พบผลลัพธ์ทั้งหมด 160 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์ต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นก่อน
ป.วิ.พ. มาตรา 290 วรรค 2 มิใช่หมายความว่า เพียงแต่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ยังมีทรัพย์สินอื่นให้ผู้ร้องเรียกหรือบังคับเอาได้แล้ว ก็ต้องห้ามมิให้เฉลี่ย หากแต่หมายความถึงกรณีที่ทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องมีอยู่เพียงพอที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา คือผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จะสามารถเอาชำระได้ด้วย จึงจะต้องห้ามมิให้ขอเฉลี่ยทรัพย์ซึ่งยึดขายในคดีอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 677/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์: ศาลต้องพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ก่อน
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคสองมิใช่หมายความว่า เพียงแต่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ยังมีทรัพย์สินอื่นให้ผู้ร้องเรียกหรือบังคับเอาได้แล้ว ก็ต้องห้ามมิให้เฉลี่ย หากแต่หมายความถึงกรณีที่ทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจะต้องมีอยู่เพียงพอที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา คือผู้ร้องขอเฉลี่ยทรัพย์จะสามารถเอาชำระได้ด้วยจึงจะต้องห้ามมิให้ขอเฉลี่ยทรัพย์ซึ่งยึดขายในคดีอื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอเฉลี่ยทรัพย์จากบังคับคดี: เหตุสุดวิสัยและการยื่นคำร้องต่อศาลที่เหมาะสม
โจทก์กับผู้ร้องต่างเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยแต่ต่างศาลกัน โจทก์ฟ้องและชนะคดีที่ศาลจังหวัดอุดรธานีแล้วบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยซึ่งมีอยู่ในเขตศาลจังหวัดราชบุรี ผู้ร้องฟ้องและชนะคดีที่ศาลจังหวัดราชบุรี เมื่อปรากฏว่าศาลจังหวัดราชบุรีพิพากษาให้ผู้ร้องชนะคดีเมื่อวันสุดท้ายแห่งการขอเฉลี่ยตามสำนวนที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ ปรากฏว่า จากวันฟ้องถึงวันที่ศาลพิพากษาก็เป็นเวลาสองเดือนกับสองวัน เมื่อศาลพิพากษาแล้ว ผู้ร้องไม่มีเวลาพอที่จะไปยื่นคำร้องที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ดังนี้ ผู้ร้องก็ชอบที่จะยื่นคำร้องขอเฉลี่ยต่อศาลจังหวัดราชบุรีในกรณีเหตุฉุกเฉินตามมาตรา 10 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ศาลสั่งยกคำร้องเพราะเหตุผู้ร้องไม่ได้ยื่นต่อศาลจังหวัดอุดรธานีที่พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นสั่งให้รับคำร้องขอเฉลี่ยไว้พิจารณาต่อไปนั้น กรณียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งผู้ร้องยังโต้แย้งคำสั่งของศาลจังหวัดราชบุรีไม่ยอมรับคำร้องของผู้ร้อง ยังหาได้มีคำสั่งยกคำร้องขอเฉลี่ย โดยเหตุที่ยื่นไม่ทันกำหนดแต่ประการใดไม่ เรื่องจึงยังไม่ต้องด้วยมาตรา291 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบัญญัติให้ขอจากเงินเหลือจ่าย
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ศาลสั่งยกคำร้องเพราะเหตุผู้ร้องไม่ได้ยื่นต่อศาลจังหวัดอุดรธานีที่พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นสั่งให้รับคำร้องขอเฉลี่ยไว้พิจารณาต่อไปนั้น กรณียังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ฎีกา ซึ่งผู้ร้องยังโต้แย้งคำสั่งของศาลจังหวัดราชบุรีไม่ยอมรับคำร้องของผู้ร้อง ยังหาได้มีคำสั่งยกคำร้องขอเฉลี่ย โดยเหตุที่ยื่นไม่ทันกำหนดแต่ประการใดไม่ เรื่องจึงยังไม่ต้องด้วยมาตรา291 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ซึ่งบัญญัติให้ขอจากเงินเหลือจ่าย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์: สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา vs. การโต้แย้งหนี้สมยอม
ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอเฉลี่ย ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยไว้เพื่อขายชำระหนี้ ตามคำพิพากษา โดยผู้ร้องอ้างว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาอีกคดีหนึ่งและว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้ว เช่นนี้ แม้โจทก์จะยอมรับว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ จำเลยตามคำพิพากษาในคดีที่ผู้ร้องอ้างจริง ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยังคัดค้านอยู่ว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยทรัพย์นั้น เป็นหนี้ ที่เกิดการสมยอมกันระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ดังนี้ ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดไต่สวนและอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้เลย เพราะคำพิพากษาในคดีระหว่างผู้ร้องกับจำเลยนั้นไม่มีผลพูกพันโจทก์ในคดีนี้ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วยในคดีนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยนั้น เป็นหนี้ที่ไม่ชอบไม่ควรอย่างใดก็ย่อมได้ ศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนคำขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องกับคำคัดค้านของโจทก์ แล้ววินิจฉัยสั่งไปตามประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการเฉลี่ยทรัพย์ของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา: ศาลต้องพิจารณาหนี้สมยอมเพื่อคุ้มครองสิทธิโจทก์
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยไว้เพื่อขายชำระหนี้ตามคำพิพากษา โดยผู้ร้องอ้างว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาอีกคดีหนึ่งและว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้วเช่นนี้ แม้โจทก์จะยอมรับว่าผู้ร้องไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกและยอมรับว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาในคดีที่ผู้ร้องอ้างจริงก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยังคัดค้านอยู่ว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยทรัพย์นั้นเป็นหนี้ที่เกิดจากการสมยอมกันระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ดังนี้ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดไต่สวนและอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้เลย เพราะคำพิพากษาในคดีระหว่างผู้ร้องกับจำเลยนั้นไม่มีผลผูกพันโจทก์ในคดีนี้ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วยในคดีนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยนั้น เป็นหนี้ที่ไม่ชอบไม่ควรอย่างใดก็ย่อมได้เพื่อศาลจะได้ไม่ยอมให้ผู้ร้องเฉลี่ย ศาลจะต้องดำเนินการพิจารณาไต่สวนคำขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องกับคำคัดค้านของโจทก์ แล้ววินิจฉัยสั่งไปตามประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ที่ถูกยึด แม้จะยังไม่ได้บังคับคดี
เจ้าหน้าตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 516/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้ยังมิได้บังคับชำระหนี้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาย่อมมีสิทธิร้องขอเฉลี่ยทรัพย์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ที่ยึดได้ แม้จำเลยยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติตามคำบังคับ
ไม่มีบทบัญญัติใดที่จะห้ามมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำบังคับอยู่ยื่นขอส่วนเฉลี่ยจากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่นำยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้แล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1562/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ แม้จำเลยยังอยู่ในระหว่างปฏิบัติตามคำบังคับ
ไม่มีบทบัญญัติใดที่จะห้ามมิให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในระหว่างที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำบังคับอยู่ ยื่นขอส่วนเฉลี่ยจากเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่นำยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ไว้แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1648/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเฉลี่ยทรัพย์: เจ้าหนี้ต้องชำระหนี้ได้โดยสิ้นเชิงจากทรัพย์สินอื่น จึงจะไม่อนุญาตให้เฉลี่ยทรัพย์ซ้ำ
ในกรณีที่ร้องขอเข้าเฉลี่ยทรัพย์ตาม ม. 290 วรร 1,2 นี้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นจะเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินไม่ได้ก็แต่ในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอยู่และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้นยังอาจเอาชำระได้ จากทรัพย์สินอื่น ๆ นั้น
คำว่า "สามารถ+ชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ " นั้นหมายความว่าเอาชำระได้โดยสิ้นเชิง การได้ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหาใช่เป็นการสามารถเอาชำระหนี้ได้ตาม ม.290 วรรค 2 ไม่
ม.290 วรรค 2 บัญญัติไว้สำหรับห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นมิให้เข้ามาขอเฉลี่ยในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่อีก และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้น สามารถเอาชำระจากทรัพย์สินนั้นได้เท่านั้น
คำว่า "สามารถ+ชำระได้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ " นั้นหมายความว่าเอาชำระได้โดยสิ้นเชิง การได้ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหาใช่เป็นการสามารถเอาชำระหนี้ได้ตาม ม.290 วรรค 2 ไม่
ม.290 วรรค 2 บัญญัติไว้สำหรับห้ามเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นมิให้เข้ามาขอเฉลี่ยในกรณีที่ยังมีทรัพย์สินของลูกหนี้อยู่อีก และเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนั้น สามารถเอาชำระจากทรัพย์สินนั้นได้เท่านั้น