พบผลลัพธ์ทั้งหมด 164 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 563/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่นำสืบ - การไม่โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นทำให้จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาในประเด็นดังกล่าว
ศาลชั้นต้นสั่งในเรื่องหน้าที่นำสืบแล้ว จำเลยหาได้โต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(2) ไม่ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาในข้อนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาขึ้นอยู่กับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ โจทก์ต้องรอฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก่อนยื่นฎีกา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง โจทก์ไม่อุทธรณ์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
จำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อย แต่ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาสำหรับจำเลยคนนั้น
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนวันจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา.
จำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อย แต่ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาสำหรับจำเลยคนนั้น
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนวันจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำกัดเฉพาะจำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาถึงที่สุดแล้ว และโจทก์ต้องยื่นฎีกาหลังจำเลยฟังคำพิพากษา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ไม่อุทธรณ์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
จำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อย แต่ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาสำหรับจำเลยคนนั้น
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนวันจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา
จำเลยที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาปล่อย แต่ยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกาสำหรับจำเลยคนนั้น
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนวันจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โจทก์ไม่มีสิทธิฎีกา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาและการยื่นฎีกาก่อนคู่ความอีกฝ่ายได้รับฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
โจทก์ยื่นฎีกาก่อนจำเลยฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาจะรับฎีกาโจทก์ไว้พิจารณาไม่ได้ เพราะได้ยื่นก่อนที่มีสิทธิจะฎีกาได้.
(อ้างฎีกาที่ 218/2491)
(อ้างฎีกาที่ 218/2491)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดยื่นคำให้การและการมีสิทธิฎีกาข้อยกเว้นตาม ป.วิ.แพ่ง
การที่ศาลล่างสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การนั้น เท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลย คดีจึงปรับเข้าอยู่ใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรค 3 ซึ่งเป็นข้อยกเว้น ให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้.
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนด มิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤตติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนด มิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤตติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขาดนัดยื่นคำให้การ: สิทธิฎีกาข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
การที่ศาลล่างสั่งว่า จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การนั้นเท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลย คดีจึงปรับเข้าอยู่ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรคสาม ซึ่งเป็นข้อยกเว้น ให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนดมิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
จำเลยยื่นคำให้การพ้นกำหนดไป 2 วัน และยื่นคำร้องว่า การที่มิได้ยื่นคำให้การในกำหนดมิได้เป็นไปโดยจงใจ ดังนี้ ถือว่ามิได้มีพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด เป็นความผิดของจำเลยเอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1191/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลที่ถือว่าเป็นการไม่รับคำให้การ ทำให้จำเลยมีสิทธิฎีกาได้ แม้คำสั่งนั้นจะเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา
การที่ศาลชั้นต้นสั่งว่าจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเท่ากับสั่งไม่รับคำให้การจำเลยคดีจึงปรับเข้าอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228(3) ประกอบด้วยมาตรา 18 วรรค 3 ซึ่งเป็นข้อยกเว้นให้จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ฎีกาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาข้อเท็จจริงในคดีที่ราคาทรัพย์/ทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาท แม้ศาลชั้นต้น/อุทธรณ์พิพากษาต่ำกว่า
คดีที่ราคาทรัพย์ที่พิพาท หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้องเกิน 2,000 บาท นั้น แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ชะนะคดีเพียงจำนวนไม่ถึง 2,000 บาท และศาลอุทธรณืพิพากษายืน ก็ตาม คู่ความก็มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาข้อเท็จจริงในคดีที่ทุนทรัพย์เกิน 2,000 บาท แม้ศาลชั้นต้น/อุทธรณ์พิพากษาให้ได้น้อยกว่า
คดีที่ราคาทรัพย์ที่พิพาทหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่เรียกร้องเกิน 2,000 บาท นั้น แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาให้ชนะคดีเพียงจำนวนไม่ถึง 2,000 บาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนก็ตาม คู่ความก็มีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 218/2491
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาอาญา: จำเลยต้องฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ก่อน จึงจะเริ่มนับอายุความฎีกาได้
อายุความฎีกาตามป.วิ.อาญามาตรา 216 นั้น ต้องฎีกาภายในหนึ่งเดือน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟัง+จำเลยยังไม่ได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธร์ แม้ศาลได้อ่านให้โจทก์ฟังฝ่ายเดียวแล้ว โจทก์ยังไม่มีสิทธิฎีกา ศาลฎีกาสั่งไม่รับฎีกา.