คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
ทำร้ายร่างกาย

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1557-1558/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรวมโทษอาญา – ความผิดฐานสมคบกันฆ่าและทำร้ายร่างกาย – การฎีกาความเห็นไม่ตรงกัน
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริง และพิพากษาต้องกันว่า จำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249 กระทงหนึ่งและตามมาตรา 254 อีกกระทงหนึ่ง แต่ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปีดังนี้ แม้โทษฐานทำร้ายร่างกายตามกฎหมายลักษณะอาญา ตามมาตรา 254ให้จำคุกไม่เกิน 2 ปีก็ดี แต่ศาลล่างทั้ง 2 ให้รวมกระทงลงโทษร่วมกับความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ไม่ได้กำหนดโทษฐานทำร้ายร่างกายไว้ชัดแจ้ง อันจะพึงอนุมานได้ว่าต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 หรือ 220 ฉะนั้นเมื่อจำเลยฎีกาคัดค้านข้อเท็จจริงรวมกันมาทั้ง2 ฐาน ก็ชอบจะฎีกาได้ ไม่ต้องห้าม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบคิดทำร้ายร่างกาย: การกระทำต่อเนื่องและต่างจิตต่างใจไม่ถือเป็นความร่วมมือ
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้ามระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไปจำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1542/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสมคบคิดทำร้ายร่างกาย: พิจารณาจากเหตุการณ์ปัจจุบันทันด่วนและการกระทำต่างวัตถุประสงค์
จำเลยเป็นคนก่อเหตุขึ้นในวงรำวงก่อน แล้วมีผู้มาห้าม ระหว่างที่พูดขอร้องอยู่นั้น มีคนอีกคนหนึ่งสืบเท้าเข้ามาเอามีดพกปลายแหลมแทงผู้กล่าวห้าม 1 ที แล้วเอามีดกลับใส่ฝักเดินกลับไปยืนอยู่ในหมู่คน ผู้ถูกแทงเซไป จำเลยจึงเงื้อมีดจะแทงผู้นั้นบ้าง แต่มีผู้จับมีดไว้ได้เสียก่อน ดังนี้ จะถือว่าจำเลยสมคบกับผู้ที่แทงคนแรกในการทำร้ายร่างกายผู้ห้ามนั้น ยังไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1466/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องหย่าเนื่องจากสามีประพฤติชั่วร้ายแรง ทั้งทำร้ายร่างกายและจิตใจ ภริยาขอหย่าได้
สามีเมาสุราเสมอเพราะเป็นคนติดสุราต้องเสพทุกวัน แล้วก็ทุบตีด่าว่าภริยาเสมอมา ภริยาและบุตรเคยห้ามปรามก็ไม่ฟัง บางครั้งก็เตะและใช้ไม้ทำร้ายภริยา และทำลายสิ่งของโดยใช่เหตุ ใช้มีดไล่ทำร้ายก็เคยมี บางครั้งก็ต่อยถึงฟันหัก พฤติการณ์ทั้งปวงดังกล่าวประกอบกันฟังได้ว่าสามีประพฤติชั่วแก่ภริยาถึงขนาดร้ายแรง ภริยาฟ้องหย่าได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคดีทำร้ายร่างกาย: อำนาจฟ้องและการขัดแย้งในคำให้การ
จำเลยเคยถูกอัยการเป็นโจทก์ฟ้องหาว่าทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ จำเลยรับสารภาพศาลจึงพิพากษาลงโทษจำเลยว่ามีความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. 245 ผู้เสียหายจึงได้มาเป็นโจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลยในทางแพ่งจำเลยย่อมต่อสู้ว่าที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายมีบาดเจ็บนั้นเนื่องจากการวิวาทระหว่างจำเลยกับผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยดังนี้ได้ (เพราะข้อเท็จจริงทางอาญาในคดีก่อนนั้น ศาลไม่ได้พิจารณาชี้ขาดประเด็นว่าวิวาทหรือไม่ศาลก็ย่อมลงโทษ จำเลยตามมาตรา 254 ได้)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1380/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการทำร้ายร่างกาย: อำนาจฟ้องและข้อต่อสู้เรื่องวิวาท
จำเลยเคยถูกอัยการเป็นโจทก์ฟ้องหาว่าทำร้ายร่างกายผู้เสียหายถึงบาดเจ็บ จำเลยรับสารภาพศาลจึงพิพากษาลงโทษ จำเลยว่ามีความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 254 ผู้เสียหายจึงได้มาเป็นโจทก์เรียกค่าเสียหายจากจำเลย ในทางแพ่ง จำเลยย่อมต่อสู้ว่าที่ผู้เสียหายถูกทำร้ายมีบาดเจ็บนั้นเนื่องจากการวิวาทระหว่างจำเลยกับผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยดังนี้ได้ (เพราะข้อเท็จจริงทางอาญาในคดีก่อนนั้น ศาลไม่ได้พิจารณาชี้ขาดประเด็นว่าวิวาทหรือไม่ ศาลก็ย่อมลงโทษ จำเลยตามมาตรา 254 ได้)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1312/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันทรัพย์เกินกว่าเหตุและการทำร้ายร่างกาย แม้ตกลงค่าสินสอดก่อนหน้า
ผู้เสียหายกับพวกมาเอาโคของจำเลย ซึ่งผู้เสียหายถือว่าจำเลยตกลงให้เป็นค่าสินสอดแก่ผู้เสียหาย จำเลยไม่ยอมให้ผู้เสียหายจึงเข้าไปจับโคในคอกของจำเลย ๆ จึงไ้ดใช้ดาบฟันผู้เสียหาย 3 ที จำเลยอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นบุตรจำเลยคนแรกเข้ามาใช้มีดโต้ฟันผู้เสียหายอีก 1 ที ผู้เสียหายมีบาดเจ็บถึงสาหัสดังนี้ แม้ผุ้เสียหายจะไม่มีสิทธิจะมาเอาโคนั้นไปโดยพละการแต่มูลกรณีที่ว่า จำเลยตกลงให้โคเป็นค่าสินสอดก็มีอยู่จริงจำเลยใช้มีดดาบฟันผู้เสียหายถึง 3 ทีติด ๆ กัน แล้วจำเลยผู้เป็นบุตรยังมาช่วยฟันอีก 1 ที จนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บถึงสาหัส การกระทำของจำเลยนับว่าเป็นการรุนแรงและเกินควรแก่เหตุในการป้องกันทรัพย์มีผิดตามมาตรา 256 , 53 ก.ม.ลักษณะอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาฆ่าหรือไม่ และฐานความผิดที่เหมาะสม
เดินสวนทางกันในเวลามีด พอสวนกันก็ใช้มีดปลายแหลมแทงเขา 1 ที ถูกที่ท้องเหนือสะดือ แผลกว้าง 1 ซ.ม. ยาว 2.7 ซ.ม. ลึกเข้าช่องท้องทะลุลำใส้ อยู่ได้ 3 วัน ก็ตายเพราะพิษบาดแผลนั้นโดยไม่ปรากฎว่มีสาเหตุอะไรกันนั้น ยังไม่มั่นคงพอจะให้ชี้ขาดได้ว่า ผู้แทงได้เจตนาถึงแก่จะฆ่าให้ตาย คงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2493

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: ศาลฎีกาพิจารณาเจตนาและเหตุในการกระทำ
เดินสวนทางกันในเวลามืด พอสวนกันก็ใช้มีดปลายแหลมแทงเขา 1 ที ถูกที่ท้องเหนือสะดือ แผลกว้าง 1 ซ.ม. ยาว 2.7 ซ.ม. ลึกเข้าช่องท้องทะลุลำใส้ อยู่ได้ 3 วันก็ตายเพราะพิษบาดแผลนั้น โดยไม่ปรากฏว่ามีสาเหตุอะไรกันนั้น ยังไม่มั่นคงพอจะให้ชี้ขาดได้ว่าผู้แทงได้เจตนาถึงแก่จะฆ่าให้ตาย คงมีผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1214/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนายิงทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธร้ายแรง แม้ไม่ถูกตัวก็ถือเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
ใช้ปืนอันเป็นอาวุธร้ายแรงยิงเขา เนื่องจากมีมูลสาเหตุกันมาในระยะเพียง 5 วาดังนี้ เมื่อไม่มีเหตุผลเป็นอย่างอื่นก็ต้องฟังว่า มีเจตนายิงเขาให้ตาย กระสุนปืนไม่ถูกเขาจำเลยมีผิดฐานพยายามฆ่าคนโดยเจตนา
จำเลยเกิดวิวาทชกต่อยกันกับผู้เสียหาย แล้วมีผู้ห้ามแยกกันไป ต่อมาอีก 15 นาทีจำเลยเอาปืนแก๊ปมาไล่ยิงผู้เสียหายอีก แต่ไม่ถูกดังนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ต่อเนื่องกันมา จะเรียกว่าพยายามด้วยความพยาบาทยังไม่ได้
of 184