พบผลลัพธ์ทั้งหมด 391 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหุ้นโดยมิได้รับความยินยอม และการครอบครองปรปักษ์ที่ไม่สมบูรณ์
ม. กรรมการผู้จัดการของนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดได้ทำรายงานการประชุมโดยไม่มีการประชุมว่า เจ้าของหุ้นโอนหุ้นให้แก่ ม. และได้โอนหุ้น เป็นชื่อ ม. แล้ว และได้ส่งรายงานการประชุมไปเก็บไว้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด โดยไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดทราบถึงเรื่องราวในรายงานการประชุมดังกล่าว ดังนี้การที่ ม. ได้ครอบครองหุ้นดังกล่าวไว้จึงเป็นการกระทำโดยปิดบังซ่อนเร้น ไม่เปิดเผย ไม่ครบเกณฑ์ที่จะทำให้ ม. ได้กรรมสิทธิ์ในหุ้นโดยการครอบครองปรปักษ์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1382 คำแก้ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาพิพากษานอกเหนือจากคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ต้องกระทำโดยยื่นคำฟ้องฎีกา จะเพียงแต่ขอมาในคำแก้ฎีกาหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5642/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่สมบูรณ์ ขาดรายละเอียดข้อโต้แย้ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ฎีกาของจำเลยมีใจความสำคัญสรุปได้เพียงว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยยังขาดเอกสารสำคัญเกี่ยวกับคดีได้ติดต่อไปยังทนายจำเลยแล้วแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ เกรงว่าอายุฎีกาจะสิ้นสุดลงจึงได้ยื่นฎีกาไว้ก่อน ส่วนข้อโต้แย้งคัดค้านอันเป็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในฎีกานั้นจำเลยจะยื่นรายละเอียดอีกในภายหลัง จำเลยมิได้กระทำความผิดตามฟ้องเท่านั้นมิได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกอ้างอิงไว้เลยว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคดีไม่ชอบหรือขัดต่อกฎหมายอย่างไร รายละเอียดที่จำเลยอ้างว่าจะยื่นเข้ามาในภายหลังก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้ยื่นเข้ามาภายในอายุฎีกาและมิได้ขอขยายเวลายื่นฎีกาแต่อย่างใด ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นฎีกาที่คัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 และมาตรา 216ศาลฎีกาย่อมไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3411/2534 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดประเภทอัตราอากรขาเข้า: เครื่องทำความเย็นไม่สมบูรณ์
สินค้า 3 รายการที่โจทก์นำเข้าคือ เครื่องอัดก๊าซแอมโมเนียหรือคอมเพรสเซอร์อุปกรณ์ประกอบเครื่องทำความเย็นหรือเพลทฟรีสเซอร์ และเครื่องปั๊มน้ำยาแอมโมเนีย ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้ว เพราะคงมีส่วนสำคัญส่วนเดียวคือ คอมเพรสเซอร์ ส่วนคอนเดนเซอร์และอีวาปอเรอตอร์ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอีก 2 อย่างนั้นโจทก์มิได้นำเข้ามาด้วย จึงไม่ใช่สินค้าที่สมบูรณ์แล้ว ดังนั้น จำเลยจึงไม่อาจเรียกเก็บอากรในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8418.69(1) เครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้วได้ โจทก์ชอบที่จะเสียอากรตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่8414.30 (1) ที่ 8418.99 (2) และที่ 8413.81 ตามลำดับเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3411/2534 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินพิกัดอัตราอากร: สินค้าประกอบสำเร็จรูปยังไม่ครบถ้วน ไม่ถือเป็น 'เครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์'
สินค้า 3 รายการ คือ เครื่องอัดก๊าซแอมโมเนีย หรือคอมเพรสเซอร์อุปกรณ์ประกอบเครื่องทำความเย็นหรือเพลทปรีสเซอร์ และเครื่องปั๊มน้ำยาแอมโมเนีย ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้ว เพราะคงมีส่วนสำคัญส่วนเดียวคือ คอมเพรสเซอร์ ส่วนคอนเดนเซอร์ และอีวาปอเรเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอีก 2 อย่างนั้นโจทก์มิได้นำเข้ามาด้วย จึงไม่ใช่สินค้าที่สมบูรณ์แล้ว ดังนั้นจำเลยจึงไม่อาจเรียกเก็บอากรในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8418.69(1)เครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้วได้ โจทก์ชอบที่จะเสียอากรตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8414.30(1) ที่ 8418.99(2) และที่8413.81 ตามลำดับเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3411/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดประเภทอัตราอากรขาเข้า: สินค้าประกอบสำเร็จรูปไม่ใช่เครื่องทำความเย็นสมบูรณ์
สินค้า 3 รายการที่โจทก์นำเข้าคือ เครื่องอัดก๊าซแอมโมเนียหรือคอมเพรสเซอร์ อุปกรณ์ประกอบเครื่องทำความเย็นหรือเพลทฟรีสเชอร์และเครื่องปั๊มน้ำยาแอมโมเนีย ยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้ว เพราะคงมีส่วนสำคัญส่วนเดียวคือคอมเพรสเซอร์ ส่วนคอนเดนเซอร์และอีวาปอเรเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอีก 2 อย่างนั้นโจทก์มิได้นำเข้ามาด้วย จึงไม่ใช่สินค้าที่สมบูรณ์แล้ว ดังนั้น จำเลยจึงไม่อาจเรียกเก็บอากรในพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8418.69(1) เครื่องทำความเย็นที่สมบูรณ์แล้วได้โจทก์ชอบที่จะเสียอากรตามพิกัดอัตราอากรขาเข้าประเภทที่ 8414.30(1)ที่ 8418.99(2) และที่ 8413.81 ตามลำดับเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 20/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้ที่ดินด้วยวาจาไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ผู้รับให้ไม่มีสิทธิเรียกร้อง
ก่อนมารดาโจทก์ถึงแก่กรรมได้สั่งให้พี่ชายโจทก์แบ่งที่ดินของมารดาโจทก์ซึ่งพี่ชายโจทก์เป็นผู้มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดแทนให้แก่โจทก์และพี่น้องอีก 3 คน พี่ชายโจทก์ได้แบ่งที่ดินให้พี่น้อง 3 คนแล้ว แต่ยังไม่ได้แบ่งให้โจทก์ พี่ชายโจทก์ก็ถึงแก่กรรมไปก่อน ดังนี้ เมื่อมารดายกที่ดินให้โจทก์ด้วยวาจาไม่ได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่การให้ดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 525,456 ที่ดินยังเป็นของมารดา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกที่ดินจากจำเลยซึ่งเป็นภรรยาและผู้จัดการมรดกของพี่ชายในฐานะผู้รับให้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1556/2534
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้ยืมที่ไม่สมบูรณ์จากการกรอกข้อความภายหลังโดยไม่ยินยอม
จำเลยลงชื่อในหนังสือสัญญากู้โดยไม่กรอกข้อความ โจทก์ได้กรอกข้อความในหนังสือสัญญากู้นั้นว่าจำเลยกู้ยืมเงิน 60,000 บาท โดยจำเลยไม่ยินยอมสัญญากู้ยืมเงินไม่สมบูรณ์ ดังนี้โจทก์ไม่อาจนำมาเป็นหลักฐานฟ้องบังคับจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2195/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาที่ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ไม่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในคดีแพ่งได้
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ ว่า จำเลยที่ 1 ไม่เคยกู้เงินโจทก์ และจำเลยทั้งสองไม่เคยทำสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันกับโจทก์ตาม ฟ้อง โจทก์จะต้อง อ้างสัญญากู้และสัญญาค้ำประกันเป็นพยานหลักฐานในคดี เมื่อสัญญากู้ที่โจทก์อ้างจำนวนเงิน 55,816 บาทซึ่ง ตาม ป.รัษฎากรจะต้อง ปิด อากรแสตมป์ 28 บาท แต่ ปิดมาเพียง 20บาท ขาดไป 8 บาท ส่วนสัญญาค้ำประกันซึ่ง ค้ำประกันสัญญากู้ ซึ่ง ตามป.รัษฎากรต้อง ปิด อากรแสตมป์ 10 บาท แต่ ไม่ได้ปิด อากรแสตมป์เลยจึงถือ ได้ ว่าเป็นตราสารที่มิได้ปิดแสตมป์บริบูรณ์ และไม่อาจใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีแพ่งได้ ตาม ป.รัษฎากร มาตรา 118 ดังนี้ ถือ ว่าโจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือที่มีลายมือชื่อผู้กู้และ ผู้ค้ำประกัน จึงไม่อาจฟ้องคดีให้จำเลยที่ 1 รับผิดตาม สัญญากู้ จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกันได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1297/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิครอบครองที่ดินเกิดจากการครอบครองตามกฎหมาย แม้การซื้อขายไม่สมบูรณ์ สิทธิเรียกร้องตามสัญญาซื้อขายจึงไม่บังคับได้
โจทก์และสามีโจทก์ซื้อ ที่ พิพาทซึ่ง มี น.ส. 3 จาก ก. โดยมิได้ ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงตกเป็นโมฆะแต่ ที่ พิพาทเป็นที่ดินยังไม่มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ ก.ผู้ขายมีแต่ สิทธิครอบครอง เมื่อได้ ส่งมอบที่พิพาทให้โจทก์และสามีโจทก์แล้ว ก. ก็สละเจตนาครอบครองไม่ยึดถือที่ดินพิพาทอีกต่อไป โจทก์และสามีโจทก์ย่อมได้ สิทธิครอบครอง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1371378 มิใช่ได้ ตาม สัญญาซื้อขายดังนี้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิบังคับให้ จำเลยซึ่ง เป็นทายาทของ ก. ไปจดทะเบียนการโอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ตาม สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับ ก. .
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4428/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกันไม่สมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้มีพยานเบิกความก็พิสูจน์ไม่ได้
โจทก์ฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดตามสัญญาค้ำประกัน จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ โจทก์จึงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์ว่าจำเลยที่ 2เป็นผู้ค้ำประกันตามฟ้อง แม้จำเลยที่ 1 เบิกความว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ยังคงมีหน้าที่ต้องพิสูจน์เช่นเดิม เมื่อสัญญาค้ำประกันปิดอากรแสตมป์ไม่ครบบริบูรณ์ เป็นเอกสารต้องห้ามมิให้รับฟังเป็นพยานหลักฐานตามประมวลรัษฎากร มาตรา 118 มีผลเท่ากับไม่มีสัญญาค้ำประกันเป็นหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ โจทก์จึงฟ้องให้บังคับคดีแก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680 วรรคสอง