พบผลลัพธ์ทั้งหมด 152 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 970/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรโชกทรัพย์: การข่มขู่ว่าจะแจ้งความเพื่อเรียกเงิน
จำเลยได้ไปพูดหาว่า ผ.เป็นคนร้ายปล้นทรัพย์ของจำเลยถ้าผ. ไม่ให้เงินแก่จำเลย 200 บาท จำเลยจะไปแจ้งแก่เจ้าพนักงานตำรวจมาจับผ. กลัว จึงยอมตกลงไปหาเงินมาให้จำเลยและได้ความว่าจำเลยมิได้สงสัย ผ. ในการปล้น ดังนี้ การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดฐานกรรโชก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากรับมรดกอาวุธปืนโดยไม่แจ้งต่อการมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการใช้กฎหมายคนละฉบับ ศาลไม่อาจลงโทษได้
จำเลยได้รับมฤดกอาวุธปืนจากบิดาจำเลย ซึ่งได้รับอนุญาตให้มีโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่จำเลยมิได้ไปแจ้งความขอรับมฤดกภายในกำหนดของกฎหมายและการกระทำของจำเลยอยู่ในระหว่างใช้ พ.ร.บ.อาวุธปืน 2477 โจทก์จะเปลี่ยนฐานความผิดมาฟ้องขอให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 มาตรา 7, 72 ไม่ได้
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 26/2492
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ของถูกลักไม่ใช่ของตกของหาย – การแจ้งความและการพิสูจน์ความผิด
ของที่ถูกลักไปโดยไม่ปรากฏเหตุอื่นอีก ยังเรียกไม่ได้ว่าเป็นของตกของหายตามความหมายกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 318 (อ้างฎีกา 738/2481)
โจทก์กล่าวในฟ้องเพียงว่า ไซของกลางเป็นของที่ถูกลักแล้วจับได้จากจำเลย เมื่อไม่ปรากฏเหตุอื่นใดอีก ลงโทษจำเลยตามมาตรา 318 ไม่ได้
โจทก์กล่าวในฟ้องเพียงว่า ไซของกลางเป็นของที่ถูกลักแล้วจับได้จากจำเลย เมื่อไม่ปรากฏเหตุอื่นใดอีก ลงโทษจำเลยตามมาตรา 318 ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2490 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้า การแจ้งความเท็จ และสิทธิในการคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้าที่ ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 237 คุ้มครองไว้นั้น ย่อมหมายถึงเครื่องหมายที่ได้ใช้แล้วกับสินค้าที่ได้ใช้แล้วกับสินค้า รอยรูปขีดเขียนที่ประดิษฐ์ขึ้นแล้ว เก็บไว้โดยยังมิได้ใช้ในการค้าอย่างใด ๆ นั้น หาได้รับความคุ้มครองตาม ก.ม.ไม่
ในคดีมูลละเมิดฐานะทำให้โจทก์เสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพนั้น โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความว่า จำเลยได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพ เพียงแต่ได้ความว่าโจทก์ถูกตำรวจจับไป เนื่องจากคำซักทอดของผู้อื่นซึ่งจำเลยแจ้งความให้จับ โดยจำเลยไม่ทราบว่าเกี่ยวเนื่องถึงโจทก์ด้วยนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
ยื่นคำคัดค้านการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ต่อนายทะเบียนโดยเชื่อว่าตนมีสิทธิในเครื่องหมายดีกว่าผู้ขอจดทะเบียนนั้น เป็นการใช้สิทธิในการคัดค้านโดยสุจริต
ในคดีมูลละเมิดฐานะทำให้โจทก์เสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพนั้น โจทก์จะต้องสืบให้ได้ความว่า จำเลยได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพ เพียงแต่ได้ความว่าโจทก์ถูกตำรวจจับไป เนื่องจากคำซักทอดของผู้อื่นซึ่งจำเลยแจ้งความให้จับ โดยจำเลยไม่ทราบว่าเกี่ยวเนื่องถึงโจทก์ด้วยนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
ยื่นคำคัดค้านการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ต่อนายทะเบียนโดยเชื่อว่าตนมีสิทธิในเครื่องหมายดีกว่าผู้ขอจดทะเบียนนั้น เป็นการใช้สิทธิในการคัดค้านโดยสุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2490
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้เครื่องหมายการค้า การแจ้งความ และสิทธิคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายการค้าที่ กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 237 คุ้มครองไว้นั้น ย่อมหมายถึงเครื่องหมายที่ได้ใช้แล้วกับสินค้า รอยรูป,ขีดเขียนที่ประดิษฐ์ขึ้นแล้ว เก็บไว้โดยยังมิได้ใช้ในการค้าอย่างใดๆ นั้น หาได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ไม่
ในคดีมูลละเมิดฐานทำให้โจทก์เสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพนั้นโจทก์จะต้องสืบให้ได้ความว่า จำเลยได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพ เพียงแต่ได้ความว่าโจทก์ถูกตำรวจจับไป เนื่องจากคำซัดทอดของผู้อื่นซึ่งจำเลยแจ้งความให้จับ โดยจำเลยไม่ทราบว่าเกี่ยวเนื่องถึงโจทก์ด้วยนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
ยื่นคำคัดค้านการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ต่อนายทะเบียนโดยเชื่อว่าตนมีสิทธิในเครื่องหมายดีกว่า ผู้ขอจดทะเบียนนั้น เป็นการใช้สิทธิในการคัดค้านโดยสุจริต
ในคดีมูลละเมิดฐานทำให้โจทก์เสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพนั้นโจทก์จะต้องสืบให้ได้ความว่า จำเลยได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อกระทำให้โจทก์ต้องเสียหายต่อร่างกายและเสรีภาพ เพียงแต่ได้ความว่าโจทก์ถูกตำรวจจับไป เนื่องจากคำซัดทอดของผู้อื่นซึ่งจำเลยแจ้งความให้จับ โดยจำเลยไม่ทราบว่าเกี่ยวเนื่องถึงโจทก์ด้วยนั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์
ยื่นคำคัดค้านการขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ต่อนายทะเบียนโดยเชื่อว่าตนมีสิทธิในเครื่องหมายดีกว่า ผู้ขอจดทะเบียนนั้น เป็นการใช้สิทธิในการคัดค้านโดยสุจริต
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินหายาก ไม่ใช่ทรัพย์แผ่นดิน ผู้เก็บไม่ต้องแจ้ง หากไม่ปรากฏเจ้าของ
สร้อยคอและแหวนซึ่งเป็นของใช้ของบุคคลธรรมดานั้น ไม่ใช่วัตถุโบราณหรือของมีค่า อันจะพึงถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของ แผ่นดิน
สร้อยคอและแหวน ซึ่งไม่ปรากฏตัวเจ้าของ ตกอยู่ในลำธารห้วยน้ำไหลนั้น ผู้เก็บได้ไม่จำต้องปฏิบัติตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.1323 (3) และการเอาไว้ไม่เป็นผิดตาม ม.318 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา
ฟ้องว่าของที่เก็บได้เป็นทรัพย์ไม่ปรากฏตัวเจ้าของและเป็นทรัพย์แผ่นดิน โจทก์ต้องนำสืบว่าทรัพย์นั้นเป็นของใคร หายมาอย่างใด และเป็นทรัพย์ที่แผ่นดินต้องการสงวนไว้อย่างใดด้วย ถ้าโจทก์สืบไม่สมฟ้องก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
สร้อยคอและแหวน ซึ่งไม่ปรากฏตัวเจ้าของ ตกอยู่ในลำธารห้วยน้ำไหลนั้น ผู้เก็บได้ไม่จำต้องปฏิบัติตาม ป.ม.แพ่ง ฯ ม.1323 (3) และการเอาไว้ไม่เป็นผิดตาม ม.318 แห่ง ก.ม.ลักษณะอาญา
ฟ้องว่าของที่เก็บได้เป็นทรัพย์ไม่ปรากฏตัวเจ้าของและเป็นทรัพย์แผ่นดิน โจทก์ต้องนำสืบว่าทรัพย์นั้นเป็นของใคร หายมาอย่างใด และเป็นทรัพย์ที่แผ่นดินต้องการสงวนไว้อย่างใดด้วย ถ้าโจทก์สืบไม่สมฟ้องก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์สินไม่ปรากฏเจ้าของ: สร้อยคอและแหวนไม่ใช่ทรัพย์แผ่นดิน ผู้เก็บไม่ต้องแจ้ง
สร้อยคอและแหวนซึ่งเป็นของใช้ของบุคคลธรรมดานั้น ไม่ใช่วัตถุโบราณหรือของมีค่าอันจะพึงถือว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของแผ่นดิน
สร้อยคอและแหวนซึ่งไม่ปรากฏตัวเจ้าของ ตกอยู่ในลำธารห้วยน้ำไหลนั้นผู้เก็บได้ไม่จำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1323(3)และการเอาไว้ไม่เป็นผิดตาม มาตรา 318 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา
ฟ้องว่าของที่เก็บได้เป็นทรัพย์ไม่ปรากฏตัวเจ้าของและเป็นทรัพย์แผ่นดินโจทก์ต้องนำสืบว่าทรัพย์นั้นเป็นของใคร หายมาอย่างใด และเป็นทรัพย์ที่แผ่นดินต้องการสงวนไว้อย่างใดด้วย ถ้าโจทก์สืบไม่สมฟ้องก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
สร้อยคอและแหวนซึ่งไม่ปรากฏตัวเจ้าของ ตกอยู่ในลำธารห้วยน้ำไหลนั้นผู้เก็บได้ไม่จำต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1323(3)และการเอาไว้ไม่เป็นผิดตาม มาตรา 318 แห่งกฎหมายลักษณะอาญา
ฟ้องว่าของที่เก็บได้เป็นทรัพย์ไม่ปรากฏตัวเจ้าของและเป็นทรัพย์แผ่นดินโจทก์ต้องนำสืบว่าทรัพย์นั้นเป็นของใคร หายมาอย่างใด และเป็นทรัพย์ที่แผ่นดินต้องการสงวนไว้อย่างใดด้วย ถ้าโจทก์สืบไม่สมฟ้องก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัยการไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินบนแทนผู้แจ้งความ
ในคดีทีพนักงานอัยการฟ้องจำเลยฐานขายทรัพย์ราคา 188 บาทไม่ออกใบรับเงินให้แก่ผู้ซื้ออันเป็นผิดตามประมวลรัษฎากรซึ่งได้มีบุคคลกล่าวหาแจ้งความให้คดีปรากฏขึ้นเพื่อจะได้รับค่าสินบนนั้น พนักงานอัยการไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าสินบนแทนผู้กล่าวหาแจ้งความได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2487 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำแจ้งความที่ปราศจากเจตนาให้ดำเนินคดีอาญา ไม่ถือเป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
+ความของผู้เสียหายที่แจ้งต่อเจ้า+ว่าไม่ประสงค์ให้สอบสวน+และแจ้งเพื่อไห้รัฐบ+++เท่านั้น นั้น ไม่เปน+ตามกดหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 214/2487
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำแจ้งความไม่ประสงค์ให้สอบสวน ไม่เป็นคำร้องทุกข์
คำแจ้งความของผู้เสียหายที่แจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าไม่ประสงค์ให้สอบสวนเป็นรูปคดีและแจ้งเพื่อให้รับทราบเป็นหลักฐานเท่านั้น นั้น ไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย