คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
เจ้าพนักงาน

อสังหาริมทรัพย์ห้องแถวเป็นสังหาริมทรัพย์ ซื้อขายกันต้องทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน

สร้องโจร พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ม.3 จำเลยถูกจำคุกเรียงกะทงและเพิ่มโทษด้วยเกิน 5 ปี ฎีกาได้

ให้การไว้ต่ออำเภอครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาอำเภอเรียกไปไต่สวนอีกกลับปฏิเสธว่าไม่ได้ให้การดังนั้น ทั้งไม่ได้ลงลายมือไว้ด้วยดังนี้ ไม่มีผิดตามกฎหมายข้างบน

บิลปลอมที่เจ้าพนักงานใช้เปนหลักฐานเพื่อเบิกเงินจากรัฐบาลนั้น เปนหนังสือสำคัญธรรมดา หาใช่หนังสือสำคัญในราชการไม่ เจ้าพนักงานเอาบิลปลอมซึ่งตนรู้อยู่แล้วมาตั้งฎีกาเบิกเงินตามบิลนั้น มีผิดฐานปลอมหนังสือ ตั้งฎีกาเบิกเงินตามบิลปลอมแล้วส่งให้ผู้บังคับบัญชาเซ็นเพื่อนำไปเบิกเงินจากคลัง แต่ผู้บังคับบัญชาจับได้เสียก่อนดังนี้ ยังไม่เปนพยายามฉ้อโกง

อย่างไรเรียกว่าเจ้าพนักงานซึ่งท่านใช้ให้มีหน้าที่ปกครอง ตาม ม.131

ทำร้ายผู้จับกุมโดยไม่รู้ว่าเปนเจ้าพนักงาน ไม่มีผิดตามกฎหมายข้างบน

พยายามฆ่าเจ้าพนักงานกระทำการตามหน้าที่

จำเลยเบิกความเปนพะยานต่ออำเภอว่าเขาเปนผู้ร้ายลักทรัพย์ ซึ่งความจริงจำเลยทราบแล้วว่ามิได้มีการทำผิดเกิดขึ้นเลยดังนี้ จำเลยมีผิดตาม ม.118 จำเลยรับบอกเล่าจากเจ้าทรัพย์ว่ามีผู้ร้ายลักทรัพย์ไป จึงนำความไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานว่าเขาเปนผู้ร้ายดังนี้ จำเลยไม่มีผิด พรบ ฎีกาอุทธรณ์ พ.ศ.2461 ม.8 ศาลเดิมวางบท 118 ให้จำคุกจำเลย 2 เดือน ศาลอุทธรณ์แก้วางบท 58 ให้จำคุก 1 ปี จำเลยฎีกาได้ วิธีพิจารณาอาญา จำเลยผู้ซึ่งยังมิได้ฟังคำตัดสินมีฎีกาขึ้นมา คดีส่วนตัวจำเลยเหล่านี้ ต้องงดการวินิจฉัยไว้ก่อน

หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่นั้น แม้จะหมิ่นประมาทในเวลาลับหลังก็มีผิด พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ พ.ศ.2457 ม.28 ข้อ 5 การที่กำนันสั่งผู้ใหญ่บ้านให้จับจำเลย และผู้ใหญ่บ้านใช้ให้ลูกบ้านไปตามจำเลยนั้น เรียกว่าผู้ใหญ่บ้านทำการตามหน้าที่อันชอบด้วยกฎหมาย
วิธีพิจารณาอาญาการที่จะลงโทษที่รอการลงอาญาไว้แก่จำเลยนั้นโทษครั้งหลังต้องเปนโทษจำคุกด้วย การเพิ่มโทษตาม ม.72 จะเพิ่มได้ต่อเมื่อจำเลยได้รับโทษครั้งก่อนและพ้นโทษมาแล้ว

ว่าตำรวจชาติหมา เปนหมิ่นประมาท