พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,834 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: การพิจารณาความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและลักษณะฉกรรจ์
ความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 251 ตอน 2 นั้นจะต้องได้ความว่า มีลักษณะฉกรรจ์ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังที่กล่าวในมาตรา 250
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1838/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจพนักงานอัยยการลงชื่อฟ้อง และความเพียงพอของคำฟ้องคดีทำร้ายร่างกาย
พนักงานอัยยการผู้ได้รับแต่งตั้งโดยชอบแล้วมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ในฟ้องในฐานพนักงานอัยยการได้ แม้ผู้ลงชื่อจะต่างคนกับที่วงเล็บไว้ที่หน้าฟ้องก็ไม่สำคัญ
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกาย ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดใช้อาวุธอย่างไร ทำร้ายแผลไหน
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกาย ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดใช้อาวุธอย่างไร ทำร้ายแผลไหน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1838/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของพนักงานอัยการ และความเพียงพอของคำฟ้องในคดีสมคบทำร้ายร่างกาย
พนักงานอัยการผู้ได้รับแต่งตั้งโดยชอบแล้วมีอำนาจลงชื่อเป็นโจทก์ในฟ้องในฐานพนักงานอัยการได้ แม้ผู้ลงชื่อจะต่างคนกับที่วงเล็บไว้ที่หน้าฟ้องก็ไม่สำคัญ
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกาย ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดใช้อาวุธอย่างไร ทำร้ายแผลไหน
ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายร่างกาย ไม่จำต้องระบุว่าจำเลยคนใดใช้อาวุธอย่างไร ทำร้ายแผลไหน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1726/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย แม้ไม่ได้อ้างมาตรา 63 ก็สามารถฟ้องฐานสมคบได้หากมีพฤติการณ์บ่งชี้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกับพวกมีศาสตราวุธครบมือทุกคนกลุ้มรุมกันใช้ไม้ตีและหอกแทงผู้ตาย ถึงแก่ความตาย เข้าใจได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมมือกันทำร้ายผู้ตาย โจทก์ไม่จำต้องอ้าง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 63
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1671/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายโดยบรรดาลโทสะจากเหตุลวนลามภรรยา ศาลลดโทษได้
ผู้เสียหายได้ไปลวนลามภรรยาจำเลย จำเลยจึงตามมาทำร้ายผู้เสียหาย ดังนี้ ฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบรรดาลโทษะ ควรลดโทษให้จำเลยตามมาตรา 55 ก.ม.ลักษณะอาญา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบรรยายฟ้องทำร้ายร่างกายและการพิจารณาคดีวิวาทต่อสู้กันถึงตาย ศาลต้องลงโทษตามที่บรรยายฟ้อง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำร้าย ช.และ ส.ฝ่ายเดียวตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 256 ทางพิจารณาได้ความว่า เป็นกรณีวิวาทต่อสู้กันถึงตาย ดังนี้ จะลงโทษจำเลยตามมาตรา 253 ไม่ได้
(อ้างฎีกาที่ 1232/2481 และ ฎีกาที่ 740/2482)
(อ้างฎีกาที่ 1232/2481 และ ฎีกาที่ 740/2482)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การหน่วงเหนี่ยวกักขัง ทำร้ายร่างกาย และเสื่อมเสียอิสรภาพ ศาลต้องพิจารณาข้อหาอย่างครบถ้วน
คดีได้ความจากคำเบิกความของผู้เสียหายว่า จำเลยบอกว่าจะจับตัวไปส่งสถานีตำรวจ แล้วจำเลยก็คุมตัวผู้เสียหายไป และเตะผู้เสียหายในระหว่างทาง แล้วหาส่งตัวผู้เสียหายต่อกำนันหรืออำเภอไม่ เพียงเท่านี้ ศาลจะด่วนยกข้อหาฐานทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพตาม กฎหมายลักษณะอาญามาตรา 270 เสียโดยไม่พิจารณาให้สิ้นกระแสความตามกระบวนพิจารณาหาชอบได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวและการป้องกันเกียรติยศ: ศาลฎีกาตัดสินให้ยกฟ้องคดีทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย
ผู้ตายและภรรยาของจำเลยได้หลับนอนกระทำชู้กันที่บ้านเรือนของจำเลย จำเลยได้มาพบผู้ตายกับภรรยาจำเลยนอนกอดกันอยู่ จำเลยได้เรียกภรรยาให้จุดตะเกียง ผู้ตายได้ถือมีดกระโดดแทงจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ ย่อมฟังได้ว่า จำเลยได้ใช้มีดฟัน เพื่อป้องกันตัวและชื่อเสียงพอสมควรแก่เหตุยังไม่ควรต้องได้รับโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1529/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาต้องอาศัยข้อเท็จจริงเดียวกันกับข้อหาทำร้ายร่างกาย หากศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาต้องถือตาม
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกันกระทำผิดฐานบุกรุกทำร้ายร่างกาย และฆ่าคน โดยเจตนา ศาลชั้นต้นไม่เชื่อข้อเท็จจริงว่าจำเลยกระทำผิดพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องโจทก์ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาไม่สมบูรณ์ส่วนข้อหาฐานอื่นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดดังศาลชั้นต้น พิพากษายืน โจทก์ฎีกาข้อกฎหมายเรื่องการฟ้องในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ดังนี้ การจะลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายนี้ ก็ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับข้อหาฐานทำร้ายร่างกายซึ่งศาลล่างวินิจฉัยไปแล้วนั่นเอง เพราะเกิดจากการกระทำคราวเดียวกัน เมื่อศาลล่างไม่เชื่อว่าจำเลยกระทำผิด ศาลฎีกาก็ต้องถือตาม จึงลงโทษจำเลยไม่ได้ ไม่จำต้องวินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์จะสมบูรณ์ในข้อหาฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาหรือไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายถึงแก่ความตาย แม้ข้อเท็จจริงในการพิจารณาคดีแตกต่างจากที่ฟ้อง
โจทก์ฟ้องว่า จ. กับพวกฝ่ายหนึ่ง ย.กับพวกอีกฝ่ายหนึ่งต่างใช้ มีด ไม้ ครกแตก และกำลังกายวิวาททำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ย. ถึงแก่ความตายโดย จ.ใช้มีดซุยแทงย. แม้ทางพิจารณาจะไม่ได้ความว่า จ.ได้เข้าวิวาทต่อสู้กับจำเลยอื่นดังที่โจทก์กล่าวในฟ้อง แต่ฟ้องโจทก์กล่าวชัดแล้วว่า จ. ใช้มีดซุยแทงย.โดยเจตนาจะฆ่าให้ตาย ยังได้อ้าง กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249มาเป็นบทลงโทษด้วย ดังนี้ จะว่าทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้องไม่ได้ จึงลงโทษจ. ตามมาตรา 249 ได้