พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 588/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และความผิดฐานทำให้ทรัพย์สินเสียหาย (ธงชาติ) โดยไม่มีเจตนาเหยียดหยาม
ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืน ฯลฯ ไม่มีใบอนุญาตและเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน ฯลฯโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ทางพิจารณาได้ความว่าเป็นปืนของบุคคลอื่นมีใบอนุญาตและเลขเครื่องหมายของเจ้าพนักงานโดยถูกต้องดังนี้ ข้อแตกต่างมิใช่ข้อสารสำคัญและทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้เพราะองค์ความผิดนี้อยู่ที่ว่าจำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่หรือไม่ซึ่งจำเลยรับแล้วว่ามีโดยมิได้รับอนุญาตจริง
ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ธงชาติไทยซึ่งทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียนหาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่จำเลยใช้ปืนยิงธงนั้นเสียหายจึงเป็นความผิดตามมาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 360
จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรามิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118
ศาลจึงลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้
ธงชาติไทยซึ่งทางโรงเรียนวัดหนองลุมพุกได้ชักไว้ที่เสาธงของโรงเรียนหาใช่เป็นทรัพย์ที่โรงเรียนใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ไม่จำเลยใช้ปืนยิงธงนั้นเสียหายจึงเป็นความผิดตามมาตรา 358 ไม่ผิดตามมาตรา 360
จำเลยเมาสุราใช้อาวุธปืนยิงธงชาติไทยเนื่องด้วยฤทธิ์สุรามิได้เจตนาจะเหยียดหยามประเทศชาติ ไม่มีความผิดตามมาตรา 118
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดชอบต่อความเสียหายจากอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม: ผู้ใช้ต้องระมัดระวังควบคุมอุปกรณ์เอง
โจทก์ซื้อกระแสไฟฟ้า 220 โวลท์จากจำเลย จำเลยส่งกระแสไฟฟ้าตกลงมากรับโทรทัศน์ไม่ได้ โจทก์จึงต้องเพิ่มไฟโดยหม้อเพิ่มไฟเพื่อให้ได้รับภาพได้ตามปกติ แล้วไฟฟ้าดับลง ต่อมาไฟจึงติดขึ้นใหม่ แรงขึ้นสูงในทันทีทันใด ทำให้เครื่องปรับอัตโนมัติโทรทัศน์ของโจทก์เสีย ระหว่างที่ไฟฟ้าดับนั้น โจทก์ไม่ได้ลดหรือปลดหม้อเพิ่มไฟและไม่ได้ปิดเครื่องรับโทรทัศน์ ดังนี้ เห็นว่าโจทก์เป็นผู้นำเอาหม้อเพิ่มไฟมาใช้เองเป็นพิเศษ โจทก์ต้องมีหน้าที่ระมัดระวังควบคุมหม้อเพิ่มไฟนั้น จะถือว่าจำเลยกระทำผิดหน้าที่หรือขาดความระมัดระวังเป็นการประมาทเลินเล่อไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 570/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดต่อความเสียหายจากกระแสไฟฟ้า: ผู้ใช้ไฟฟ้ามีหน้าที่ระมัดระวังอุปกรณ์เสริม
โจทก์ซื้อกระแสไฟฟ้า 220 โวลท์จากจำเลย จำเลยส่งกระแสไฟฟ้าตกลงมากรับโทรทัศน์ไม่ได้ โจทก์จึงต้องเพิ่มไฟโดยหม้อเพิ่มไฟเพื่อให้ได้รับภาพได้ตามปกติ แล้วไฟฟ้าดับลง ต่อมาไฟจึงติดขึ้นใหม่แรงขึ้นสูงในทันทีทันใดทำให้เครื่องอัตโนมัติโทรทัศน์ของโจทก์เสีย ระหว่างที่ไฟฟ้าดับนั้น โจทก์ไม่ได้ลดหรือปลดหม้อเพิ่มไฟและไม่ได้ปิดเครื่องรับโทรทัศน์ ดังนี้ เห็นว่าโจทก์เป็นผู้นำเอาหม้อเพิ่มไฟมาใช้เองเป็นพิเศษ โจทก์ต้องมีหน้าที่ระมัดระวังควบคุมหม้อเพิ่มไฟนั้นจะถือว่าจำเลยกระทำผิดหน้าที่หรือขาดความระมัดระวังเป็นการประมาทเลินเล่อไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการใช้น้ำในลำน้ำสาธารณะ เจ้าของที่ดินริมทางน้ำต้องไม่ปิดกั้นน้ำจนเกิดความเสียหายแก่ที่ดินแปลงอื่น
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1339 เป็นเรื่องเจ้าของที่ดินที่สูงกว่ามีสิทธิกั้นเอาน้ำไว้ใช้เพียงจำเป็นแก่ที่ดินได้ส่วนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1355 เป็นเรื่องเจ้าของที่ดินริมทางน้ำหรือมีทางน้ำผ่านไม่มีสิทธิที่จะชักเอาน้ำไว้เกินกว่าที่จำเป็นแก่ประโยชน์ของตนตามควร ให้เป็นเหตุเสื่อมเสียแก่ที่ดินแปลงอื่นซึ่งอยู่ตามทางน้ำนั้น
จำเลยทำคันดินให้สูงขึ้นเป็นทำนบปิดลำห้วยซึ่งเป็นทางน้ำสาธารณะตอนเหนือนาโจทก์ปิดตาย ไม่ยอมให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติได้เลย เป็นเหตุให้ตอนใต้ทำนบน้ำแห้งโจทก์ทำนาไม่ได้การกระทำของจำเลยปรับเข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1355และเป็นการกระทำที่ถือไม่ได้ว่าเป็นการชักเอาน้ำไว้ การกระทำเช่นนี้จำเลยไม่มีสิทธิที่จะทำได้ จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์
จำเลยทำคันดินให้สูงขึ้นเป็นทำนบปิดลำห้วยซึ่งเป็นทางน้ำสาธารณะตอนเหนือนาโจทก์ปิดตาย ไม่ยอมให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติได้เลย เป็นเหตุให้ตอนใต้ทำนบน้ำแห้งโจทก์ทำนาไม่ได้การกระทำของจำเลยปรับเข้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1355และเป็นการกระทำที่ถือไม่ได้ว่าเป็นการชักเอาน้ำไว้ การกระทำเช่นนี้จำเลยไม่มีสิทธิที่จะทำได้ จึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 231-232/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกัน - การใช้สิทธิโดยไม่สุจริตของผู้รับประกัน - การถอนสัญญาค้ำประกัน
คำให้การของจำเลยที่ว่า หนังสือมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น จำเลยไม่มีประเด็นนำสืบเพราะมิได้ให้การว่าไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายด้วยเหตุอย่างไร
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้ว แต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้น แล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหาย เช่นนี้ถือว่า บริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหาย ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
ปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน
การค้ำประกันหนี้ในอนาคตนั้น แม้ตามสัญญาค้ำประกันจะมีข้อความว่า การถอนสัญญาค้ำประกันต้องได้รับหนังสือยินยอมจากคณะกรรมการบริษัทโจทก์ก่อนก็ตาม แต่เมื่อผู้ค้ำประกันได้มีหนังสือบอกเลิกการค้ำประกันไปให้บริษัทโจทก์ทราบแล้ว แต่กรรมการผู้จัดการบริษัทโจทก์ก็ทิ้งเรื่องไว้ตั้ง 5 เดือน แล้วจึงเสนอประธานกรรมการบริษัทโจทก์ ระหว่างนั้นบริษัทโจทก์ก็ยังส่งข้าวสารไปยังลูกหนี้จนเกิดความเสียหายขึ้น แล้วจึงได้ให้ลูกหนี้ออกจากหน้าที่และแจ้งให้ผู้ค้ำประกันรับผิดในความเสียหาย เช่นนี้ถือว่า บริษัทโจทก์ใช้สิทธิโดยไม่สุจริตทำให้ผู้ค้ำประกันได้รับความเสียหาย ผู้ค้ำประกันจึงไม่ต้องรับผิดในหนี้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการปล่อยปละละเลยฟ้องคดีเอง ไม่ถือเป็นการละเมิดของเจ้าพนักงานสอบสวน
พนักงานสอบสวนรับแจ้งความคดียักยอกทรัพย์ของโจทก์ไว้แล้วปล่อยปละละเลยมิได้ดำเนินการสอบสวนให้เสร็จจนคดีขาดอายุความฟ้องร้อง แต่โจทก์ซึ่งมีสิทธิตามกฎหมายที่จะฟ้องร้องผู้ยักยอกได้เองทั้งทางอาญาและทางแพ่งก็ มิได้ฟ้องร้องผู้ยักยอกจนคดีขาดอายุความ ดังนี้ หากโจทก์ใช้สิทธิฟ้องคดีไว้แล้ว ความเสียหายย่อมไม่เกิดขึ้น ความเสียหายของโจทก์จึงเกิดจากการกระทำของโจทก์เอง ไม่ใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลย กรณีของจำเลยไม่เป็นการละเมิด ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1176/2509
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากอายุความคดีอาญา: โจทก์มีสิทธิฟ้องเองแต่ละเลยไม่ฟ้อง ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิด
พนักงานสอบสวนรับแจ้งความคดียักยอกทรัพย์ของโจทก์ไว้แล้วปล่อยปละละเลยมิได้ดำเนินการสอบสวนให้เสร็จจนคดีขาดอายุความฟ้องร้อง แต่โจทก์ซึ่งมีสิทธิตามกฎหมายที่จะฟ้องร้องผู้ยักยอกได้เองทั้งทางอาญาและทางแพ่งก็มิได้ฟ้องร้องผู้ยักยอกจนคดีขาดอายุความ ดังนี้ หากโจทก์ใช้สิทธิฟ้องคดีไว้แล้ว ความเสียหายย่อมไม่เกิดขึ้น ความเสียหายของโจทก์จึงเกิดจากการกระทำของโจทก์เอง ไม่ใช่ผลโดยตรงจากการกระทำของจำเลย กรณีของจำเลยไม่เป็นการละเมิด ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดในความเสียหายจากลูกจ้างกระทำโดยประมาทในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่จ้าง
ลูกจ้างมีหน้าที่เดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าตลอดจนการใช้เครื่องอุปกรณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ลูกจ้างเดินเครื่องกำเนิดไฟเพื่อทดลองเครื่อง อันเป็นการกระทำเพื่อจะติดเครื่องไฟฟ้าใช้ตามปกติ ได้เกิดไฟชอร์ทเพราะสายไฟชำรุด ไฟได้ลุกลามไหม้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย นายจ้างจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายซึ่งลูกจ้างเป็นผู้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะเป็นการกระทำในทางการที่จ้าง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพโดยไม่ได้ร่วมชันสูตร ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์ ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 1 ไปชันสูตรพลิกศพและทำรายงานชันสูตรพลิกศพ จำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอไม่ได้ไปชันสูตรพลิกศาพ แต่ได้ลงชื่อในรายงานนั้นในภายหลัง จำเลยที่ 1 ได้ทำรายงานชันสูตรพลิกศพแสดงรายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนด และตามความจริงศาลฟังข้อเท็จจริงว่านายประสิทธิบุตรชายโจทก์ตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนโดยนายงามเป็นผู้ทำให้ตาย การที่นายงามทำให้นายประสิทธิตาย จะกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตายหรือกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นายประสิทธิตายก็ตาม ก็ต้องแล้วแต่พยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับรายงานชันสูตรพลิกศพแต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอจะลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลังโดยที่ไม่ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพด้วยก็ตาม ก็มิได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยตรง จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 528/2508
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพโดยมิได้ร่วมชันสูตร ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโจทก์ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยที่ 1 ไปชันสูตรพลิกศพและทำรายงานชันสูตรพลิกศพจำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอไม่ได้ไปชันสูตรพลิกศพ แต่ได้ลงชื่อในรายงานนั้นในภายหลัง จำเลยที่ 1 ได้ทำรายงานชันสูตรพลิกศพแสดงรายละเอียดตามที่กฎหมายกำหนด และตามความจริง ศาลฟังข้อเท็จจริงว่านายประสิทธิบุตรชายโจทก์ตายเพราะพิษบาดแผลที่ถูกกระสุนปืนโดยนายงามเป็นผู้ทำให้ตาย การที่นายงามทำให้นายประสิทธิตายจะกระทำโดยมีเจตนาฆ่าให้ตายหรือกระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้นายประสิทธิตายก็ตามก็ต้องแล้วแต่พยานหลักฐาน ไม่เกี่ยวกับรายงานชันสูตรพลิกศพแต่อย่างใด ดังนั้น การที่จำเลยที่ 2 และอนามัยอำเภอจะลงชื่อในรายงานชันสูตรพลิกศพในภายหลังโดยที่ไม่ได้ร่วมชันสูตรพลิกศพด้วยก็ตามก็มิได้ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายแต่อย่างใดโจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายโดยตรงจึงไม่มีอำนาจฟ้อง