พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,842 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมรถและการรับผิดในความเสียหายจากเหตุสุดวิสัย ผู้ยืมไม่ต้องรับผิดหากความเสียหายไม่ได้เกิดจากความผิดของตน
ยืมรถของผู้อื่นไปใช้อย่างปกติ แล้วถูกรถของบุคคลภายนอกชนเสียหาย โดยไม่ใช่ความผิดของฝ่ายผู้ยืม ผู้ยืมก็ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยืมรถและการรับผิดในความเสียหายจากบุคคลภายนอก: ผู้ยืมไม่ต้องรับผิดหากความเสียหายมิได้เกิดจากความผิดของตน
ยืมรถของผู้อื่นไปใช้อย่างปกติ แล้วถูกรถของบุคคลภายนอกชนเสียหาย โดยไม่ใช่เพราะความผิดของฝ่ายผู้ยืมผู้ยืมก็ไม่ต้องรับผิดในความเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 360/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิดไม่ลดลงจากการถอนฟ้องผู้ร่วมกระทำละเมิดอื่น
เมื่อจำเลยละเมิดทำให้โจทก์เสียหายแล้วศาลก็พิพากษาให้จำเลยรับผิดในความเสียหายนั้นตามพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 การที่มีผู้อื่นทำละเมิดจะต้องรับผิดในความเสียหายนั้นอีกหรือไม่ไม่ทำให้ความรับผิดของจำเลยลดลงแต่ประการใดฉะนั้น การที่โจทก์จะฟ้องผู้ทำละเมิดแต่บางคนหรือถอนฟ้องบางคนก็ไม่ทำให้ความรับผิดของจำเลยผู้ทำละเมิดและต้องรับผิดดังกล่าวแล้วเปลี่ยนแปลงไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301-302/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำละเมิดปิดกั้นทางน้ำ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน การพิสูจน์ช่วงเวลาการกระทำ
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2500 จำเลยทำคันดินปิดคลองบางเทพ เป็นเหตุให้น้ำท่วมนาโจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความตกลงกันว่า ขอสืบพยานร่วมกัน 3 ปากว่า คันดินตามแผนที่กลางนั้น จำเลยทำขึ้นเมื่อใด ถ้าได้ความว่าทำขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2500 ่ตามฟ้องแล้ว ถือว่าจำเลยแพ้ในข้อนี้ ถ้าได้ความว่าจำเลยได้ทำมาก่อนแล้ว ถือว่าโจทก์แพ้ทั้งคดี ปรากฏว่าพยานร่วมเบิกความว่าชั้นเดิมจำเลยทำเป็นคันนาธรรมดาและไม่ติดต่อเป็นแนวเดียวกัน ถึงหน้าน้ำ ๆ ไหลผ่านพ้นไปได้ ครั้นเดือนกรกฎาคม 2500 จำเลยได้ทำคันดินเสริมคันนาเดิมสูงเพิ่มขึ้นเป็น 60 เซ็นติเมตร และกั้นตลอดเป็นแนวเดียวกัน น้ำไหลผ่านไม่ได้ จึงท่วมนาโจทก์ ดังนี้ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยทำคันดินในเดือนกรกฎาคม 2500 ตามที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301-302/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่เป็นเหตุให้น้ำท่วม การสร้างคันดินขวางทางน้ำ และความรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อเดือนกรกฎาคม 2500 จำเลยทำคันดินปิดคลองบางเทพเป็นเหตุให้น้ำท่วมนาโจทก์ จำเลยให้การปฏิเสธ ในวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความตกลงกันว่า ขอสืบพยานร่วมกัน 3 ปากว่า คันดินตามแผนที่กลางนั้น จำเลยทำขึ้นเมื่อใดถ้าได้ความว่าทำขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2500 ตามฟ้องแล้ว ถือว่าจำเลยแพ้ในข้อนี้ ถ้าได้ความว่าจำเลยได้ทำมาก่อนแล้ว ถือว่าโจทก์แพ้คดี ปรากฏว่าพยานร่วมเบิกความว่าชั้นเดิมจำเลยทำเป็นคันนาธรรมดาและไม่ติดต่อเป็นแนวเดียวกันถึงหน้าน้ำๆ ไหลผ่านพ้นไปได้ครั้นเดือนกรกฎาคม 2500 จำเลยได้ทำคันดินเสริมคันนาเดิมสูงเพิ่มขึ้นเป็น 60 เซ็นติเมตรและกั้นตลอดเป็นแนวเดียวกัน น้ำไหลผ่านไม่ได้จึงท่วมนาโจทก์ ดังนี้ ย่อมได้ชื่อว่าจำเลยทำคันดินในเดือนกรกฎาคม 2500 ตามที่โจทก์ฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกบริษัทโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถือหุ้นมีสิทธิฟ้องปลดเปลื้องความเสียหาย
จำเลยที่ 5 ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ยื่นฟ้องบริษัทจำเลยที่ 1 ขอให้เลิกบริษัทจำเลยที่1 จำเลยที่ 2 ในฐานะกรรมการของบริษัทจำเลยที่ 1 ได้ยื่นคำให้การต่อสู้คดี แล้วต่อมาจำเลยที่ 5 กับจำเลยที่ 2 ตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้เลิกบริษัทจำเลยที่ 1 ศาลได้พิพากษาตามยอมโดยหาได้ชี้ขาดข้อเท็จจริงว่ามีเหตุที่จะเลิกบริษัทดังฟ้องไม่ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 5 จึงเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1194,1236(4) โจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ 1 อยู่ด้วย ย่อมมีอำนาจฟ้องคดีปลดเปลื้องความเสียหาย โดยขอให้ศาลแสดงว่าคำพิพากษาตามยอมในคดีนั้นไม่กระทบกระเทือนถึงสิทธิของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่ 1ในอันที่จะให้บริษัทจำเลยที่ 1 คงมีอยู่ต่อไปได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1991/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต – อายุความ 1 ปี
ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งจ่ายเงินผิดประเภท โดยไม่มีอำนาจ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้จังหวัดได้รับความเสียหาย กรณีเช่นนี้เป็นละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 โจทก์ต้องฟ้องภายในอายุความ 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 448
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1968/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขุดทำนบสาธารณะเสียหาย แม้ไม่ถึงอันตรายร้ายแรง ก็ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360
เมื่อจำเลยรับว่าได้ขุดทำนบซึ่งบุคคลใช้เป็นทางสาธารณะขาดออกกว้าง 7 วา ยาว 5 วาจริง แต่ต่อสู้ว่าไม่ได้ทำให้ทางสาธารณะเสียหายและไม่เป็นอันตรายต่อการจราจร ดังนี้ ทำนบซึ่งใช้เป็นทางสัญจรไปมานี้ เป็นทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ เมื่อจำเลยทำการขุดในลักษณะดังกล่าวข้างต้น ถือได้ว่าจำเลยทำให้เสียหายย่อม มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ส่วนที่จะผิดตามมาตรา 229 ด้วยหรือไม่นั้น เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากพยานโจทก์เพียงว่าราษฎรไม่อาจเดินหรือใช้เกวียนบนทำนบนี้ได้ก่อนที่จะถมให้กลับคืนโดยไม่ปรากฏว่ามีลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจรแต่อย่างใด ต้องถือว่าจำเลยได้ทำแต่เพียงให้ทางเสียหายใช้การไม่ได้ไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น จำเลยจึงไม่ผิดตามมาตรา 229 ด้วย
ข้อที่จำเลยอ้างว่าจำเลยขุดทำนบเสียหายก็เพื่อระบายน้ำออกจากนาจำเลย มิฉะนั้นน้ำจะท่วมข้าวของจำเลยตายหมดนั้น ไม่พอจะก่อให้เกิดสิทธิอันเป็นความจำเป็นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 ได้
ข้อที่จำเลยอ้างว่าจำเลยขุดทำนบเสียหายก็เพื่อระบายน้ำออกจากนาจำเลย มิฉะนั้นน้ำจะท่วมข้าวของจำเลยตายหมดนั้น ไม่พอจะก่อให้เกิดสิทธิอันเป็นความจำเป็นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 67 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725-1726/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของธนาคารตัวแทนเรียกเก็บเงินเช็ค กรณีลูกหนี้ชำระหนี้ได้เพียงบางส่วน และการละเลยการบรรเทาความเสียหายของเจ้าหนี้
การที่ธนาคารจำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คที่โจทก์นำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ไม่ได้ ก็มิได้แจ้งให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันควรแก่หน้าที่ตัวแทนนั้น หากปรากฎว่า ถึงอย่างไรลูกหนี้ตามเช็คก็สามารถชำระหนี้ได้เพี่ยงร้อยละ 50 แล้ว ก็จะถือว่าจำเลยทำให้โจทก์เสียหายมากกว่านี้ไม่ได้ และหากโจทก์มีโอกาสจะรับชำระหนี้ร้อยละ 50 จากลูกหนี้ แต่กลับไม่รับชำระเป็นการบำบัดปัดป้องหรือบรรเทาความเสียหายแล้ว ก็ถือว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดให้เกิดความเสียหายด้วยจำเลยจึงไม่ต้องรับผิด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1725-1726/2506
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่ตัวแทนเรียกเก็บเช็ค, ความเสียหายจากเช็คไม่สามารถเรียกเก็บได้, การบรรเทาความเสียหายของเจ้าหนี้
การที่ธนาคารจำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คที่โจทก์นำฝากเข้าบัญชีของโจทก์ไม่ได้ ก็มิได้แจ้งให้โจทก์ทราบภายในเวลาอันควรแก่หน้าที่ตัวแทนนั้น หากปรากฏว่าถึงอย่างไรลูกหนี้ตามเช็คก็สามารถชำระหนี้ได้เพียงร้อยละ 50 แล้ว ก็จะถือว่าจำเลยทำให้โจทก์เสียหายมากกว่านี้ไม่ได้ และหากโจทก์มีโอกาสจะรับชำระหนี้ร้อยละ 50 จากลูกหนี้แต่กลับไม่รับชำระ เป็นการบำบัดปัดป้องหรือบรรเทาความเสียหายแล้วก็ถือว่าโจทก์มีส่วนทำความผิดให้เกิดความเสียหายด้วย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด