พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,786 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 973/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อพิพาทมรดก: สัญญาต่างตอบแทนกับการถือครองที่ดินโดยทายาท ผู้รับมรดกมีหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์
โจทก์ฟ้องว่า ช. บิดาโจทก์จำเลยได้เอาที่ดินเนื้อที่ 19 ไร่เศษมาตีเป็นทองคำหมั้นให้แก่ ข. 6 ไร่ในเวลาที่โจทก์กับ ข. สมรสกัน. และกองทุนให้โจทก์กับข. อีก 4 ไร่ รวมเป็น 10 ไร่. โจทก์กับ ข.มีบุตรคนหนึ่ง. ข. ตาย ที่ 10 ไร่จึงตกได้แก่โจทก์และบุตร. จึงขอให้ศาลแสดงว่าโจทก์มีกรรมสิทธิ์ในที่นา 10 ไร่ ห้ามมิให้จำเลยเกี่ยวข้อง. ดังนี้ ต้องแปลฟ้องโจทก์ว่า โจทก์มิได้ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้รับมรดก ช.ให้โอนที่ให้แก่โจทก์ตามสัญญาที่ช.ทำไว้กับโจทก์และ ข.. แต่ฟ้องโดยถือว่าที่ตกเป็นของ ข. และโจทก์แล้ว 10 ไร่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาปราณีประนอมยอมความและการบังคับตามสัญญา หากศาลบังคับตามสัญญาแล้ว ประเด็นเรื่องมรดกย่อมสิ้นสุด
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่ดินโฉนดที่ 291 ร่วมกับ ท. ท.ตายมีผู้รับมฤดกส่วนของ ท.ต่อมาเป็นทอด ๆ จนถึง ด. เมื่อ ด. ตาย โจทก์,จำเลยเป็นผู้รับมฤดกของ ด. ร่วมกันและได้ทำสัญญาปราณีประนอมกัน คือ จำเลยยอมแบ่งที่ดินโฉนดที่ 505 ตามเขตต์ที่โจทก์ปกครองให้โจทก์ และโจทก์ยอมให้จำเลยรับมฤดกของ ด.แต่ผู้เดียว บัดนี้จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอม โจทก์จึงฟ้องโดยมีคำขอท้ายฟ้อง ดังนี้
1. ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอมยอมความ หรือมิฉะนั้นให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ 291 ในฐานะผู้รับมฤดกของ ด.
2. ขอให้ที่นาส่วนของ ด.เป็นมฤดกตามเดิม
3. แบ่งที่นามฤดกของ ด. ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
ดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัตตามสัญญาปราณีประนอมเป็นข้อต้น ถ้าศาลไม่บังคับให้ จึงขอให้บังคับจำเลยตามคำขอในข้ออื่น ๆ อันเกี่ยวกับมฤดกของ ด. ฉะนั้นเมื่อศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอมแล้ว ก็เป็นอันไม่มีประเด็นจะต้องไปชี้ในเรื่องที่ดินโฉนดที่ 291 อันเกี่ยวกับมฤดกของ ด. อีก.
1. ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอมยอมความ หรือมิฉะนั้นให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ 291 ในฐานะผู้รับมฤดกของ ด.
2. ขอให้ที่นาส่วนของ ด.เป็นมฤดกตามเดิม
3. แบ่งที่นามฤดกของ ด. ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
ดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัตตามสัญญาปราณีประนอมเป็นข้อต้น ถ้าศาลไม่บังคับให้ จึงขอให้บังคับจำเลยตามคำขอในข้ออื่น ๆ อันเกี่ยวกับมฤดกของ ด. ฉะนั้นเมื่อศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาปราณีประนอมแล้ว ก็เป็นอันไม่มีประเด็นจะต้องไปชี้ในเรื่องที่ดินโฉนดที่ 291 อันเกี่ยวกับมฤดกของ ด. อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 961/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความและการบังคับตามสิทธิในมรดก หากศาลบังคับตามสัญญาประนีประนอมแล้ว ประเด็นเรื่องมรดกย่อมสิ้นสุด
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ 291 ร่วมกับท. ท.ตายมีผู้รับมรดกส่วนของ ท.ต่อมาเป็นทอดๆจนถึงด. เมื่อ ด. ตาย โจทก์,จำเลยเป็นผู้รับมรดกของด ร่วมกันและได้ทำสัญญาประนีประนอมกันคือจำเลยยอมแบ่งที่ดินโฉนดที่ 505 ตามเขตที่โจทก์ปกครองให้โจทก์และโจทก์ยอมให้จำเลยรับมรดกของ ด. แต่ผู้เดียว บัดนี้จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอม โจทก์จึงฟ้องโดยมีคำขอท้ายฟ้อง ดังนี้
1. ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมิฉะนั้นให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ 291 ในฐานะผู้รับมรดกของด.
2. ขอให้ที่นาส่วนของ ด. เป็นมรดกตามเดิม
3. แบ่งที่นามรดกของ ด. ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
ดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมเป็นข้อต้น ถ้าศาลไม่บังคับให้ จึงขอให้บังคับจำเลยตามคำขอในข้ออื่นๆ อันเกี่ยวกับมรดกของ ด.ฉะนั้นเมื่อศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมแล้วก็เป็นอันไม่มีประเด็นจะต้องไปชี้ในเรื่องที่ดินโฉนดที่ 291 อันเกี่ยวกับมรดกของ ด. อีก
1. ให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความหรือมิฉะนั้นให้ถอนชื่อจำเลยออกจากโฉนดที่ 291 ในฐานะผู้รับมรดกของด.
2. ขอให้ที่นาส่วนของ ด. เป็นมรดกตามเดิม
3. แบ่งที่นามรดกของ ด. ให้โจทก์ครึ่งหนึ่ง
ดังนี้ ต้องแปลว่าโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมเป็นข้อต้น ถ้าศาลไม่บังคับให้ จึงขอให้บังคับจำเลยตามคำขอในข้ออื่นๆ อันเกี่ยวกับมรดกของ ด.ฉะนั้นเมื่อศาลบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมแล้วก็เป็นอันไม่มีประเด็นจะต้องไปชี้ในเรื่องที่ดินโฉนดที่ 291 อันเกี่ยวกับมรดกของ ด. อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกและการขาดอายุความฟ้องร้องแบ่งมรดก
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมฤดก ต. ซึ่งปรากฎในคำฟ้องว่า ตายมาประมาณ 5 ปีแล้ว โดยโจทก์อ้างว่า โจทก์,จำเลยได้ครอบครองร่วมกันมา เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าทายาทได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มฤดกมาแต่ผู้เดียว โจทก์ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมีการช่วยทำนาบ้าง แต่ไปทำเพราะช่วยจำเลย โดยจำเลยมีคนน้อย ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มฤดกร่วมมากับจำเลย คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมฤดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น.
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมฤดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 960/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองทรัพย์มรดกและการขาดอายุความ การครอบครองร่วมต้องปรากฏชัดเจน
โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก ต.ซึ่งปรากฏในคำฟ้องว่าตายมาประมาณ5 ปีแล้ว โดยโจทก์อ้างว่า โจทก์จำเลยได้ครอบครองร่วมกันมา เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่าทายาทได้มอบให้จำเลยครอบครองทรัพย์มรดกมาแต่ผู้เดียวโจทก์ไปอยู่ที่อื่น ซึ่งมีการช่วยทำนาบ้าง แต่ไปทำเพราะช่วยจำเลย โดยจำเลยมีคนน้อย ดังนี้ ฟังไม่ได้ว่าโจทก์ได้ครอบครองทรัพย์มรดกร่วมมากับจำเลย คดีของโจทก์ก็ขาดอายุความ
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมรดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น
ข้อที่โจทก์เบิกความว่าจำเลยครอบครองมรดกไว้แทนโจทก์นั้น โจทก์ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำฟ้อง ต้องถือว่าความข้อนี้นอกประเด็น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งทรัพย์มรดกขัดต่อสิทธิผู้รับพินัยกรรมก่อนเจ้ามรดกเสียชีวิต สัญญาเป็นโมฆะ
เจ้ามฤดกได้ทำพินัยกรรม์ยกที่ดินให้แก่ผู้รับพินัยกรรม แต่ก่อนเจ้ามฤดกถึงแก่ความตาย ผู้รับพินัยกรรมต่างตกลงแบ่งทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้นกันใหม่ โดยไม่ถือสิทธิที่จะได้ตามพินัยกรรม ดังนี้ สัญญาแบ่งทรัพย์ย่อมไม่มีผล เพราะขัดต่อ ป.ม.แพ่ง ฯ มาตรา 1619.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 909/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาแบ่งมรดกขัดต่อกฎหมายเมื่อทำก่อนเจ้ามรดกเสียชีวิตและเพิกถอนสิทธิในพินัยกรรม
เจ้ามรดกได้ทำพินัยกรรมยกที่ดินให้แก่ผู้รับพินัยกรรมแต่ก่อนเจ้ามรดกถึงแก่ความตาย ผู้รับพินัยกรรมต่างตกลงแบ่งทรัพย์ตามพินัยกรรมนั้นกันใหม่ โดยไม่ถือสิทธิที่จะได้ตามพินัยกรรม ดังนี้ สัญญาแบ่งทรัพย์ย่อมไม่มีผลเพราะขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1619
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำและสิทธิในมรดก: ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินตามสิทธิที่ปรากฏในคำพิพากษาเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งขอให้ห้ามจำเลยอย่าให้เข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท ศาลพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง คดีถึงที่สุด โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทแปลงนั้น ดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ เพราะคดีเป็นคนละประเด็น
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมฤดกอีก 3 คน สิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น.
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมฤดกอีก 3 คน สิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องซ้ำ-สิทธิในที่ดินมรดก: ศาลพิพากษาให้แบ่งทรัพย์สินตามสิทธิที่ปรากฏในคำพิพากษาเดิม
โจทก์เคยฟ้องจำเลยมาครั้งหนึ่งขอให้ห้ามจำเลยอย่าให้เข้ามาเกี่ยวข้องในที่ดินพิพาท ศาลพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องห้ามจำเลยมิให้เกี่ยวข้อง คดีถึงที่สุด โจทก์จึงมาฟ้องขอแบ่งที่ดินพิพาทแปลงนั้นดังนี้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำเพราะคดีเป็นคนละประเด็น
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมรดกอีก 3 คนสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ์ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น
ตามคำพิพากษาของศาลในคดีก่อนอันถึงที่สุดแล้วว่า โจทก์มีสิทธิในที่พิพาทร่วมกับจำเลย โดยโจทก์สืบสิทธิมาจากผู้รับมรดกอีก 3 คนสิทธิของโจทก์ในที่พิพาทจะเป็นเพียงสิทธิครอบครอง หรือกรรมสิทธิ์ จึงไม่เป็นประเด็นจะต้องวินิจฉัย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งได้ตามสิทธิในทรัพย์สินนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 876/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งมรดกขาดอายุความ: สิทธิเรียกร้องแบ่งมรดกของผู้รับมรดกบางรายหมดอายุ ทำให้สิทธิในการแบ่งตกแก่ผู้มีสิทธิรายอื่น
โจทก์ฟ้องขอให้แบ่งที่ดินมฤดกให้โจทก์ 4 คน ๆ ละ 1 ใน 5 ปรากฎว่าโจทก์ที่ 1 แต่ผู้เดียวยังคงปกครองร่วมกับจำเลย ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งที่พิพาทให้โจทก์ที่ 1, 1 ใน 5.