คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
คำพิพากษา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,887 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1321/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงโทษกักกันตามประมวลกฎหมายอาญา และผลของการปล่อยตัวผู้ต้องโทษโดยไม่ถือว่าเคยมีคำพิพากษาให้กักกัน
ประมวลกฎหมายอาญามีผลเพียงให้โทษกักกันที่จำเลยได้รับอยู่เดิมเปลี่ยนลักษณะมาเป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัยอาญาจะมิได้ถือว่าการที่จำเลยถูกกักกันต่อมานั้นเป็นโทษก็ตาม ก็ยังเรียกไม่ได้ว่าจำเลยได้พ้นโทษกักกันนั้นไปแล้ว เพราะยังต้องถูกกักกันอยู่โดยผลแห่งคำพิพากษาของศาล
แต่เมื่อปรากฏว่า ศาลได้ปล่อยจำเลยไปโดยถือว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาให้กักกันศาลก็จะรื้อฟื้นขึ้นมาจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้กักกัน (เพื่อจะนำมาพิจารณาร่วมกับการกระทำผิดครั้งหลังให้กักกันตามมาตรา 41 แห่งประมวลกฎหมายอาญา) หาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทรัพย์สินที่ปู่ซื้อให้หลาน ไม่ถือเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ที่ดินและบ้านที่ปู่ซื้อให้แก่หลาน(บุตรของลูกหนี้ตามคำพิพากษา) ย่อมเป็นทรัพย์ของหลานนั้นและไม่เป็นทรัพย์สินที่เป็นของบุตรผู้เยาว์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ซึ่งตามกฎหมายอาจถือได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือที่อาจบังคับเอาชำระหนี้นั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1227/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเฉลี่ยทรัพย์: สิทธิเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา vs. การโต้แย้งหนี้สมยอม
ผู้ร้องยื่นคำร้อง ขอเฉลี่ย ทรัพย์ที่โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยไว้เพื่อขายชำระหนี้ ตามคำพิพากษา โดยผู้ร้องอ้างว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาอีกคดีหนึ่งและว่า จำเลยไม่มีทรัพย์สินอื่นใดอีกแล้ว เช่นนี้ แม้โจทก์จะยอมรับว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ จำเลยตามคำพิพากษาในคดีที่ผู้ร้องอ้างจริง ก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ยังคัดค้านอยู่ว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยทรัพย์นั้น เป็นหนี้ ที่เกิดการสมยอมกันระหว่างผู้ร้องกับจำเลย ดังนี้ ศาลไม่ชอบที่จะสั่งงดไต่สวนและอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเฉลี่ยทรัพย์ได้เลย เพราะคำพิพากษาในคดีระหว่างผู้ร้องกับจำเลยนั้นไม่มีผลพูกพันโจทก์ในคดีนี้ซึ่งมิได้เป็นคู่ความด้วยในคดีนั้น โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะโต้แย้งคัดค้านว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องอ้างมาขอเฉลี่ยนั้น เป็นหนี้ที่ไม่ชอบไม่ควรอย่างใดก็ย่อมได้ ศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนคำขอเฉลี่ยทรัพย์ของผู้ร้องกับคำคัดค้านของโจทก์ แล้ววินิจฉัยสั่งไปตามประเด็น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1116/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขออายัดทรัพย์ก่อนมีคำพิพากษาหลังคดีถึงที่สุดแล้ว ไม่อาจดำเนินการได้
เมื่อเสร็จการพิจารณาแล้ว ก่อนมีคำพิพากษา โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งอายัดหรือให้ระงับการโอนที่ดิน ของจำเลยไว้ก่อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 254, 255, 257 ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องและมีคำพิพากษาในคดีถึงที่สุด ดังนี้ ศาลฎีกาไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาว่า ด้วยวิธีการชั่วคราวก่อนคำพิพากษาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 739/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การพิจารณาคดีอาญาโดยจำเลยหลบหนี: ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ แม้จำเลยไม่ได้รับทราบคำพิพากษา
ในคดีอาญา จำเลยหลบหนีไปก่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ฟังแล้วทนายจำเลยยื่นฎีกาแทนจำเลย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 12/2502)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 431/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องซ้ำในคดีทรัพย์มรดก: ศาลฎีกาพิจารณาว่าโจทก์มิได้เป็นคู่ความในคดีก่อน จึงไม่ผูกพันตามคำพิพากษา
ภรรยาโจทก์คดีนี้ถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีก่อนขอแบ่งมรดกศาลฎีกาตัดสินคดีนั้นว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นมรดกให้แบ่งระหว่างภรรยาโจทก์กับจำเลยทั้งสามในคดีนี้คนละส่วนดังนี้ โจทก์ผู้เป็นสามีกลับมาฟ้องขอให้ห้ามจำเลยทั้งสามเกี่ยวข้องกับทรัพย์พิพาทนั้นได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 เพราะในคดีก่อนโจทก์ไม่ได้เข้าเป็นคู่ความด้วย และในคดีก่อนก็มิใช่คดีที่ศาลได้มีคำสั่งให้ขับไล่ภรรยาโจทก์ตามมาตรา 142(1) ฉะนั้นจะใช้คำพิพากษาในคดีก่อนบังคับตลอดถึงบริวารด้วยย่อมไม่ตรงกับเรื่อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 320/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นหลังคืนที่ดินตามคำพิพากษาเดิม ศาลไม่ถือว่าฟ้องขัดแย้งกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ยกที่พิพาทตีใช้หนี้ให้โจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยได้กลับเป็นโจทก์ฟ้องโจทก์ในคดีนี้เป็นจำเลย ขอให้รับชำระหนี้ที่บิดาจำเลยกู้มา และคืนที่พิพาทที่มอบไว้ให้ทำประโยชน์ ศาลตัดสินให้โจทก์คืนที่พิพาท โดยวินิจฉัยว่ายังเป็นของจำเลยอยู่โจทก์จึงเรียกค่าที่ดินที่เพิ่มขึ้นเพราะที่โจทก์ได้ทำการปลูกมะพร้าวและผลอาสินลงในที่พิพาทดังนี้ คำฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวข้อเท็จจริงขัดกันอย่างไรศาลรับวินิจฉัยคำฟ้องของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อไม่มีการอุทธรณ์ และการพิจารณาฎีกาภายหลัง
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาพิพากษาตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 245 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตาม มาตรา 245 วรรค 2.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทางครอบครองและการใช้คำพิพากษาในคดีก่อนยันผู้มีชื่อในโฉนดร่วม
เดิมผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้เข้ามาบุกรุกปลูกเรือนโรงในที่พิพาทเป็นจำเลย จำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนในทางครอบครอง ดังนั้น ไม่จำเป็นที่จำเลยในคดีนั้นจะต้องเรียกผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่น ๆ ผู้กรรมสิทธิ์ร่วมเข้ามาเป็นคู่ความผู้มีชื่อในโฉนดเหล่านั้นรู้เรื่องที่พิพาทกันดีแล้ว แต่มิได้เข้ามาร่วมเป็นคู่ความด้วย เมื่อโจทก์ในคดีนั้นแพ้คดีคำพิพากษาในคดีนั้น ใช้ยันผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่น ๆ ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: คำพิพากษาในคดีเดิมใช้ยันผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วมได้
เดิมผู้มีชื่อในโฉนดคนหนึ่งฟ้องขับไล่ผู้เข้ามาบุกรุกปลูกเรือนโรงในที่พิพาทเป็นจำเลยจำเลยต่อสู้ว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของตนในทางครอบครองดังนั้น ไม่จำเป็นที่จำเลยในคดีนั้นจะต้องเรียกผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นๆ ผู้ถือกรรมสิทธิร่วมเข้ามาเป็นคู่ความผู้มีชื่อในโฉนดเหล่านั้นรู้เรื่องที่พิพาทกันดีแล้ว แต่มิได้เข้ามาร่วมเป็นคู่ความด้วยเมื่อโจทก์ในคดีนั้นแพ้คดีคำพิพากษาในคดีนั้น ใช้ยันผู้มีชื่อในโฉนดคนอื่นๆ ได้
of 189