พบผลลัพธ์ทั้งหมด 491 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกักขังแทนค่าปรับเกินหนึ่งปีต้องมีคำสั่งชัดเจน การพิพากษาเพิ่มโทษโดยโจทก์มิได้อุทธรณ์เป็นเหตุต้องห้าม
การกักขังแทนค่าปรับในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป ศาลมีอำนาจให้กักขังเกินกว่าหนึ่งปีแต่ไม่เกินสองปีได้แต่ศาลจะต้องสั่งไว้ให้ชัดแจ้งหากศาลไม่ได้สั่งไว้โดยชัดแจ้งก็จะกักขังเกินกำหนดหนึ่งปีไม่ได้
ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาสั่งในคำร้องขอให้รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า"พิเคราะห์แล้วอนุญาตให้รับเป็นฎีกา สำเนาอีกฝ่ายแก้" คำสั่งดังกล่าวถือไม่ได้ว่าได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในคำสั่งมิได้แสดงว่ามีข้อความใดที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกาวินิจฉัยและอนุญาตให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 กำหนดให้ปรับเป็นสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วการปรับจึงต้องปรับเป็นสี่เท่าของราคาของและค่าอากรรวมกันหาใช่ปรับสี่เท่าเฉพาะราคาของอย่างเดียวแล้วบวกกับค่าอากรไม่
ผู้พิพากษาในศาลชั้นต้นซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาสั่งในคำร้องขอให้รับฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า"พิเคราะห์แล้วอนุญาตให้รับเป็นฎีกา สำเนาอีกฝ่ายแก้" คำสั่งดังกล่าวถือไม่ได้ว่าได้อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เพราะในคำสั่งมิได้แสดงว่ามีข้อความใดที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกาวินิจฉัยและอนุญาตให้ฎีกา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 221
พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 กำหนดให้ปรับเป็นสี่เท่าของราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วการปรับจึงต้องปรับเป็นสี่เท่าของราคาของและค่าอากรรวมกันหาใช่ปรับสี่เท่าเฉพาะราคาของอย่างเดียวแล้วบวกกับค่าอากรไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำที่มีอายุไม่เกิน 17 ปี ต้องนำหลักเกณฑ์จากประมวลกฎหมายอาญามาใช้
จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกในคดีก่อนฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองมีกำหนด 6 เดือน ในขณะที่จำเลยมีอายุไม่เกิน 17 ปี แล้วมากระทำผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในคดีนี้อีก จะเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา97 ไม่ได้ เพราะประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 17 ได้บัญญัติให้นำบทบัญญัติในภาค 1 ไปใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่กฎหมายนั้นๆ จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มิได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น จึงต้องนำประมวลกฎหมายอาญามาตรา 94 มาใช้บังคับแก่คดีนี้ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 101/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมเดียวผิดหลายบท-การเพิ่มโทษเกินกรอบ: กรณีประทับตราอนุญาตชักลากไม้และทำบัญชีเท็จ
ตามระเบียบการตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ และตามคำสั่งของป่าไม้เขตที่ให้จำเลยออกไปตรวจวัดประทับตราอนุญาตชักลากไม้ จำเลยจะต้องทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้เป็นเท็จก็เพื่อให้การประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้อง ตามระเบียบเสร็จสิ้นไปโดยบริบูรณ์ การทำบัญชีอนุญาตชักลากไม้เป็นเท็จกับการประทับตราอนุญาตชักลากไม้ไม่ถูกต้องตามระเบียบจึงเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แม้ขั้นตอนที่จะต้องกระทำ จำเลยต้องประทับตราอนุญาตชักลากไม้ก่อนแล้วจึงทำบัญชีอนุญาตชักลากก็หาทำให้การกระทำของจำเลยเป็นสองกรรมต่างกันไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157 ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยตามมาตรา 160, 162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 แต่ละกรรมเป็นความผิดตามมาตรา 157 ด้วย ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักทั้งสองกระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี ข้อหาทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติด้วย ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยตามมาตรา 160, 162 เป็นความผิดกรรมเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 160, 162 และ 157 ให้ลงโทษตามมาตรา 157 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด จำคุก 10 ปี ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยหนักขึ้น การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยกระทงเดียว 10 ปี เป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลย ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำคุกตาม ม.92 อาญา ต้องพิจารณาแต่ละกรรมความผิด การลงโทษปรับในบางกรรมความผิดไม่อาจนำมาเพิ่มโทษได้
การพิจารณาถึงคำพิพากษาลงโทษครั้งหลังถึงจำคุก อันเป็นหลักเกณฑ์ในการเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ประมวลกฎหมายอาญาต้องพิจารณาถึงการกระทำความผิดแต่ละกรรมเมื่อการกระทำความผิดฐานมีกระสุนปืนศาลเพียงลงโทษปรับจึงเพิ่มโทษความผิดฐานนี้มิได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในความผิดซ้ำเกี่ยวกับยาเสพติด และการจำแนกประเภทของยาเสพติดให้โทษ
คำว่าพระราชบัญญัตินี้ (ตามมาตรา 97) ย่อมมีความหมายว่าหมายถึงพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดฐานมีและเสพยาเสพติดให้โทษโดยไม่รับอนุญาตและต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีกในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษ การเพิ่มโทษจึงต้องเพิ่มอีกกึ่งหนึ่ของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลังตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ซึ่งแม้จะได้ยกเลิกพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับก่อน ๆ แล้วก็ตาม
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษคดียาเสพติดซ้ำ และการจำแนกประเภทของยาเสพติดให้โทษตามกฎหมาย
คำว่าพระราชบัญญัตินี้ (ตามมาตรา97) ย่อมมีความหมายว่าหมายถึงพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดฐานมีและเสพยาเสพติดให้โทษโดยไม่รับอนุญาตและต่อมาจำเลยได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้อีกในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษการเพิ่มโทษจึงต้องเพิ่มอีกกึ่งหนึ่งของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลังตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522. ซึ่งแม้จะได้ยกเลิกพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฉบับก่อน ๆ แล้วก็ตาม
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4ทวิแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
เฮโรอีนหรือเกลือของเฮโรอีนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4ทวิแห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ส่วนมาตรา 76 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 นั้นใช้กับยาเสพติดให้โทษในประเภท 5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษการพนัน: 'พ้นโทษ' หมายถึงการได้รับโทษจริง ไม่ใช่รอการลงโทษ
พระราชบัญญัติกาพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 14 ทวิ บัญญัติว่า "ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก
(1) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทวีคูณ
(2) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ"
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆ ในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่วันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัว กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้ง 7/2522)
(1) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทวีคูณ
(2) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ"
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆ ในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่วันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัว กรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้ง 7/2522)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3076/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษการพนัน: 'พ้นโทษ' หมายถึงการได้รับโทษจริง ไม่ใช่รอการลงโทษ
พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 14 ทวิบัญญัติว่า "ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อพ้นโทษแล้วยังไม่ครบกำหนด 3 ปี กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัตินี้อีก (1) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่ได้กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกและปรับให้วางโทษทวีคูณ (2) ถ้าโทษซึ่งกำหนดไว้สำหรับความผิดที่กระทำครั้งหลังเป็นโทษจำคุกหรือปรับให้วางโทษทั้งจำทั้งปรับ"
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงแต่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัวกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2523)
คำว่าพ้นโทษตามบทบัญญัติของมาตราดังกล่าว คือพ้นโทษที่ได้รับจริงๆในคดีก่อนนั่นเอง เมื่อในคดีก่อนจำเลยไม่ได้รับโทษจำคุก จึงไม่มีวันพ้นโทษจำคุกที่จะถือเอาเป็นเกณฑ์ในการเพิ่มโทษจำเลยได้
เพียงแต่ศาลรอการลงโทษจำคุกไว้ก็ไม่ใช่โทษซึ่งครบกำหนดตามที่รอไว้แล้วจะได้เป็นการพ้นโทษไปได้ในตัวกรณีจึงถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดอีก จึงเพิ่มโทษจำเลยไม่ได้ (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2523)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2962/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มโทษจำเลยในคดีพนัน: โทษรอการลงโทษยังไม่ถือเป็นพ้นโทษ
โทษที่ศาลรอการลงโทษถือว่าจำเลยยังไม่ได้รับโทษจำเลยมากระทำความผิดในระหว่างรอการลงโทษ ถือไม่ได้ว่าจำเลยพ้นโทษแล้วมากระทำความผิดครั้งนี้อีก จึงเพิ่มโทษจำเลย ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 ม.14 ทวิ ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดซ้ำเกี่ยวกับกัญชาหลัง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ มีผลเพิ่มโทษจำเลยได้
จำเลยถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตซ้ำกันถึง 2 ครั้ง ภายในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษคดีก่อนแม้ว่าโทษครั้งก่อนจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติกัญชาแต่พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ได้บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติกัญชาทั้งฉบับแล้วนำมาบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษโดยให้ถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 และผู้ที่มีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตมีความผิดฉะนั้น การที่จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตทั้งในคดีก่อนและคดีหลังจึงต้องถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษด้วยกันจึงอยู่ในเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษจำเลยตามมาตรา 97 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.2522 ได้