พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 473/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การค้ำประกันความเสียหายจากการปฏิบัติหน้าที่ มิใช่การค้ำประกันหนี้ตามมาตรา 700
ค้ำประกันความเสียหายที่ลูกจ้างจะก่อให้เกิดขึ้นในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการร้านค้า มิใช่เป็นการค้ำประกันหนี้อันจะต้องชำระ ณ เวลามีกำหนดแน่นอนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 700
เมื่อผู้ค้ำประกันถูกฟ้องเป็นจำเลย ผู้ค้ำประกันให้การต่อสู้ว่านายจ้างได้ผ่อนเวลาให้ลูกจ้างชำระเงินที่ยักยอกเอาไปโดยผู้ค้ำประกันมิได้ยินยอมด้วย แต่มิได้ระบุให้ชัดว่านายจ้างได้ผ่อนเวลาให้ตอนไหนเมื่อไรผู้ค้ำประกันจึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ
เมื่อผู้ค้ำประกันถูกฟ้องเป็นจำเลย ผู้ค้ำประกันให้การต่อสู้ว่านายจ้างได้ผ่อนเวลาให้ลูกจ้างชำระเงินที่ยักยอกเอาไปโดยผู้ค้ำประกันมิได้ยินยอมด้วย แต่มิได้ระบุให้ชัดว่านายจ้างได้ผ่อนเวลาให้ตอนไหนเมื่อไรผู้ค้ำประกันจึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 442/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อัยการไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าไถ่ในคดีรับของโจร - เหตุไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงของผู้เสียหาย
ในคดีเรื่องรับของโจร อัยการไม่มีอำนาจฟ้องผู้รับของโจรให้คืนเงินค่าไถ่ทรัพย์แทนผู้เสียหาย เพราะมิใช่ทรัพย์สินหรือราคาที่ผู้เสียหายเสียไปเนื่องจากการกระทำผิดฐานรับของโจร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 437/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเสียหายจากการผิดสัญญาเช่า: ความเสียหายปกติ vs. พฤติการณ์พิเศษ
การที่จำเลยสัญญาจะให้โจทก์เช่าที่ดินซึ่งจำเลยกำลังฟ้องขับไล่ผู้เช่าเดิมออก และโจทก์ได้ให้มัดจำแก่จำเลยและเข้าครอบครองที่ดินนั้นแล้ว โดยจำเลยสัญญาว่าถ้าเสร็จคดี จะเรียกโจทก์มาทำสัญญาจดทะเบียนการเช่า ต่อมาเมื่อเสร็จคดี จำเลยกลับผิดสัญญานั้น ค่าเสียหายที่โจทก์ต้องถูกปรับเพราะไม่อาจโอนสิทธิการเช่าที่ดินเดิมที่โจทก์เช่าอยู่ รวมทั้งขายบ้านให้บุคคลอื่นได้ มิใช่เป็นความเสียหายที่ตามปกติย่อมเกิดขึ้น โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายนี้จากจำเลยไม่ได้
ส่วนเงินที่โจทก์ต้องเสียไปเป็นค่าทำรั้วในที่ดินที่จำเลยสัญญาจะให้โจทก์เช่า โดยจำเลยยอมให้โจทก์ทำได้นั้น เมื่อจำเลยผิดสัญญาย่อมถือว่าเป็นความเสียหายในพฤติการณ์พิเศษ ซึ่งจำเลยคาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นล่วงหน้าก่อนแล้วโจทก์จึงเรียกค่าเสียหายนั้นจากจำเลยได้
ส่วนเงินที่โจทก์ต้องเสียไปเป็นค่าทำรั้วในที่ดินที่จำเลยสัญญาจะให้โจทก์เช่า โดยจำเลยยอมให้โจทก์ทำได้นั้น เมื่อจำเลยผิดสัญญาย่อมถือว่าเป็นความเสียหายในพฤติการณ์พิเศษ ซึ่งจำเลยคาดเห็นหรือควรจะได้คาดเห็นล่วงหน้าก่อนแล้วโจทก์จึงเรียกค่าเสียหายนั้นจากจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 257/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปลอมแปลงเอกสารตามคำสั่ง หากไม่มีเจตนาทุจริตและไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่เป็นความผิด
จำเลยถูกฟ้องหาว่าทำปลอมเอกสาร(จดหมายของผู้เสียหาย) ขึ้นทั้งฉบับ และใช้เอกสาร(จดหมาย)ปลอมนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยทำเอกสาร(จดหมาย) นั้นขึ้นตามคำสั่งของผู้เสียหายแล้ว การกระทำของจำเลยก็ไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา กรณีแจ้งความเท็จทำให้พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า มูลเดิมโจทก์เป็นผู้เสียหายไในคดีอาญาฐานพยายามฆ่าโจทก์ จำเลยเป็นพยานในชั้นสอบสวน โดยชั้นแรกให้การว่าเห็นนายยุงหรือพยุงผู้ต้องหายกปืนขึ้นประทับอกเล็งจ้องมาทางโจทก์ ต่อมาจำเลยแจ้งความเท็จโดยให้การต่อพนังานสอบสวนว่า ข้าฯไม่เห็นนายยุงหรือพยุงยกปืนขึ้นประทับบ่าหรือเล็งจ้องมาทางพันตำรวจเอกพระกล้า ฯ(ใจพล) แต่อย่างไรเห็นแต่นายยุงถือปืนทำท่าจะลงเรือเท่านั้น พันตำรวจเอกพระกล้าฯ บอกให้ข้าพเจ้าให้การ ดังนั้น ข้าฯมีความเกรงใจเพราะเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงให้การคล้อยตามไป อันเป็นเท็จ ทำให้โจทก์เสียหายโดยพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ปล่อยนายยุงหรือพยุงไปเป็นเหตุให้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์ ขอให้ลงโทษตามมาตรา 137,172,200 ดังนี้ หากข้อเท็จจริงฟังได้ดังฟ้อง ก็นับว่าโจทก์ได้รับความเสียหายด้วยคนหนึ่ง จึงมีอำนาจฟ้อง ศาลชั้นต้นจึงต้องดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิจารณาสั่งไปตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 125/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้เสียหายจากการแจ้งความเท็จในคดีอาญาและการเชื่อมโยงความเสียหาย
โจทก์ฟ้องว่า มูลเดิมโจทก์เป็นผู้เสียหายในคดีอาญาฐานพยายามฆ่าโจทก์จำเลยเป็นพยานในชั้นสอบสวนโดยชั้นแรกให้การว่าเห็นนายยุงหรือพยุงผู้ต้องหายกปืนขึ้นประทับอกเล็งจ้องมาทางโจทก์ต่อมาจำเลยแจ้งความเท็จโดยให้การต่อพนักงานสอบสวนว่า ข้าฯไม่เห็นนายยุงหรือพยุงยกปืนขึ้นประทับบ่าหรือเล็งจ้องมาทางพันตำรวจเอกพระกล้าฯ โจทก์แต่อย่างไร เห็นแต่นายยุงถือปืนทำท่าจะลงเรือเท่านั้นพันตำรวจเอกพระกล้าฯ บอกให้ข้าพเจ้าให้การดังนั้น ข้าฯมีความเกรงใจเพราะเป็นผู้ใหญ่แล้ว จึงให้การคล้อยตามไปอันเป็นเท็จ ทำให้โจทก์เสียหายโดยพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ปล่อยนายยุงหรือพยุงไป เป็นเหตุให้คนทั้งหลายดูหมิ่นเกลียดชังโจทก์ขอให้ลงโทษตามมาตรา 137,172,200 ดังนี้หากข้อเท็จจริงฟังได้ดังฟ้อง ก็นับว่าโจทก์ได้รับความเสียหายด้วยคนหนึ่ง จึงมีอำนาจฟ้อง ศาลชั้นต้นจึงต้องดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องแล้วพิจารณาสั่งไปตามกระบวนความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเอกสารที่ทำขึ้นเอง ไม่ถือเป็นเอกสารปลอม หากไม่เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น
หนังสือที่บุคคลคนหนึ่งทำขึ้น บุคคลนั้นก็ชอบที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใดได้ก่อนส่งมอบให้บุคคลอื่นไป แม้บุคคลนั้นจะได้ตัดทอนหนังสือนั้นเสียบางส่วน ก็เป็นการกระทำที่ไม่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้ใด อันจะเป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร หรือใช้เอกสารปลอมได้
ในชั้นฎีกา ศาลส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยไม่ได้ โจทก์ยืนยืนว่าจำเลยแกล้งหลบตัวไม่รับหมายและสำเนาฎีกาด้วยเจตนา ศาลชั้นต้นย่อมส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป
ในชั้นฎีกา ศาลส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยไม่ได้ โจทก์ยืนยืนว่าจำเลยแกล้งหลบตัวไม่รับหมายและสำเนาฎีกาด้วยเจตนา ศาลชั้นต้นย่อมส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขเอกสารภายในองค์กรโดยผู้มีอำนาจ ไม่ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารหากไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย
หนังสือที่บุคคลคนหนึ่งทำขึ้น บุคคลนั้นก็ชอบที่จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างใดได้ก่อนส่งมอบให้บุคคลอื่นไปแม้บุคคลนั้นจะได้ตัดทอนหนังสือนั้นเสียบางส่วน ก็เป็นการกระทำที่ไม่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้ใดอันจะเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอมได้
ในชั้นฎีกา ศาลส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยไม่ได้ โจทก์ยืนยันว่าจำเลยแกล้งหลบตัวไม่รับหมายและสำเนาฎีกาด้วยเจตนา ศาลชั้นต้นย่อมส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป
ในชั้นฎีกา ศาลส่งสำเนาฎีกาให้แก่จำเลยไม่ได้ โจทก์ยืนยันว่าจำเลยแกล้งหลบตัวไม่รับหมายและสำเนาฎีกาด้วยเจตนา ศาลชั้นต้นย่อมส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาพิพากษาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2507 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทในการขับเรือทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ: การพิจารณาอันตรายสาหัสและข้อกำหนดการพิสูจน์ความเสียหาย
ประมาททำให้เขาแขนหักรักษาประมาณ 30 วันหายนั้น ยังไม่ถือเป็นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300
ฟ้องว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสกระดูกปลายแขนซ้ายหักและทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน แต่มิได้นำสืบให้ปรากฎว่าผู้เสียหายต้องทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วันอย่างไร ก็ลงโทษจำเลยฐานทำให้รับอันตรายสาหัสไม่ได้
ฟ้องว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสกระดูกปลายแขนซ้ายหักและทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน แต่มิได้นำสืบให้ปรากฎว่าผู้เสียหายต้องทุพพลภาพป่วยเจ็บด้วยทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วันอย่างไร ก็ลงโทษจำเลยฐานทำให้รับอันตรายสาหัสไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องคดีซ้ำซ้อน: โจทก์ฟ้องคดีใหม่หลังคัดค้านในคดีเดิมไม่ได้ แม้ได้รับความเสียหายจากผลคดี
โจทก์ร้องคัดค้านในคดีก่อนซึ่งจำเลยทั้งสองเป็นคู่ความกันอยู่แล้วและคดีนั้นก็กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล เช่นนี้ โจทก์จะนำมูลกรณีเรื่องเดียวกันนั้นมาฟ้องจำเลยเป็นคดีใหม่อีกไม่ได้