พบผลลัพธ์ทั้งหมด 567 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2443/2538
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำเอกสารให้พยานฝ่ายตรงข้ามดูแล้วส่งศาล ถือเป็นการสืบพยานหลักฐานนอกอำนาจจำเลยขาดนัด
เมื่อจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การจำเลยมีสิทธิเพียงอ้างตนเองเป็นพยานกับซักค้านพยานโจทก์ไม่มีสิทธินำพยานของจำเลยเข้าสืบไม่ว่าพยานบุคคลหรือพยานเอกสารการที่จำเลยนำเอกสารมาให้พยานโจทก์ดูประกอบการถามค้านพยานโจทก์แล้วส่งเอกสารนั้นต่อศาลโดยที่พยานโจทก์ไม่ได้เบิกความรับรองข้อความในเอกสารดังกล่าวเท่ากับจำเลยเรียกพยานหลักฐานของตนเข้าสืบฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา199วรรคสองจึงต้องห้ามมิให้รับฟัง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2304/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่สาธารณประโยชน์เกิดขึ้นได้ตามสภาพการใช้ประโยชน์ของประชาชน ไม่ต้องมีเอกสารทางราชการรับรอง
ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินประเภทที่เป็นทรัพย์สินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันนั้น เกิดขึ้นเป็นอยู่ตามสภาพของที่ดินและการใช้ร่วมกันของประชาชนโดยไม่จำต้องขึ้นทะเบียนหรือมีเอกสารของทางราชการกำหนดให้เป็นที่สาธารณประโยชน์เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าที่ดินพิพาทเป็นที่สาธารณประโยชน์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์สำหรับที่ดินพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเอาเอกสารของผู้อื่นไป ทำให้เกิดความเสียหายต่อเจ้าของและผู้อื่น เป็นความผิดตามกฎหมาย
การที่จำเลยเอาบัญชีรายชื่อหัวหน้าครอบครัวชุมชน อ.ที่ประชาชนในชุมชน อ.ได้รวบรวมขึ้นและมอบไว้แก่ผู้เสียหายไปจากผู้เสียหายหลังจากผู้เสียหาย จำเลยและ อ.ได้เจรจากันเกี่ยวกับเรื่องประชาชนจะปลดจำเลยออกจากประธานกรรมการชุมชน อ. เป็นเหตุให้ผู้เสียหายไม่สามารถนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นต่อผู้อำนวยการเขต ป.ได้ เป็นการกระทำที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือประชาชน การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเอาเอกสารผู้อื่นไปเสีย เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2182/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองเอกสารของผู้อื่นไปโดยไม่คืน ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
จำเลยเอาเอกสารบัญชีรายชื่อหัวหน้าครอบครัวในเขตชุมชน ซึ่งประชาชนนำมามอบให้ผู้เสียหายเป็นผู้เก็บรักษาไว้ไปแล้วไม่คืนให้ผู้เสียหายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไม่สามารถนำไปยื่นต่อผู้อำนวยการเขตเพื่อให้ความ เห็นชอบให้จำเลยพ้นจากตำแหน่งประธานชุมชนได้ เป็นการกระทำ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายหรือประชาชน มีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2538 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารหลักฐานการยืมเงินต้องมีลายมือชื่อผู้ยืมจึงใช้บังคับคดีได้
เอกสารที่จำเลยเขียนมีข้อความว่า "วันที่ 11 กันยายน 2528วัฒนา สุขสำราญ ได้ยืมเงินพี่ดาหกหมื่นบาทถ้วน" ถือไม่ได้ว่าชื่อจำเลยที่เขียนไว้เป็นการลงลายมือชื่อ เมื่อเอกสารไม่มีลายมือชื่อของจำเลยลงไว้ในฐานะเป็นผู้ยืมจึงไม่เป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ยืมที่จะใช้ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ ตามความมุ่งหมายของ ป.พ.พ. มาตรา 653 วรรคหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1989/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารกู้ยืมเงินที่ไม่มีลายมือชื่อผู้กู้ แม้จะเขียนด้วยมือผู้กู้เอง ก็ใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
จำเลยเขียนเอกสารการกู้ยืมเงินด้วยลายมือตนเองโดยระบุชื่อจำเลยเป็นผู้กู้ยืมเงินโจทก์แต่จำเลยมิได้ลงลายมือชื่อไว้ดังนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการกู้ยืมเงินซึ่งมีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยโจทก์จึงฟ้องบังคับจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1701/2538 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับชำระหนี้เฉพาะส่วนของสัญญาซื้อขายและการนำเสนอเอกสารไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
เมื่อโจทก์ตกลงทำสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทซึ่งมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์รวมกับที่ดินที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียนจาก จ. เป็นเนื้อที่รวม80 ไร่ ในสัญญาฉบับเดียวกันและกำหนดราคารวมเป็นเงิน 530,000 บาท โดยโจทก์ได้ชำระราคาบางส่วนเป็นเงิน 45,000 บาท โจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ จ.รับชำระหนี้ค่าซื้อที่ดินอีกเพียง 68,750 บาทแล้วโอนแต่เฉพาะที่พิพาทตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เนื้อที่ 17 ไร่ 2 งานซึ่งเป็นที่ดินเพียงบางส่วนตามสัญญาจะซื้อขายที่โจทก์ตกลงซื้อจาก จ.นั้น ย่อมมีผลเท่ากับเป็นการบังคับให้เจ้าหนี้รับชำระหนี้แต่เพียงบางส่วน โดยจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของ จ.มิได้ยินยอม หาอาจจะบังคับได้ไม่ ตามประมวลกฎหมาย-แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 320 โจทก์จึงย่อมไม่มีอำนาจฟ้องเลือกบังคับชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนได้
สำเนาสัญญาจะซื้อขายมิใช่เป็นเอกสารตามที่กฎหมายต้องการให้ต้องแนบมาพร้อมกับคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18ทั้งเมื่อเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีเมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานดังกล่าวศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ แม้โจทก์จะส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติในมาตรา 90 ก็ตาม ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
คดีที่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 238, 247
สำเนาสัญญาจะซื้อขายมิใช่เป็นเอกสารตามที่กฎหมายต้องการให้ต้องแนบมาพร้อมกับคำฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18ทั้งเมื่อเอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญซึ่งเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดีเมื่อศาลเห็นว่าเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมจำเป็นต้องสืบพยานหลักฐานดังกล่าวศาลก็มีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานเช่นว่านั้นได้ แม้โจทก์จะส่งสำเนาเอกสารดังกล่าวให้แก่จำเลยโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติในมาตรา 90 ก็ตาม ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87 (2)
คดีที่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2ได้วินิจฉัยจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 238, 247
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 811/2537
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสภาพหนี้ต้องมีมูลหนี้เดิม หากไม่มีมูลหนี้ เอกสารรับสภาพหนี้ก็ไม่ผูกพัน
การรับสภาพหนี้หรือแปลงหนี้ใหม่ต้องมีมูลหนี้เดิมก่อนเมื่อ ท. ไม่มีหนี้ต้องรับผิดต่อโจทก์ แม้จำเลยทำบันทึกยอมใช้หนี้โจทก์แทน ท. ก็หาทำให้เอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือรับสภาพหนี้หรือแปลงหนี้ใหม่ไม่ ทั้งไม่ก่อให้เกิดมูลหนี้จึงไม่ผูกพันจำเลย การนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารต้องเป็นการนำสืบในลักษณะที่อ้างว่ายังมีข้อเท็จจริงอย่างอื่นเพิ่มเติมตัดทอนหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความที่ปรากฏอยู่ในเอกสาร การที่จำเลยนำสืบถึงเหตุผลที่จำเลยต้องลงชื่อในเอกสารเพื่อแสดงว่าไม่มีมูลหนี้ที่จำเลยต้องรับผิด จึงมิใช่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสาร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7494/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานในคดีแพ่ง: เอกสารท้ายคำให้การ & การต่อสู้คดีไม่ขัดแย้ง
เอกสารท้ายคำให้การที่จำเลยอ้างถึงในคำให้การถือเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การจึงไม่ต้องระบุอ้างเอกสารดังกล่าวในบัญชีระบุพยานอีกศาลรับฟังได้ การที่จำเลยไม่เสียค่าอ้างเอกสารนั้นไม่ปรากฎว่าจำเลยจงใจฝ่าฝืนไม่เสียและศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งเรียกเก็บ จึงมิใช่ความบกพร่องของจำเลย ไม่ควรยกเป็นเหตุไม่รับฟังเอกสาร จำเลยให้การต่อสู้ใจความว่า จำเลยไม่ได้กู้เงินจากโจทก์ตามฟ้อง ไม่เคยทำสัญญากู้เงินกับโจทก์ โจทก์บังคับให้จำเลยลงลายมือชื่อในกระดาษเปล่า เป็นการปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิงและอ้างที่มาแห่งสัญญากู้เงินตามฟ้องว่ามีความเป็นมาอย่างไรเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งไม่ขัดกัน ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ไม่เชื่อว่าจำเลยทำสัญญากู้เงินโจทก์ตามฟ้องจึงมิใช่การวินิจฉัยนอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5406/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ผลความเห็นผู้เชี่ยวชาญเป็นหลักฐาน และการเสียค่าอ้างเอกสารหลังมีคำพิพากษา
โจทก์อ้างสัญญายืมข้าวเปลือกเป็นพยาน ต่อมาคู่ความท้ากันให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อจำเลยในเอกสารดังกล่าวโดยให้ถือความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นข้อแพ้ชนะ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแพ้คดีโดยอาศัยผลจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญดังกล่าว ดังนี้ การที่ไม่ได้เสียค่าอ้างเอกสารจึงเป็นเรื่องนอกเหนือคำท้า ไม่มีผลทำให้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นเสียไป เมื่อได้ความว่าโจทก์เสียค่าอ้างเอกสารดังกล่าวแล้ว แม้จะเสียภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้