมโอนขายที่ดินให้ตามสัญญาจะซื้อขายจึงจะเอาสัญญาจำนองมาฟ้องบังคับเรียกราคาที่ดินที่ได้ชำระไปแล้วคืนจากผู้ขายดังนี้ สัญญาจะซื้อขายที่ดินพิพาทเป็นเจตนาที่แท้จริงของคู่สัญญา แต่สัญญาจำนองก็ไม่ใช่นิติกรรมอำพรางหากเป็นนิติกรรมอีกอันหนึ่งที่คู่กรณีสมัครใจตกลงทำขึ้นเพื่อเป็นการค้ำประกันเงินที่ผู้ซื้อได้ชำระราคาที่ดินไปแล้ว สัญญาจำนองจึงไม่เป็นโมฆะแต่ตราบใดที่ผู้ขายยังมิได้ผิดสัญญาจะซื้อขาย โดยผู้ขายยังมิได้บิดพลิ้ว ไม่ยอมโอนขายที่ดินให้แก่ผู้ซื้อแล้วผู้ซื้อก็จะนำสัญญาจำนองมาฟ้องบังคับผู้ขายยังไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 342/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการพิทักษ์ทรัพย์ต่อการบังคับคดีสัญญาจำนอง: การบังคับคดียังไม่บริบูรณ์ก่อนพิทักษ์ทรัพย์
ศาลพิพากษาให้จำเลยทำสัญญาจำนองแก่โจทก์และได้ออกคำบังคับแล้ว แต่ก่อนได้รับคำบังคับศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาดในคดีล้มละลายดังนี้ โจทก์จะขอ ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไปทำสัญญาจำนองแทนจำเลยไม่ได้ เพราะการบังคับคดียังไม่สำเร็จบริบูรณ์ก่อนวันที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ จึงใช้ยันเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 110
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขจำนวนหนี้ในสัญญาจำนองเกินข้อตกลงเดิม เป็นการขัดต่อหลักการนำสืบพยาน
จำเลยจะขอนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความจำนวนหนี้ในเอกสารสัญญาจำนองหาได้ไม่ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการบังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนองเมื่อทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ ตามสัญญาจำนองที่ตกลงกันไว้
ในสัญญาจำนองที่โจทก์นำมาฟ้องมีข้อความว่า ถ้าทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ที่จำนอง ผู้จำนองยอมให้เอาทรัพย์นอกจำนองมาชำระหนี้จำนองได้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองไปแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้จำนอง โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนองได้ (แม้ในกรณีที่ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ ๆ มิได้ขอว่า ถ้าขายทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอให้ศาลยึดทรัพย์อื่นนอกจำนองขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้จำนองด้วย และศาลชั้นต้นก็มิได้พิพากษาว่า ถ้าขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองแล้ว ให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์จนครบหนี้จำนอง)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 474/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนอง: สัญญาจำนองเปิดช่องให้ยึดทรัพย์นอกจำนองได้หากทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้
ในสัญญาจำนองที่โจทก์นำมาฟ้องมีข้อความว่า ถ้าทรัพย์จำนองไม่พอชำระหนี้ที่จำนอง ผู้จำนองยอมให้เอาทรัพย์นอกจำนองมาชำระหนี้จำนองได้เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินที่จำนองไปแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้จำนองโจทก์ก็ย่อมมีสิทธิขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์นอกจำนองได้(แม้ในกรณีที่ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์โจทก์มิได้ขอว่าถ้าขายทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอให้ศาลยึดทรัพย์อื่นนอกจำนองขายทอดตลาดเอาเงินใช้หนี้จำนองด้วยและศาลชั้นต้นก็มิได้พิพากษาว่า ถ้าขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนองได้เงินไม่พอใช้หนี้จำนองแล้ว ให้จำเลยใช้เงินให้โจทก์จนครบหนี้จำนอง )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลกระทบการรับโอนกรรมสิทธิที่ดินหลังมีคำพิพากษาต่อสิทธิในสัญญาจำนอง สิทธิในสัญญาจำนองผูกพันเฉพาะกรรมสิทธิ์ที่ดิน
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยคนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิที่ดินของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยอีกสองคนทำกันไว้เกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคนหนึ่งรับโอนที่ดินแปลงนั้นลงชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิต่อไปแล้ว สัญญาจำนองจะใช้บังคับแก่ที่ดินนั้นได้หรือไม่ ย่อมเป็นภาระระหว่างจำเลย โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 841/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาถึงสัญญาจำนอง: สิทธิจำนองผูกพันระหว่างจำเลย โจทก์ไม่อาจอุทธรณ์เพิกถอนสัญญาจำนองได้
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ศาลบังคับจำเลยคนหนึ่งรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินของโจทก์ตามสัญญาจะซื้อขาย และขอให้เพิกถอนสัญญาที่จำเลยอีกสองคนทำกันไว้เกี่ยวกับที่ดินแปลงนั้น เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยคนหนึ่งรับโอนที่ดินแปลงนั้นลงชื่อในโฉนดเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ต่อไปแล้ว สัญญาจำนองจะใช้บังคับแก่ที่ดินนั้นได้หรือไม่ ย่อมเป็นภาระระหว่างจำเลย โจทก์จะอุทธรณ์ฎีกาขอให้ศาลเพิกถอนสัญญาจำนองอีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 761/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำนอง: การบังคับคดีและการชำระหนี้ตามสัญญาจำนองที่ระบุจำนวนเงินสูงสุดที่จำนองไว้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษายึดทรัพย์ลูกหนี้ขายทอดตลาดบังคับคดี ผู้รับจำนองทรัพย์ที่ถูกบังคับคดีร้องขอต่อศาลให้เอาเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดนั้นชำระหนี้แก่ตนก่อนเจ้าหนี้อื่นได้ ถ้าลูกหนี้อ้างว่าสัญญาจำนองที่ผู้รับจำนองยกขึ้นมาอ้างอิงนั้นไม่สมบูรณ์ ลูกหนี้นั้นก็มีสิทธิให้การต่อสู้คดีกับผู้รับจำนองได้ และกรณีเช่นนี้ ศาลดำเนินคดีไปเหมือนคดีมีข้อพิพาทระหว่างผู้รับจำนองและลูกหนี้
สัญญาจำนองนั้น ระบุจำนวนเงินชั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกันตามที่บังคับไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 708 แล้วก็ใช้ได้กฎหมายมาตรานี้หาได้บังคับให้ต้องระบุถึงมูลหนี้เดิมลงไว้ในสัญญาจำนองว่าหนี้เดิมเป็นหนี้อะไรด้วยไม่
สัญญาจำนองนั้น ระบุจำนวนเงินชั้นสูงสุดที่ได้เอาทรัพย์สินจำนองนั้นตราไว้เป็นประกันตามที่บังคับไว้ใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 708 แล้วก็ใช้ได้กฎหมายมาตรานี้หาได้บังคับให้ต้องระบุถึงมูลหนี้เดิมลงไว้ในสัญญาจำนองว่าหนี้เดิมเป็นหนี้อะไรด้วยไม่