คำพิพากษาที่อยู่ใน Tags
อำนาจศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,218 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์ในการแก้ไขคำพิพากษาศาลชั้นต้น กรณีโจทก์ไม่เคยอุทธรณ์ประเด็นนั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 49784 ดีกว่าจำเลย และให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่48018 และคำขอเลขที่ 48390 เสีย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 49784 ดีกว่าจำเลย มิได้พิพากษาให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 48390 ด้วย โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น ดังนี้พอถือได้ว่า ข้อความในประเด็น ข้อนี้ไม่จำเป็นแก่โจทก์ และโจทก์พอใจในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว ประเด็นข้อนี้เป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 48390 ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1112/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในเครื่องหมายการค้า: ศาลฎีกาวินิจฉัยขอบเขตอำนาจศาลอุทธรณ์ในการแก้ไขคำพิพากษาเดิม
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่ 49784 ดีกว่าจำเลย.และให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอที่48018 และคำขอเลขที่ 48390 เสีย. ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจทก์เป็นผู้มีสิทธิที่จะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 49784 ดีกว่าจำเลย. มิได้พิพากษาให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 48390 ด้วย.โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น. ดังนี้พอถือได้ว่า ข้อความในประเด็น.ข้อนี้ไม่จำเป็นแก่โจทก์. และโจทก์พอใจในผลของคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว ประเด็นข้อนี้เป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น. ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิพากษาแก้.คำพิพากษาศาลชั้นต้นให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่ 48390 ด้วย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1079/2512

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเกี่ยวกับการเลี้ยงดูบุตรหลังหย่ามีผลอย่างไร และศาลใดมีอำนาจพิจารณา
สามีภริยาจดทะเบียนหย่าขาดจากกัน. และทำสัญญากันไว้ว่าให้ภริยาเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรโดยสามียอมส่งเงินค่าเลี้ยงดูบุตรให้ตามจำนวนที่กำหนด. สัญญาดังกล่าวเป็นการระงับข้อพิพาทระหว่างสามีภริยาซึ่งมีอยู่และจะมีขึ้นให้เสร็จกันไป.จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ.
เมื่อสามีผิดสัญญาไม่ส่งเงินค่าเลี้ยงดูบุตร. การที่ภริยามาฟ้องเรียกเงินค่าเลี้ยงดูบุตรจึงเป็นการฟ้องเรียกร้องให้สามีชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความ. หาใช่เป็นคดีที่กล่าวอ้างถึงสิทธิเกี่ยวแก่บุตรที่จะได้รับค่าอุปการะเลี้ยงดูจากบิดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1536. อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลคดีเด็กและเยาวชนไม่.
ตามสัญญาระบุว่า เมื่อภริยาสมรสใหม่จะต้องส่งบุตร 2ใน 4 คนคืนแก่สามี. หากภริยาส่งบุตร 2 คนคืนแก่สามีแล้ว. สามีจะส่งค่าอุปการะเลี้ยงดูเฉพาะบุตรที่อยู่กับภริยาโดยลดจำนวนเงินลง. ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าสามีไม่ประสงค์รับบุตรไปอยู่ด้วยสามีก็ต้องส่งค่าเลี้ยงดูบุตรตามเดิม. แต่ไม่ต้องส่งค่าเลี้ยงดูภริยาซึ่งสมรสใหม่แล้ว. (ข้อกฎหมายตามวรรคแรกและวรรคสอง วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 11/2512).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลแขวงในการพิจารณาคำร้องขัดทรัพย์ แม้ทุนทรัพย์เกิน 5,000 บาท
การพิจารณาชั้นร้องขัดทรัพย์ถือเป็นการพิจารณาในเรื่องเดิมที่โจทก์ฟ้องจำเลย ฉะนั้น แม้คดีร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องได้ตั้งจำนวนทุนทรัพย์มา 5,000 บาท ก็หาเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในคดีขัดทรัพย์: พิจารณาตามทุนทรัพย์เดิมของคดี
การพิจารณาชั้นร้องขัดทรัพย์ถือเป็นการพิจารณาในเรื่องเดิมที่โจทก์ฟ้องจำเลยฉะนั้น แม้คดีร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องได้ตั้งจำนวนทุนทรัพย์มา 5,000 บาท ก็หาเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 901/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในคดีขัดทรัพย์: พิจารณาตามทุนทรัพย์เดิมที่ฟ้อง
การพิจารณาชั้นร้องขัดทรัพย์ถือเป็นการพิจารณาในเรื่องเดิมที่โจทก์ฟ้องจำเลย. ฉะนั้น แม้คดีร้องขัดทรัพย์ ผู้ร้องได้ตั้งจำนวนทุนทรัพย์มา 5,000 บาท ก็หาเกินอำนาจศาลแขวงที่จะพิจารณาพิพากษาไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2511 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภูมิลำเนาจำเลยหลายแห่ง การฟ้องคดีต่อศาลที่มีอำนาจพิจารณา และการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่
จำเลยมีถิ่นที่อยู่ 2 แห่ง โจทก์จะถือเอาแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อยื่นคำฟ้องก็ได้.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล ก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506)
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93 บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน 774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ถิ่นที่อยู่จำเลยหลายแห่ง ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีได้หากจำเลยทราบฟ้องและต่อสู้คดี
จำเลยมีถิ่นที่อยู่ 2 แห่ง โจทก์จะถือเอาแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อยื่นคำฟ้องก็ได้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506)
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93บาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน 774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2511 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการแก้ไขจำนวนเงินที่ฟ้องร้อง แม้คู่ความสละประเด็นอื่น
แม้โจทก์จำเลยจะตั้งประเด็นให้ศาลวินิจฉัยโดยเฉพาะ และต่างแถลงว่าประเด็นอื่นหากมีขอสละก็ตาม ศาลย่อมมีอำนาจที่จะยกค่าภาคหลวงที่โจทก์คิดเกินขึ้นวินิจฉัยได้เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมูลหนี้และอำนาจฟ้องในส่วนที่เรียกร้องเกินมา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2511

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการพิจารณาหนี้ที่เกินกว่าที่คู่ความตกลง แม้มีการจำกัดประเด็นในการวินิจฉัย
แม้โจทก์จำเลยจะตั้งประเด็นให้ศาลวินิจฉัยโดยเฉพาะ และต่างแถลงว่าประเด็นอื่นหากมีขอสละก็ตาม. ศาลย่อมมีอำนาจที่จะยกค่าภาคหลวงที่โจทก์คิดเกินขึ้นวินิจฉัยได้.เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมูลหนี้และอำนาจฟ้องในส่วนที่เรียกร้องเกินมา.
of 222