พบผลลัพธ์ทั้งหมด 136 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 180/2485
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการยกอายุความมรดกของคู่สมรสและสิทธิขัดทรัพย์ของเจ้าของทรัพย์ร่วม
คู่สมรสซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมก็มีสิทธิยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้ทายาทโดยธรรมจำพวกอื่นได้
เจ้าของทรัพย์ร่วมกันคน 1 มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้ทั้งหมด
เจ้าของทรัพย์ร่วมกันคน 1 มีสิทธิร้องขัดทรัพย์ได้ทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2482
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องลักทรัพย์ต้องระบุเจ้าของทรัพย์ชัดเจน หากไม่ระบุถือว่าฟ้องไม่สมบูรณ์
ในฟ้องโจทก์กล่าวแต่ว่าจำเลยลักตัดไม้สะแก ซึ่งขึ้นอยู่ในที่หวงห้าม อยู่ในความปกครองของกำนันแต่ไม่ปรากฎว่าใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิต้นสะแกนั้น เป็นฟ้องที่ขาดสาระสำคัญแสดงไม่ครบองค์ความผิดฐานลักทรัพย์ จะลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 573-574/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับของโจร: เจ้าของทรัพย์ถูกยึดแล้วถูกลักทรัพย์ ยังมีความผิดฐานรับของโจรได้
จำเลยรู้อยู่แล้วว่าทรัพย์ของจำเลยถูกยึดไว้โดยคำสั่งศาลแล้วถูกลักไปจำเลยรู้แล้วบังอาจพาทรัพย์นั้นไปเสียให้พ้นเช่นนี้ ย่อมมีผิดฐานรับของโจร ประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.194-195-225 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์พิจารณาได้ความว่าจำเลยรับของโจร ลงโทษจำเลยได้ (ฟ้องก่อนตุลาคม) ข้อกฎหมายใดที่คู่ความมิได้ยกโต้เถียงมาในชั้น ศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1428/2479
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเจ้าของทรัพย์ในการเอาทรัพย์คืน: การรื้อเรือนหลังขายไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยซื้อเรือนไว้จากสามีโจทก์โดยได้ทำหนังสือต่อเจ้าพนักงาน แล้วภายหลังจำเลยจะมารื้อเรือนโจทก์ไม่ยอมออกจากเรือนจำเลยจึงรื้อเรือนแลขนของ ๆ โจทก์ออกไปเสียจากเรือน โจทก์อยู่ไม่ได้จำต้องออกไปจากเรือนดังนี้จำเลยไม่มีผิดตามกฎหมายข้างต้น เจ้าของทรัพย์ใช้สิทธิเอาทรัพย์ของตนคืนมาย่อมไม่มีความผิดทางอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2474
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการฟ้องคดีอาญา: เจ้าของทรัพย์ที่ถูกทำลายมีสิทธิมอบคดีให้อัยยการฟ้องได้ แม้ผู้บุกรุกจะได้รับความเสียหาย
ไล่กระบือเข้าไปกินต้นเข้าในนาผู้อื่นมีผิดตามาตรานี้
อย่างไรเรียกว่าเจ้าทุกข์นอกประเด็น
อย่างไรเรียกว่าเจ้าทุกข์นอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 108/2473
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานชิงทรัพย์เมื่อมีการต่อสู้กับเจ้าของทรัพย์
ฟันเจ้าทรัพย์ในขณะลักทรัพย์ มีผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1019/2472
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์จากศาลโดยไม่ระบุเจ้าของทรัพย์: ความผิดตาม ม.293
ลักทรัพย์ไปจากศาลแต่โจทก์ไม่กล่าวฟ้องว่าทรัพย์ของใคร มีผิดตาม ม.293 เท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9425/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลักทรัพย์ - เจ้าของทรัพย์ตามฟ้องไม่ตรงกับผู้เสียหายจริง - ศาลลงโทษตามข้อเท็จจริงที่ได้ความ - รอการลงโทษ
แม้ความผิดฐานลักทรัพย์จะต้องเป็นทรัพย์ของผู้อื่น แต่กฎหมายมิได้บังคับเด็ดขาดว่าต้องระบุชื่อเจ้าของทรัพย์เสมอไป เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในชั้นอุทธรณ์ว่าบริษัท ส. นายจ้างของจำเลยเป็นเจ้าของเงินที่จำเลยลักไป แตกต่างจากข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องว่าบริษัท ช. เป็นนายจ้างของจำเลยและเป็นเจ้าของเงินที่จำเลยลักไป จึงเป็นเพียงรายละเอียด มิใช่เป็นข้อแตกต่างในข้อสาระสำคัญ ทั้งจำเลยให้การรับสารภาพแสดงว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2252/2559
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องขัดทรัพย์เป็นฟ้องซ้ำ เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่าผู้ร้องไม่ใช่เจ้าของทรัพย์
จ. เคยยื่นคำร้องขัดทรัพย์อ้างเหตุว่า ที่ดินและบ้านที่โจทก์นำยึดเป็นกรรมสิทธิ์ของ จ. โดยซื้อมาจาก ส. แต่ใส่ชื่อ อ. บิดาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ถือกรรมสิทธิ์ไว้แทน คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พยานหลักฐานที่ จ. นำสืบฟังไม่ได้ว่า จ. เป็นเจ้าของที่ดินและบ้านที่โจทก์นำยึด ถือว่าศาลฎีกาได้วินิจฉัยชี้ขาดในประเด็นแห่งคดีแล้วว่า จ. มิใช่เจ้าของที่ดินและบ้านที่โจทก์นำยึด ผลของคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความคือ จ. และโจทก์รวมทั้งผู้ร้องทั้งสามซึ่งเป็นผู้สืบสิทธิของ จ. ในฐานะทายาทผู้รับพินัยกรรม ตาม ป.พ.พ. มาตรา 145 วรรคหนึ่ง การที่ผู้ร้องทั้งสามยื่นคำร้องขัดทรัพย์คดีนี้อ้างเหตุว่า จ. เป็นเจ้าของที่ดินและบ้านพิพาทโดยซื้อมาจาก ส. แต่ใส่ชื่อ อ. ถือกรรมสิทธิ์ไว้แทนอีกย่อมเป็นการรื้อร้องฟ้องกันในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน จึงเป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9890-9891/2558
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฐานความเสียหาย: เจ้าของทรัพย์ vs. ผู้จัดการมรดก คดีอาญา ยักยอกทรัพย์
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสี่ร่วมกันยักยอกทรัพย์มรดกของ ล. เจ้ามรดก โดยโจทก์ร่วมซึ่งเป็น ผู้จัดการมรดก เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย ตามฟ้องโจทก์ดังกล่าวโจทก์ร่วมได้รับความเสียหายในฐานะที่โจทก์ร่วมเป็นเจ้าของทรัพย์รวมอยู่ด้วย แม้ฟ้องโจทก์ระบุว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้จัดการมรดกก็เป็นเพียงระบุถึงสถานะของโจทก์ร่วมเท่านั้น มิได้หมายความว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้เสียหายในฐานะที่เป็นผู้จัดการมรดกของ ล. ทั้งตามบันทึกคำให้การในชั้นสอบสวนของโจทก์ร่วมก็กล่าวอ้างว่า จำเลยทั้งสี่ยักยอกทรัพย์ของโจทก์ร่วมไป โดยระบุรายละเอียดว่าโจทก์ร่วมได้ทรัพย์แต่ละรายการมาอย่างไร และให้การเพิ่มเติมภายหลังว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของโจทก์ร่วมกึ่งหนึ่ง อันเป็นการแสดงว่าโจทก์ร่วมแจ้งความร้องทุกข์โดยได้รับความเสียหายในฐานะเป็นเจ้าของทรัพย์หรือเจ้าของรวม เป็นการแจ้งความในฐานะส่วนตัว มิใช่ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ล. ดังนั้นข้ออุทธรณ์ของโจทก์ร่วมที่ว่า เมื่อฟังว่าโจทก์ร่วมเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ศาลชอบที่จะพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสี่ได้ตามฟ้องโดยไม่จำต้องเป็นเจ้าของหรือเจ้าของรวมในทรัพย์ของกลาง จึงเป็นข้อกฎหมายที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวชอบแล้ว