พบผลลัพธ์ทั้งหมด 3,111 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 512/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษายกฟ้องคดีอาญา แม้ยังไม่ได้ไต่สวนมูลฟ้อง หากโจทก์ไม่สามารถนำสืบพยานหลักฐานได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 167 บัญญัติว่า'ถ้าปรากฏว่าคดีมีมูลให้ศาลประทับฟ้องไว้พิจารณาต่อไปเฉพาะกระทงที่มีมูล ถ้าคดีไม่มีมูล ให้พิพากษา ยกฟ้อง' คำว่า ถ้าคดีไม่มีมูลให้พิพากษายกฟ้อง นั้น มิได้หมายความว่าศาลจะฟังพยานหลักฐานจากการ ไต่สวนมูลฟ้องแต่เพียงอย่างเดียว กรณีที่โจทก์ไม่สามารถนำพยานมาไต่สวนเพื่อวินิจฉัยถึงมูลคดีซึ่งจำเลยต้องหาก็ถือได้ว่าคดีโจทก์ไม่มีมูลตามความหมายของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 167 เช่นเดียวกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 505/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำกัดสิทธิฎีกาในคดีอาญาที่มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี แม้มีการแก้โทษไม่รอการลงโทษ
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 1 ปี และปรับ 2,000 บาท ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะ จำคุก 6 เดือนและปรับ 500 บาท ฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงาน จำคุก 2 เดือน และปรับ 500 บาท รวมจำคุก 1 ปี 8 เดือน และปรับ 3,250 บาทและให้รอการลงโทษจำเลยไว้ภายในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืน จำคุก 6 เดือนฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะจำคุก 3 เดือนฐานยิงปืนในหมู่บ้าน ปรับ 250 บาท ฐานขัดขวางเจ้าพนักงานจำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 10 เดือน ปรับ 250 บาทโดยไม่รอการลงโทษ เป็นความผิด 4 กระทง แต่ละกระทง ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินหนึ่งปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท แม้ศาลอุทธรณ์จะแก้เป็นไม่รอการลงโทษ จำเลยก็ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3979/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา การพิพากษาคดีแพ่งต้องยึดข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีอาญา
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์และถูกโจทก์ฟ้องคดีอาญาจนศาลพิพากษาลงโทษคดีถึงที่สุด แต่จำเลยก็ไม่รื้อบ้านออกไปจากที่พิพาท กลับเข้าไปอยู่อีกจึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาโดยตรง ซึ่งการพิพากษาคดีส่วนแพ่งศาลจึงต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3693/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่สมบูรณ์และการปฏิเสธความผิดในคดีบุกรุกและรบกวนการครอบครองทรัพย์สิน
โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแขวงโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยไม่มีเหตุอันสมควรและด่าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข จำเลยให้การว่าได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดขอยืมเงิน เป็นเรื่องที่จำเลยกล่าวอ้างว่าเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายโดยมีเหตุอันสมควรอันเป็นคำให้การปฏิเสธและเมื่อจำเลยให้การต่อไปว่า ไม่มีเงินต่อสู้คดีขอรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ จึงต้องถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธ ศาลแขวงชอบที่จะสั่งให้โจทก์รับตัวจำเลยคืนเพื่อดำเนินการต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3472/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาของผู้มีจิตวิกล: การคุ้มครองสิทธิและการไต่สวนเพื่อยืนยันสภาพจิต
โจทก์ฟ้องคดีโดยผู้ร้องซึ่งร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีของโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์เป็นคนวิกลจริต ก่อนวันนัดไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดี โจทก์แต่งทนายความมายื่นคำร้องขอถอนฟ้อง ดังนี้โจทก์ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นบุคคลวิกลจริตและกฎหมายจะต้องให้ความคุ้มครอง ไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอถอนฟ้องที่ผู้ร้องกำลังขอเป็นผู้แทนเฉพาะคดีดำเนินการอยู่ ชอบที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนว่าโจทก์เป็นบุคคลวิกลจริตหรือไม่แล้วมีคำสั่งต่อไป และเมื่อศาลชั้นต้นยังไม่ได้รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณา จึงยังไม่มีคำฟ้องที่จะอนุญาตให้โจทก์ถอนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3344/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของบิดามารดาต่อการละเมิดของบุตรผู้เยาว์ และการใช้ข้อเท็จจริงในคดีอาญาในคดีแพ่ง
อัยการได้ฟ้องจำเลยที่ 3 เป็นคดีอาญา ซึ่งถือว่าฟ้องแทนโจทก์คดีนี้ จึงต้องฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาผูกพันจำเลยที่ 3 ว่าจำเลยที่ 3 ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าทางโค้งโดยไม่ลดความเร็วลงเป็นเหตุให้ชนผู้ตาย ซึ่งเดินอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือของจำเลยถึงแก่ความตาย
จำเลยที่ 3 ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นมานานพอสมควรแล้วแต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กลับยืนยันว่าไม่เคยทราบว่าจำเลยที่ 3 ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นมาก่อนเลย แสดงว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ใช้ความระมัดระวังดูแลจำเลยที่ 3 ตามสมควรแก่หน้าที่ของบิดามารดาพึงดูแลบุตรผู้เยาว์ จึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 3 กระทำไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 429
จำเลยที่ 3 ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นมานานพอสมควรแล้วแต่จำเลยที่ 1 และที่ 2 กลับยืนยันว่าไม่เคยทราบว่าจำเลยที่ 3 ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นมาก่อนเลย แสดงว่าจำเลยที่ 1 และที่ 2 มิได้ใช้ความระมัดระวังดูแลจำเลยที่ 3 ตามสมควรแก่หน้าที่ของบิดามารดาพึงดูแลบุตรผู้เยาว์ จึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดที่จำเลยที่ 3 กระทำไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 429
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3241/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความคดีบุกรุก: เริ่มนับเมื่อใด และความผิดต่อเนื่องคืออะไร
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ได้เกิดขึ้น และสำเร็จแล้วเมื่อจำเลยเข้าไปปลูกสร้างโรงเรือนและกั้นรั้วในที่ดินของโจทก์ หาใช่เป็นความผิดต่อเนื่องตลอดมาไม่
จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกสร้างโรงเรือนและกั้นรั้วในที่ดินของโจทก์และครอบครองที่ดินนั้นต่อเนื่องมาถึงวันฟ้องอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น เมื่อโจทก์มิได้ร้องทุกข์แต่ได้นำคดีมาฟ้องเมื่อล่วงเลยกำหนดสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ
จำเลยบุกรุกเข้าไปปลูกสร้างโรงเรือนและกั้นรั้วในที่ดินของโจทก์และครอบครองที่ดินนั้นต่อเนื่องมาถึงวันฟ้องอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้นั้น เมื่อโจทก์มิได้ร้องทุกข์แต่ได้นำคดีมาฟ้องเมื่อล่วงเลยกำหนดสามเดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3182/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงคดีอาญา ไม่ถือว่าเอื้อประโยชน์เจ้าหนี้อื่น จึงไม่เพิกถอนได้
ลูกหนี้โอนขายที่ดินให้ผู้คัดค้านเพื่อนำเงินไปชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ เป็นการกระทำเพื่อตัวเอง มุ่งหมายจะให้หลุดพ้น จากการถูกเจ้าหนี้ดำเนินคดีอาญาในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ไม่ปรากฏว่ามุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ทั้งผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้รับโอนที่ดินพิพาท มาก็มิใช่เจ้าหนี้ของลูกหนี้ที่จะได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการโอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3182/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงคดีอาญา ไม่ถือเป็นการเอื้อประโยชน์เจ้าหนี้ จึงไม่เพิกถอนได้
ลูกหนี้โอนขายที่ดินให้ผู้คัดค้านเพื่อนำเงินไปชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ เป็นการกระทำเพื่อตัวเอง มุ่งหมายจะให้หลุดพ้น จากการถูกเจ้าหนี้ดำเนินคดีอาญาในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ไม่ปรากฏว่ามุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนใดได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ทั้งผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้รับโอนที่ดินพิพาท มาก็มิใช่เจ้าหนี้ของลูกหนี้ที่จะได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนการโอน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3181/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนการชำระหนี้ในคดีล้มละลาย: เจตนาชำระหนี้เพื่อหลีกเลี่ยงคดีอาญา vs. เพื่อให้เจ้าหนี้ได้เปรียบ
ผู้คัดค้านที่ 1 ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญา กับลูกหนี้ในข้อหาออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงิน ตามเช็ค ลูกหนี้จึงได้ขายที่ดินเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามเช็คเพื่อมิให้ต้องรับโทษทางอาญา มิใช่เจตนาชำระหนี้เพื่อให้ได้เปรียบเจ้าหนี้คนอื่น กรณีไม่อยู่ในบังคับตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 115 ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ได้
ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ เมื่อลูกหนี้ขายที่ดินได้เงิน มาก็นำเงินนั้นชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านที่2 กรณีไม่มีเหตุดัง ผู้คัดค้านที่ 1 การชำระหนี้ที่ได้กระทำต่อกันจึงเป็นการชำระหนี้โดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ได้
ผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ เมื่อลูกหนี้ขายที่ดินได้เงิน มาก็นำเงินนั้นชำระหนี้แก่ผู้คัดค้านที่2 กรณีไม่มีเหตุดัง ผู้คัดค้านที่ 1 การชำระหนี้ที่ได้กระทำต่อกันจึงเป็นการชำระหนี้โดยมุ่งหมายให้ผู้คัดค้านที่ 2 ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ผู้ร้องขอเพิกถอนการชำระหนี้ได้